ปราจีนบุรี – ชายวัย 64 ปี ตัดไม้ในป่า ต้นไม้ล้มทับดับคาที่ใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เมื่อเย็นวันที่ 24 ต.ค.64 มีคนถูกต้นไม้ล้มทับสาหัสในป่าใกล้กับ สภ.กบินทร์บุรี ทราบชื่อคือ นายเขลา พรหมมาตย์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 ม.8 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังเกิดเหตุทีมกู้ชีพ รพ.กบินทร์บุรี เดินทางมาช่วยเหลือ ขณะนั้นมีเพื่อนร่วมงานปั้มหัวใจผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว และได้เสียชีวิตในเวลาไร่เรี่ยกัน ญาตินำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองช้างลง ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ทั้งนี้ จากการสอบถาม นายสมใจ นามสมมุติ คนงาน บอกว่า เจ้าของที่ได้จ้างคนงานมาปรับที่ ตัดต้นไม้ มีคนงาน 3-4 คน มาตัดไม้ ขณะนั้นได้เวลาพักเที่ยงคนงานจึงพักกินข้าวและได้เรียกผู้ตายมากินข้าว แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ทุกคนคิดว่า เดี๋ยวก็เดินออกมากินข้าว กินข้าวเสร็จผู้ตายก็ยังไม่ออกมา จึงจะเดินไปตามหา ขณะเดียวกัน ภรรยาผู้ตายมาถามหาผู้ตาย เพราะสามีไม่ออกมากินข้าว ซึ่งรู้ดีว่า สามีเป็นคนขยัน เวลาทำงานจะทำไม่หยุด จะกินข้าวเที่ยงจะกินไม่ตรงเวลา เลยเวลาไปบ้างทุกครั้ง
ขณะที่เดินมาได้ 5 เมตร ตรงบริเวณปรับที่ไปแล้ว ช่วงเช้ามีบางอย่างอยู่ตรงหน้า เมื่อมองไปเห็นว่า ผู้ตายนอนอยู่บริเวณปลายต้นไม้ เป็นต้นไม้ที่ยืนต้นตาย เมื่อเข้ามาดูใกล้ ๆ พบว่า ผู้ตายนอนจมกองเลือด จึงโทร.แจ้งตำรวจ ตำรวจบอกให้ปั้มหัวใจ จะแจ้งกู้ชีพมาช่วยเหลือ หลังปั้มหัวใจอยู่นาน ก็ไม่รู้สึกตัว กระทั่งกู้ชีพเดินทางมาถึง และทราบว่า ผู้ตายเสียชีวิตก่อนหน้านี้แล้ว
ด้านป้าบพิตร์ พรหมมาตย์ อายุ 63 ปี ภรรยา กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็น หลังได้เวลาพักเที่ยงคนงานพักกินข้าวกัน สามีเป็นคนขยันไม่ชอบอยู่เฉย มีมีดก็ถางฟันเถาเครือไปเรื่อย คาดว่า ขณะเกิดเหตุสามีอาจจะเดินฟันเถาเครือไปตามปกติ ขณะนั้นทุกคนรู้ดีว่า ลมหนาวเริ่มพัดมาแรงแล้ว เป็นจังหวะที่สามีเดินมาถึงต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นตาย บริเวณปลายไม้พาดต้นไม้ต้นหนึ่ง
และเมื่อถูกแรงเหวี่ยง จึงทำให้หักโค่นลงมาขณะที่ผู้ตายเดินมาถึงทำให้หักโค่นลงมา ตอนที่ผู้ตายเดินมาถึงบริเวณนั้นพอดี ต้นไม้ล้มลงมาถูกผู้ตายที่ศีรษะอย่างแรง ทำให้กะโหลกยุบ เสียชีวิตอยู่บริเวณนั้น กระทั่งเพื่อนคนงานเดินมาพบ แต่ก็ช่วยไม่ได้ หลังจากชันสูตรการเสียชีวิตของสามีแล้ว ไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของสามี จึงได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด โดยจะตั้งบำเพ็ญกุศลศพ 2 คืน
———————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
