สระแก้ว – พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล นั่ง ฮ.ลงพื้นที่สระแก้ว หลังตำรวจไทยประสานสถานทูตช่วยคนไทย 48 คน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนหลอกลวงผ่านเฟซบุ๊ก เข้าข่ายค้ามนุษย์ บังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย เพื่อหลอกลวงคนไทยจำนวนมาก
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 29 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อโทรทัศน์ต่าง ๆ ว่ามีคนไทยถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา และได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการไทยเพื่อให้ช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศไทย ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียตามที่ทราบแล้วนั้น กรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือเหยื่อคนไทยเป็นการเร่งด่วน พร้อมทั้งขยายผลถึงเครือข่ายผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ ถือโอกาสที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19 ซ้ำเติมประชาชน หลอกลวงไปบังคับใช้แรงงาน และทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปในสังคม
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. ประสานงานกับสถานทูตไทย ประจำกรุงพนมเปญ และผู้ช่วยทูตตำรวจไทย ประจำประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง สามารถช่วยเหลือคนไทยซึ่งถูกหลอกลวงกลับมาได้อย่างปลอดภัย จำนวน 48 คน แบ่งเป็น จากกรุงพนมเปญ 23 คน, จากเมืองสีหนุวิลล์ 23 คน และจากเมืองเสียมเรียบ 2 คน หลังจากได้รับคำสั่งการจากผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้ประสานงานไปยังสถานทูตไทย ประจำประเทศกัมพูชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือคนไทยกลุ่มนี้เป็นการด่วน
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่า ขบวนการดังกล่าว มีคนจีนเป็นหัวหน้า เคลื่อนไหวอยู่ในหลายเมืองในประเทศกัมพูชา ทั้งกรุงพนมเปญ เมืองพระสีหนุ และ เมืองเสียมเรียบ โดยพฤติการณ์ จะมีการลงโฆษณารับสมัครงานบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก โดยหลอกลวงว่า มีงานในประเทศกัมพูชา จ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูง เดือนละ 20,000-30,000 บาท หลังจากมีผู้หลงเชื่อมาสมัคร ได้มีการว่าจ้างขบวนการนำพาคนเดินทางเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมาย ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ โดยกลุ่มผู้เสียหายให้การว่า พวกตนต้องเดินเท้าผ่านป่า ตามแนวตะเข็บชายแดน ข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นจะ มีรถมารับไปกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ไม่ทราบชื่อ ต่อมา มีการส่งตัวต่อให้กับนายทุนชาวจีน บังคับให้ทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งส่ง SMS หลอกลวงคนไทย ซึ่งมีคนไทยหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท
นอกจากนั้น เหยื่อยังให้ข้อมูลอีกว่า ผู้ที่ถูกหลอกไป หลังจากทราบว่า ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน ทั้งในส่วนของลักษณะงานและค่าตอบแทน จึงขอเดินทางกลับ แต่ได้ถูกนายจ้างปฏิเสธ มีการเรียกร้องเอาทรัพย์สิน กักขัง ให้อดอาหาร และขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย พวกตนจึงขอความช่วยเหลือจากทางการไทย จนกระทั่ง ได้รับการช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า คนไทยกลุ่มนี้เมื่อกลับเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จะต้องเข้ากักตัวตามมาตรการสาธารณสุข หลังจากนั้น สตช.จะมีการสอบปากคำผู้เสียหายทุกรายอย่างละเอียด เพื่อขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมด ทั้งในส่วนของผู้ชักชวน นายหน้า ผู้นำพา พร้อมทั้งประสานกับทางการกัมพูชา เพื่อดำเนินคดีกับนายจ้างชาวจีนต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงพฤติการณ์ของขบวนการดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปไม่ตกเป็นเหยื่อ หากพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) หรือที่ https://www.facebook.com/ antihumantraffickingpolice เพื่อให้การช่วยเหลือและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป
—————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: