X

ไม่รอ MOU!! จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 4 จุด 61 ราย

สระแก้ว – กองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว สามารถจับกุมชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวนมา 4 จุด รวมชาวกัมพูชา 61 คน แม้ว่าทางการจะประกาศเตรียมเปิดให้มีการทำเอ็มโอยู นำเข้าแรงานอย่างถูกกฎหมายก็ตาม

เมื่อวันที่ 18 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กกล.บูรพา จ.สระแก้ว สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดนทุกจุดเข้มงวดกวดขัน ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ภายหลังมีการสับเปลี่ยนกำลังบริเวณแนวชาแดนไทย-กัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่กองร้อย ทพ.1204 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ร่วมกับ ฉก.ตาพระยา ได้จัดกำลังพลทำการลาดตระเวน และซุ่มเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยเดินเท้ามาตามช่องทางธรรมชาติมุ่งหน้ามายังฝั่งไทย อยู่บริเวณพิกัด ด้านข้าง จุดตรวจ ต.28 บ.ทัพเซียม ม.10 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จำนวน 15 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 7 คน เด็กชายอีก 1 คน ไม่พบเอกสารหนังสือเดินทาง ซึ่งจากการซักถามเบื้องต้นทราบว่า ชาวกัมพูชาดังกล่าวเดินทางมาจาก จ.บันเตียเมียนเจย 4 คน , จ.กำปงจาม 5 คน , จ.กำปงธม 3 คน, จ.อุดรมีชัย 3 คน ต้องการเดินทางไปทำงานในพื้นที่ จ.ระยอง จำนวน 8 คน ,จ.นครปฐม จำนวน 3 คน ,จ.นครราชสีมา จำนวน 3 คน และกรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คน เสียค่าใช้จ่าย 6,000-8,000 บาท

ส่วน เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อย ทพ.1205 ชค.ทพ.12 จับกุมแรงงานชาวกัมพูชาขณะลาดตระเวน และซุ่มเฝ้าตรวจพบบุคคลต้องสงสัยเดินเท้ามาตามช่องทางธรรมชาติมุ่งหน้ามายังฝั่งไทย อยู่บริเวณพิกัด ระหว่างจุดตรวจ ส.35-36 บ.โนนสูง ม.2 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จำนวน 13 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 7 คน เดินทางมาจาก ปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ต้องการไปทำงานที่ จ.กรุงเทพมหานคร จำนวน 5 คน, จ.ปทุมธานี จำนวน 1 คน ,จ.เชียงใหม่ จำนวน 6 คน และ จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 1 คน เสียค่าเดินทางคนละ 4,500-6,500 บาท

นอกจากนั้น ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อย ทพ.1204 ชค.ทพ.12 ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยเดินเท้ามาตามช่องทางธรรมชาติมุ่งหน้ามายังฝั่งไทย อยู่ที่บริเวณพิกัด บ.หนองมั่ง ต.หนองแวง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จำนวน 28 คน เป็นชาย 18 คน หญิง 8 คนและเด็กอีก 2 คน เดินทางมาจาก จ.บันเตียเมียนเจย 6 คน , จ.กำปงธม 6 คน , จ.กำปอต 6 คน, จ.พระตะบอง 9 คน, จ.ตาแก้ว 1 คน ต้องการจะไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 7 คน ,จ.ชลบุรี จำนวน 8 คน ,จ.นครราชสีมา จำนวน 1 คน ,จ.สมุทรสาคร จำนวน 1 คน ,จ.สมุทรปราการ จำนวน 6 คน และ จ.ราชบุรี จำนวน 5 คน เสียค่าใช้จ่ายรายละ 7,000-8,000 บาท

ส่วนพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ ชค.ทพ.12 ได้ทำการตรวจสอบบริเวณจุดตรวจ อ.05 พิกัด บ.ป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ พบรถยนต์ต้องสงสัยขับขี่มุ่งหน้ามาตามถนนศรีเพ็ญ จึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบชาวกัมพูชา เดินทางมากับรถยนต์ส่วนตัว จำนวน 5 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน เด็กอีก 1 คน พบเอกสารหนังสือเดินทางพาสปอร์ต จำนวน 4 คน และพบเอกสารการลงทะเบียนให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ อยู่ในราชอาณาจักร จำนวน 1 คน เดินทางกลับจาก จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้าง ที่อยู่ 43 ม.3 ต.ทุ่งขวาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ประเทศกัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทำการตรวจวัดอุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ ฉก.ตาพระยาและ ชค.ทพ.12 ได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ที่พิกัด บ.คลองแผง ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว หลังบุคคลต้องสงสัยไม่ทราบสัญชาติ จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันนี้ สะพายเป้ฉีดยามาตามเส้นทางพื้นที่การเกษตร ไร่มันสำปะหลัง โดยขับขี่ข้ามถนนศรีเพ็ญมุ่งหน้าไปยังประเทศกัมพูชา เมื่อชุดซุ่มเฝ้าตรวจเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ แต่บุคคลดังกล่าวได้ทิ้งรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ยี่ห้อฮอนด้ารุ่น สกู๊ปปี้ สีขาว-ชมพู, ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น สกู๊ปปี้ เขียว-เทา และวิ่งหลบหนีไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา จึงตรวจยึดมาตรวจสอบ คาดว่าจะเป็นกลุ่มลักลอบนำรถผิดกฎหมายข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

—————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"