ปราจีนบุรี – ช้างป่าอ่างฤาไนถูกไฟช็อตตายกลางถนน พื้นที่ ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 19 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.วัฒนพงษ์ จำนงค์อุดม รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 21 ต.วังท่าช้าง พบช้างป่าอ่างฤาไนถูกไฟฟ้าช็อตตาย บนถนนทางเข้าสวนชาวบ้าน แจ้งประสานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และลงตรวจสอบร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน ในที่เกิดเหตุเป็นทางลูกรังเข้าสวนประชาชน ซึ่งห่างจากบ้านเรือนประชาชน 1 กิโลเมตร พบช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 13 ปี นอนตายอยู่กลางถนนลูกรังแดง สภาพถูกไฟช็อตตาย โดยมีสายไฟสีดำอยู่ที่งวงของช้างที่นอนหมอบกับพื้นถนน มีชาวบ้านทราบข่าวมามุงดูกว่า 20 คน
นายชูศักดิ์ แต่งตั้งรัมย์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 21 ต.วังท่าช้าง กล่าวว่า ตีสองที่ผ่านมาพี่เมียโทรไปบอกพบเห็นช้างนอนอยู่กลางถนน คาดว่า ออกมาหากินและหลับไปหรืออย่างไรไม่ทราบ ขอให้ออกมาดูด้วย จากนั้นตนจึงออกมาดูพบเห็นช้างนอนอยู่กลางถนน จึงใช้ก้อนดินขว้างใส่ เพื่อให้ช้างรู้สึกตัวลุกหนีเพราะปกติช้างป่าอ่างฤาไน มักจะออกมาหากินบริเวณนี้แทบทุกคืน ขณะที่โยนก้อนดินใส่ช้าง 1-2 ครั้ง ช้างก็ยังไม่กระดุกกระดิก ตนเองได้ส่องไฟใส่ตัวช้างและส่งเสียงดัง เพื่อให้ช้างรู้สึกตัว แต่ก็ไม่รู้สึกตัว จึงตัดสินใจเดินเข้ามาใกล้ ๆ ส่องไฟฉายดูพบว่าช้างนอนตายกลางถนน ตอนนั้นกลัวก็กลัว แต่ก็ได้โทรบอกผู้ใหญ่บ้านทราบ เวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ป่าไม้และส่วนอนุรักษ์ฯ กรมทหารพรานที่ 13 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดังกล่าว
นายเผด็จ ลาทอง ผอ.ทสม.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านว่า พบช้างถูกไฟช็อตตาย จึงลงมาตรวจสอบพบว่า เป็นช้างป่าจากอ่างฤาไนที่พากันมาหากินในบริเวณนี้ และเดินออกหากินมาตามถนน ขณะมาถึงที่เกิดเหตุช้างเพศผู้ได้ใช้งวงคว้าสายไฟแรงต่ำที่ชาวบ้านต่อจากบ้านเข้ามาใช้ในสวน เมื่อสายไฟขาด จึงถูกไฟฟ้าช็อตในที่เกิดเหตุ สร้างความสลดหดหู่ให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่พบเห็นอย่างมาก โดยร่วมกับสัตวแพทย์หญิงสุนิดา วิงวอน สัตวแพทย์ปฏิบัติการสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา ร่วมตรวจสอบและขออนุญาตจากร้อยเวรสอบสวน ทำการผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายของช้าง ช้างป่าอ่างฤาไน จะออกมาหากินในบริเวณนี้ จากนี้ไปจะได้ประสานเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ร่วมกันหาแนวทางป้องกันและผลักดันช้างป่า และทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า ที่ออกมาหากินพืชผลการเกษตรของประชาชน และจะนำซากช้างไปฝังทำลายที่หน่วยป่าไม้ทุ่งพญา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใกล้ที่สุด
————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
