สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยและตำรวจกัมพูชา ร่วมกันช่วยเหลือคนไทย 103 คน ที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์หลอกลวงไปทำงานผิดกฎหมายพื้นที่เมืองคะมอดา จ.โพธิสัตย์ ประเทศกัมพูชา กลับประเทศไทย ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 34 คน
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 24 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีคนไทยถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา และได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการไทย เพื่อให้การช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศไทย จำนวน 103 คน ซึ่งในจำนวนนี้พบว่าติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 34 คน โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) พร้อมทีมงานดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชา เพื่อให้การช่วยเหลือเหยื่อคนไทย พร้อมทั้งให้ขยายผลถึงเครือข่ายผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ ถือโอกาสที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19 ซ้ำเติมประชาชน หลอกลวงไปบังคับใช้แรงงาน ทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายการค้ามนุษย์ กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปในสังคม
ทั้งนี้ ช่วงเวลา 14.00 น. วันที่ 24 พ.ย.64 พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ร่วมรับตัวคนไทย จากทางการกัมพูชา โดย พล.ต.ท.ยี เพียลี รองอธิบดีกรมตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา และคณะนำมาส่งที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จำนวน 103 คน เป็นชาย 61 คน หญิง 42 คน ซึ่งพบว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 34 ราย เป็นหญิง 12 ราย ชาย 22 ราย จากนั้นได้แยกผู้ติดเชื้อออกไปอีกฝั่ง เพื่อรอนำขึ้นรถไปยัง รพ.สนาม ส่วนที่ไม่พบเชื้อ 69 คน ได้ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองและพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ก่อนนำไปกักตัวที่โรงแรมวังน้ำเย็นการ์เด้นท์ อำเภอวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- สภาพการจราจรสระแก้วมุ่งหน้าช่องเขาตะโก ไปบุรีรัมย์และอีสานใต้เคลื่อนตัวได้ คาดตั้งแต่ค่ำนี้เป็นต้นไปรถเริ่มหนาแน่น
- ทำลายท่อซิ่ง!! รถ จยย.เสียงดังผิดกฎหมาย หลังระดมกวาดล้างจับกุมใช้มาตรการเข้มจับ-ปรับ 2,000 บาท ยึดท่อ ทำเอ็มโอยูผู้ปกครอง
- สระแก้ว จัดพิธีรับพระราชทาน “พระพุทธสิรินธรเทพรัตน์มงคลภูวดลสันติ”
พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ ผอ.ศพดส.ตร. เปิดเผยว่า สอบสวนเบื้องต้นพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีคนจีนเป็นหัวหน้า เคลื่อนไหวอยู่ที่ จังหวัดโพธิสัตย์ ตรงข้ามเกาะกง ประเทศกัมพูชา โดยจะมีการลงโฆษณารับสมัครงานบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ หลอกลวงว่า มีงานในประเทศกัมพูชา จ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูง เดือนละ 20,000–30,000 บาท หลังมีผู้หลงเชื่อมาสมัคร จะว่าจ้างให้ขบวนการลักลอบนำพาคนเดินทางเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมาย ทางช่องทางธรรมชาติ ด้วยการเดินเท้าผ่านป่าตามแนวตะเข็บชายแดนข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นจะมีรถมารับไปกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งไม่ทราบชื่อ ต่อมามีการส่งตัวต่อให้กับนายทุนชาวจีนในพื้นที่ จ.โพธิสัตย์ ประเทศกัมพูชา บังคับให้ทางานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊ง SMS หลอกลวง เว็บไซด์รับพนันผิดกฎหมาย
“ผู้ที่ถูกหลอกไป หลังจากทราบว่า ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน ทั้งในส่วนลักษณะงาน สวัสดิการและค่าตอบแทน จึงแจ้งกับนายจ้างขอเดินทางกลับ แต่ได้ถูกนายจ้างปฏิเสธ มีการทำร้ายร่างกาย ข่มขู่เอาทรัพย์ กักขัง ให้อดอาหาร พวกตนจึงได้ติดต่อไปที่ญาติในประเทศไทย โดยประสานงานกับ ศพดส.ตร. และ สน.ปทก.จว.สระแก้ว หลังจากทราบเรื่อง จึงได้ประสานกับหน่วยงานความมั่นคงในใน จ.โพธิสัตย์ กระทรวงมหาดไทย และสถานทูตไทย ในประเทศกัมพูชา วางแผนช่วยเหลือ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ สห.จ.โพธิสัตย์ บุกทลายบริษัทเถื่อน ช่วยเหลือคนไทย จำนวน 103 คน ออกมาได้อย่างปลอดภัย พร้อมทั้งควบคุมตัวนายจ้าง และผู้ดูแลสถานที่ ทั้งชาวจีนและชาวกัมพูชาไปดำเนินการตามกฎหมาย” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนไทยกลุ่มนี้เมื่อกลับเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จะต้องเข้ากักตัวตามมาตรการสาธารณสุข จำนวน 14 วัน หลังจากนั้น สานักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการเข้าสอบปากคำผู้เสียหายทุกราย อย่างละเอียด เพื่อขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมด ทั้งในส่วนของผู้ชักชวน นายหน้า ผู้นำพา พร้อมทั้งประสานกับทางการกัมพูชา เพื่อดำเนินคดีกับนายจ้างชาวจีนต่อไปด้วย
————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: