สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ทหารพราน ทพ.12 จับกุมแรงงานกัมพูชา ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 29 คน บริเวณชายแดนโคกสูง จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดนทุกจุดเข้มงวดกวดขัน ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1204 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ร่วมกับ ชุดเคลื่อนที่เร็ว ฉก.ตาพระยา กองกำลังบูรพา และ หมวด ปชด.ที่ 1 ร้อย.ปชด. จัดกำลังพลทำการลาดตระเวนและซุ่มเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยเดินเท้ามาตามช่องทางธรรมชาติ มุ่งหน้ามายังฝั่งไทยบริเวณพิกัด บ.หนองเสม็ด ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จำนวน 29 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 14 คนและเด็กหญิง 1 คน วัดอุณหภูมิร่างกายปกติ ตรวจสอบไม่พบเอกสารหนังสือเดินทาง และเอกสารการลงทะเบียนให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติอยู่ในราชอาณาจักร
ทั้งนี้ จากการซักถามเบื้องต้น ทราบว่า ชาวกัมพูชาทั้งหมด เดินทางจาก จ.ไพรเวง จำนวน 11 คน ,จ.ตาแก้ว จำนวน 1 คน ,จ.สวายเรียง จำนวน 5 คน ,จ.บันเตียเมียนเจย 10 คน ,จ.พระตะบอง 2 คน จะเดินทางไปทำงานที่ จ.ชลบุรี 5 คน เพื่อไปทำงานรับจ้างก่อสร้าง ,เดินทางไป ในพื้นที่ จ.จันทบุรี 2 คน เพื่อไปทำงานรับจ้างก่อสร้าง ,เดินทางไป ในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 1 คน เพื่อไปทำงานรับจ้างก่อสร้าง ,เดินทางไป ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ 11 คน เพื่อไปทำงานรับจ้างก่อสร้าง ,เดินทางไปในพื้นที่ จ.อยุธยา 1 คน เพื่อไปทำงานรับจ้างก่อสร้าง, เดินทางไปในพื้นที่ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 9 คน เพื่อไปทำงานก่อสร้าง
ข่าวน่าสนใจ:
อย่างไรก็ตาม สำหรับแรงงานชาวกัมพูชาดังกล่าว ยอมรับว่า จะเสียค่าใช้จ่ายคนละ 7,000 บาท โดยเสียขั้นต้น 1,000 บาท เป็นค่ารถรับจ้างมาจากพื้นที่ของตนเอง เสียค่าใช้จ่าย จำนวน 500 บาทต่อคน มาลงที่ อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย และนั่งรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาลงที่ ต.ห้า อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย เสียค่าใช้จ่ายอีก 500 บาทต่อคน และอีก 6,000 บาท จะจ่ายเมื่อถึงที่หมาย โดยจะมีชายชาวกัมพูชา จำนวน 2 คน พาเดินเท้าข้ามมายังฝั่งไทย จนถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานจับกุม ในขณะจับกุมไม่พบผู้นำพา จึงได้ควบคุมตัวชาวกัมพูชาทั้งหมด ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่กองร้อย ทพ.1204 (จต.ส.34) เพื่อสอบสวนขั้นต้นและนำส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: