สระแก้ว – นายอำเภอวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีชาวบ้านร้องเรียนผู้รับเหมาขุดดินวัดไปทำถนนสายสหกรณ์ฝั่งตะวันออก สั่งให้นำดินกลับมาถมคืนพื้นที่วัดทันที ภายใน 1 เดือน
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 10 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอวังน้ำเย็น ภายใต้การอำนวยการของ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้ นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอวังน้ำเย็น ,นางสาวพชรพร ประสาจันทร์ ปลัดอำเภองานศูนย์ดำรงธรรม ผู้แทนเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น กำนันตำบลวังน้ำเย็น ผู้ใหญ่บ้าน ม.13 ต.วังน้ำเย็น ไวยาวัจกร และตัวแทนสื่อมวลชน ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ วัดมิตรสัมพันธ์ เลขที่ 190 ม.13 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว สืบเนื่องจากกรณีปัญหาร้องเรียนร้องทุกข์จากประชาชนไม่ประสงค์ออกนาม แจ้งว่า มีผู้รับเหมาขุดดินบริเวณวัดเนื้อที่ประมาณเกือบ 1 ไร่ บริเวณริมเขาโดยรอบพื้นที่วัดและนำออกไปใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจการค้า ทำให้วัดเสียประโยชน์ โดยมีผู้รับเหมารับขุดดินลูกรังจากจุดดังกล่าวไปร่วมถม บดอัด เพื่อก่อสร้างถนนสายสหกรณ์ฝั่งตะวันออก เส้นทางฝั่งเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น ไปบรรจบกับพื้นที่ อ.วังสมบูรณ์ ซึ่งใช้งบก่อสร้างประมาณ 9 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีนายอำเภอวังน้ำเย็น พบว่า ที่ดินบริเวณพิพาทเป็นที่ดินของวัดมิตรสัมพันธ์ ซึ่งประชาชนอุทิศให้แก่วัดโดยในปัจจุบันกำลังดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์กับทางนิคมสหกรณ์วังน้ำเย็น เนื่องจากวัดมีความประสงค์จะถมที่ดินในบริเวณวัด ผู้รับเหมาจึงได้ประสานเสนอขออนุญาตขุดดินในบริเวณพิพาท เพื่อนำไปถมที่ตามความประสงค์ของวัด โดยก่อนดำเนินการได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาส ไวยาวัจกร และกรรมการวัด ให้ดำเนินการได้ แต่ต่อมา ผู้รับเหมาได้ขุดนำดินบริเวณพิพาทเป็นจำนวนมาก รวมมากกว่า 200 รถ โดยนำมาถมให้กับวัดเพียง 50 รถ และจุดที่มีการขุดดินออกไปมีลักษณะลึกเกินความจำเป็น อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้สัญจรบริเวณดังกล่าวได้ ซึ่งพบว่า มีการนำดินที่เหลือจากการถมที่ในบริเวณวัดออกไปใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจการค้า ทำให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนและร้องเรียนว่าวัดเสียประโยชน์
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายอารยันต์ ได้เรียกประชุมร่วมระหว่างผู้เกี่ยวข้องที่วัดดังกล่าว ได้ข้อสรุปเป็นที่ยุติ โดยผู้รับเหมายินยอมที่จะนำดินกลับมาถมในบริเวณพิพาทให้เต็มพื้นที่ดังเดิม และปรับแต่งหน้าดินให้กลับคืนสภาพคล้ายเดิมก่อนที่จะดำเนินการขุด โดยยินยอมออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 มกราคม 2565 และสั่งการให้มีการช่วยสอดส่องดูแลปัญหาลักษณะดังกล่าวที่ทำให้สถานที่สาธารณะเสียผลประโยชน์ รวมถึงดูแลการแก้ปัญหาให้เป็นไปตามที่ตกลงไว้จนประสบผลสำเร็จ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตอีก ในการนี้ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังน้ำเย็น ได้ดำเนินการจัดทำบันทึกถ้อยคำ ตามแบบ ปค.14 ไว้ ณ สถานที่ประชุม เพื่อเป็นหลักฐานการยุติกรณีปัญหาดังกล่าว โดยคู่กรณีทั้งสองฝ่ายประกอบด้วย ผู้รับเหมาและวัด ได้ร่วมลงลายมือชื่อไว้ในบันทึกฯ ต่อหน้านายอำเภอวังน้ำเย็น และพยาน ด้วย
————————
