สระแก้ว – เจ้าหน้าที่กองกำลังชายแดน ทหารและ ตชด.พื้นที่่ จ.สระแก้ว จับแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย 2 จุด สกัดการระบาดของโควิด-19 สายพันธ์”โอมิครอน” รวม 70 คน โดยแรงงานระบุว่า เนื่องจากไม่มีงานทำและไม่มีรายได้ในกัมพูชา จึงมีความต้องการที่จะเดินทางกลับไปทำงานในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดนทุกจุด เข้มงวดกวดขันปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งพบการระบาดขอไวรัสโควิดสายพันธุ์ “โอมิครอน” ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 104 ราย โดยเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่กองร้อย ฉก.ตชด.3 ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.ท.จิรวัฒน์ รางสาตร์ ผบ.ร้อย ตชด.126 และผบ.ร้อย ฉก.ตชด.3 สั่งการให้ ร.ต.อ.ศิริฤกษ์ พานิชเจริญ รรท.ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.3 พร้อมกำลังพลรวม 10 นาย ร่วมกับเจ้าพนักงานตำรวจชุดปฏิบัติการข่าวกองร้อย ตชด.126, เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจคลองหาด กองกำลังบูรพา ร่วมกันจับกุมนายเกิม เลิน อายุ 38 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ถูกจับกุมที่ 1 และพวกสัญชาติกัมพูชารวม 42 คน พร้อมผู้ติดตามหรือเด็กอีก 18 คน รวมเป็น 60 คน ที่บริเวณท้ายหมู่บ้านคลองหว้า ม.4 ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
ทั้งนี้ จากการสอบสวนชาวกัมพูชาทั้งหมด ให้การว่า พวกตนต้องการลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยใช้ช่องทางธรรมชาติจริง โดยพวกตนได้เดินเท้าจากประเทศกัมพูชามายังฝั่งไทย เพื่อที่จะรอรถมารับไปทำงานตัดอ้อยที่อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว จำนวน 40 คน พร้อมผู้ติดตาม 18 คน โดยมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ามาทำงานจำนวน 1,000 บาทต่อคน ส่วนอีก 2 คน ต้องการไปทำงานก่อสร้างที่จังหวัดนครราชสีมา เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้ามา จำนวน 7,000 บาทต่อคน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดฐาน“เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ทั้งหมดให้การรับสารภาพ จึงได้ทำการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 ตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และควบคุมตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ข่าวน่าสนใจ:
- นายกเทศบาลตำบลนาคำ แจงเหตุต้องระงับเพลิงล่าช้า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน
- ตรัง ชื่นชมชุมชนท่องเที่ยวร่วมใจเก็บขยะบนเกาะเหลาเหลียง
- จังหวัดสกลนคร พัฒนาศักยภาพบุคลากร ภาคีเครือข่าย เฝ้าระวัง ดูแลรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด
- นครพนม ทหารพรานสนธิกำลังยึดยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด! ตรวจพบฝิ่นดิบกว่า 3 กิโลกรัม ริมแม่น้ำโขง
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1203 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ร่วมกับทหารชุดเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลทำการลาดตระเวน และเฝ้าตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ สามารถตรวจพบแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 10 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 3 คน และเด็กอีก 3 คน ขณะกำลังเดินเท้า ที่บริเวณ บ.ทัพเซียม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ระหว่างจุดตรวจ ต.26-27 จึงได้ทำการเข้าตรวจสอบในขั้นต้น ไม่พบเอกสารแสดงตน และเอกสารการลงทะเบียนให้แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติอยู่ในราชอาณาจักร จากการสอบถามทราบว่า แรงงานชาวกัมพูชาดังกล่าว พยายามลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อมารับจ้างทำงาน ในเขตพื้นที่ตอนในของไทย จึงได้นำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่กองร้อย ทพ.1203
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม นาย เพีย พา, นาย มัน ยอน, นาย ฮ้ด เฮล, นาย เทน จันทอน, นาง เชือง ชวน, นาง บุ สาวี และ นาง เพียน พา ให้การว่า เดิมเคยทำงานก่อสร้างอยู่ที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ประมาณ 2 ปี นายจ้างชื่อนายโชค ชาวไทย ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุลจริง และได้เดินทางกลับภูมิลำเนาประเทศกัมพูชา ทางจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านตาพระยา ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จากนั้นได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่ได้เดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศไทย ต่อมา เนื่องจากไม่มีงานทำและไม่มีรายได้ จึงมีความต้องการที่จะเดินทางกลับไปทำงานก่อสร้างที่ จ.ปทุมธานี และได้ทำการชักชวนและรวมกลุ่มชาวกัมพูชาที่เคยไปทำงานก่อสร้างด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี โดยได้ทำการติดต่อชาวกัมพูชาที่ทำงานก่อสร้างอยู่กับนายจ้างชาวไทยที่ อ.ลำลูกกา เพื่อให้ติดต่อผู้นำพาให้ โดยตกลงค่าเดินทางจำนวน 7,700 บาทต่อคน เสียค่ารถคนละ 1,200 บาท โดยนายจ้างชาวไทยจะเป็นผู้ออกค่าเดินทางให้เมื่อถึงที่หมาย เจ้าหน้าที่นำตัวมาตรวจวัดอุณหภูมิและคัดกรองโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัดและส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ตาพระยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
————————–
ข่าวโดย/อารียา สำราญ ทีมข่าวสระแก้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: