สระแก้ว – ตชด.และทหารกัมพูชาละเมิดเส้น MOU เข้ามาอ้างสิทธิ์ข่มขู่ชาวบ้านคนไทยบนแผ่นดินไทย อ้างเขตแดนกัมพูชาถึงริมถนนศรีเพ็ญ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่งชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินซึ่งเป็นลูกหลานและชาวบ้านที่เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน “บ้านน้อยป่าไร่”ในอดีต ที่ต้องอพยพออกมาอยู่บริเวณฝั่งตะวันตกของถนนศรีเพ็ญ ม.8 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เนื่องจากภัยสงครามกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2518 ซึ่งได้ออกมาเรียกร้องและจะเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของตนเองในพื้นที่ฝั่่งตะวันออกของถนนศรีเพ็ญก่อนถึงเส้นแนว MOU ประมาณ 500 เมตร เพื่อทำประโยชน์ในที่ดินของตนเอง ตามเอกสารสิทธิใบจอง นส.2 กว่า 500 ไร่ ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเข้าไปถากถางพื้นที่ เพื่อเข้าจัดทำผังพื้นที่ตามคำสั่งศาล โดยมี นายชุมพล วัฒนพรรค อยู่บ้านเลขที่ 188 หมู่ที่ 8 ต.ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว หนึ่งในครอบครัวของราษฎร”บ้านน้อยป่าไร่”ในอดีต และเป็นเจ้าของที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวเป็นแกนนำ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ชาวบ้านเตรียมจะเข้าพื้นที่ปรากฏว่า ได้มีทหารเขมร ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ตชด.ประมาณ 30 นาย ส่วนหนึ่งมีอาวุธปืนซุ่มอยู่ด้านในป่า ได้บุกเข้ามาในพื้นที่ดิน นส.2 ของนายชุมพล ซึ่งมีศาลพระภูมิและหลักเขตปักอยู่ริมถนนศรีเพ็ญ โดยนายชุมพล บอกว่า ตชด.กัมพูชาซึ่งบุกรุกล้ำแนวเส้น MOU เข้ามาอ้างสิทธิ์ไม่ให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ ต้องการให้ตนเองเข้าไปพูดคุยด้านใน แต่ตนไม่ไป ตชด.กัมพูชาจึงพากันมายืนอ้างสิทธิ์ที่บริเวณริมถนนศรีเพ็ญซึ่งเป็นแผ่นดินไทย อ้างว่า เขตแดนประเทศกัมพูชา มาถึงแนวถนนศรีเพ็ญ ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพราน ทพ.12 ซึ่งดูแลพื้นที่ดังกล่าว ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร แค่เพียงเข้าไปพูดคุยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว ยังคงยืนยันว่า จะเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวตามสิทธิ์ใบจอง นส.2 ของตนเองตามคำสั่งศาล และอย่างให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องฝ่ายไทยเข้าดำเนินการกรณีที่กัมพูชาเข้ามาอ้างสิทธิ์ดินแดนมาถึงพื้นที่แนวถนนศรีเพ็ญ ซึ่งไม่ถูกต้อง ขณะที่แนวเส้น MOU ก็ยังล้ำเขตหมู่บ้านของตนเองซึ่งเคยอาศัยอยู่ในอดีตด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งที่มีความพยายามกีดกันไม่ให้ชาวบ้านเข้าทำกินหรือครอบครองที่ดินบริเวณนี้ เพราะเป็นจุดที่ขบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าว รถเถื่อนและใช้เป็นเส้นทางผ่านลักลอบนำของหนีภาษีและของเถื่อนผิดกฎหมายเข้า-ออกด้วย
สำหรับแนวทางที่ชาวบ้านกลุ่มนี้ ดำเนินการตามกระบวนการมานานกว่า 3 ปี เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในที่ดิน นส.2 ซึ่งเป็นที่ดินมรดกของบรรพบุรุษที่เหลืออยู่ พื้นที่”บ้านน้อยป่าไร่”เดิม และเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วตามลำดับดังนี้
1.ได้คัดค้านการรังวัด เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 พร้อมเข้าพบท่าน พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ขณะนี้ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.กองกำลังบูรพา ทำการแทน ผบ.กองกำลังบูรพา เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 และชี้แจงบุคคลอื่นนำเอกสารมารังวัดในที่ดินของชาวบ้านจุดดังกล่าว และมีบุคคลอื่นไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก
2. นำเอกสารยื่นคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนฯ ท่านอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563
3. เข้าพบ นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ ส.ส.เขต3 สระแก้ว เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 เพื่อนำเสนอปัญหาในสภาผู้แทนราษฎร
4. เข้าพบ พล.ท.ธรรมนูญ วิถี ขณะดำรงตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 1 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 นำเรียนปัญหา
5. นำเอกสารยื่นกองกำลังบูรพา เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 โดยมี ร.ท.ศิริชัย เลี้ยวกลาง เป็นผู้ลงรับเอกสาร
6. เข้าไปติดตามเอกสารกับ พ.อ.เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ รักษาการ ผบ.กองกำลังบูรพา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 เพื่อตามเรื่อง 13 มกราคม 2564 และ พ.อ.เสกสรรค์ ได้ให้แนวทางบางส่วน ในวันที่ 5 มิถุนายน 2564
7. คณะป่าไม้ภาค 9 จ.ปราจีนบุรี ได้ลงมาตรวจสอบและให้เข้าทำประโยชน์ได้ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2564
8. ที่ดินมีหนังสือแจ้งให้เข้าทำประโยชน์ตามสิทธิได้ มิเช่นนั้นจะเสียสิทธิในวันที่ 25 ตุลาคม 2564
9. ศาลจังหวัดสระแก้วมีคำสั่งให้จัดทำแผนพิพาท (ที่ ศย.302.015/18205) ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564
10. ยื่นหนังสือขอเข้าสำรวจพื้นที่ก่อนทำแผนที่พิพาทต่อกองกำลังบูรพา ลงวันที่ 30 พ.ย.64 พ.ท. ขจรกิตติ์ จรูญชาติ หน.ฝกร.กกล.บูรพา เป็นผู้ลงรับ
11. นำเรื่องเข้าสภาเทศบาลตำบลป่าไร่ ตามหนังสือผู้อำนวยการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม แจ้งไว้ว่าต้องผ่านสภา กรณีขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564
12. ยื่นหนังสือแจ้ง หัวหน้าชุด ชป.กร.103 กกล.บูรพา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2564 ตามบันทึกการตรวจสอบจากคณะป่าไม้ภาค 9 สาขาปราจีนบุรี
—————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: