สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ทหารพราน ทพ.12 จับแรงงานกัมพูชาลักลอบข้ามชายแดนตามช่องทางธรรมชาติ จากฝั่งกัมพูชาเข้ามาฝั่งประเทศไทย เพื่อทำงานรับจ้างตัดอ้อยใน จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 20 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดนทุกจุดเข้มงวดกวดขันปัญหาการลักลอบเข้าเมืองและการนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้า-ออก บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามช่องทางธรรมชาติ ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดย พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 สั่งการให้สืบทราบกรณีมีแรงงานลักลอบข้ามชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวนมาก จึงมอบหมายให้ ผบ.ร้อย ทพ.1206 ประสานงานกับชุดปฏิบัติการที่ 1 มว.ปชด.ที่ 1 ร้อย ปชด.ที่ 1 (พล.ร.11) นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมทำการลาดตระเวนบนถนนศรีเพ็ญพื้นที่ ต.ป่าไร่ เพื่อป้องกันและจับกุมการลักลอบข้ามชายแดนของแรงงานผิดกฎหมายตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานาว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดดังกล่าวลาดตระเวนมาถึงบ้านป่าไร่ใหม่ ม.8 ต.ป่าไร่ ได้บุคคลต้องสงสัยเดินอยู่ในป่าห่างจากชายแดน 200 เมตร จึงวางกำลังปิดล้อมพื้นที่และเข้าทำการตรวจสอบ พบว่า แรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 16 คน แยกเป็นชาย 5 คน หญิง 4 คน เด็กชาย 4 คน เด็กหญิง 3 คน ไม่มีหนังสืออนุญาตให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ทหารพรานจึงทำการควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการตรวจวัดอุณหภูมิตามมาตรการสาธารสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พบเป็นปกติ
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้น แรงงานกัมพูชาทั้งหมด ยอมรับสารภาพว่า ปัจจุบันในฝั่งประเทศกัมพูชาไม่มีงานทำ จึงพยายามเดินทางเข้ามาหางานทำในฝั่งประเทศไทย โดยติดต่อนายหน้าชาวกัมพูชาให้พาลักลอบข้ามชายแดนทางช่องทางธรรมชาติบริเวณบ้านป่าไร่ใหม่ ม.8 เพื่อเข้ามารับจ้างตัดอ้อยให้กับคนไทยในช่วงเปิดหีบอ้อยในช่วงนี้ โดยลักลอบข้ามชายแดนในเวลากลางคืน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพรานจับกุมเสียก่อน หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้นำตัวแรงงานทั้งหมด ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
————————
