สระแก้ว – ชาวบ้านหลายหมู่บ้านรวมตัวบุก สภ.บ้านทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว แจ้งความข้อหาฉ้อโกงกับเพื่อนบ้านสาววัย 30 ปี หลังกลุ่มชาวบ้านอ้างว่า หญิงคนนี้ หลอกยืมเงินชาวบ้านคนละหลักแสนบาท เพื่อนำไปทำธุรกิจตามแนวชายแดน แต่เมื่อถึงเวลาชำระหนี้ กลับบ่ายเบี่ยงหลบหน้าเจ้าหนี้เมื่อไปแจ้งความร้อยเวรกลับไม่รับแจ้งความถึง 3 ครั้ง ก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ตาพระยา ต.ทัพเสด็จ และ ต.ทัพไทย จำนวนเกือบ 20 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณด้านหน้า สภ.บ้านทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ด้วยความคับข้องใจ ภายหลังชาวบ้านรายหนึ่งถูกอดีตเพื่อนรุ่นน้อง หลอกยืมเงินไปกว่า 600,000 บาท แต่ผ่านมาเกือบ 5 ปี ยังไม่สามารถทวงเงินคืนได้แม้แต่บาทเดียว เมื่อไปทวงถามถึงหน้าบ้าน กลับถูกต่อว่าและจะใช้มีดทำครัว มาทำร้ายร่างกาย แต่ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เมื่อไปแจ้งความที่โรงพัก ตำรวจกลับโยนให้ชาวบ้านไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมของอำเภอ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านจาก 3 ตำบลดังกล่าว ได้รวมตัวกันถือป้ายร้องขอความเป็นธรรม บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรบ้านทัพไทย หลังชาวบ้านอ้างว่า ก่อนหน้านั้นได้มาแจ้งความคดีฉ้อโกงที่โรงพักถึง 3 ครั้งแล้ว แต่ร้อยเวรฯไม่รับแจ้งความ ก่อนที่จะมีสื่อมวลชนเดินทางมาร่วมทำข่าว จนทำให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ต้องลงมารับเรื่องร้องเรียนด้วยตัวเอง
กลุ่มชาวบ้าน ระบุด้วยว่า ต้องการแจ้งความคดีฉ้อโกงกับเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง เป็นหญิงอายุประมาณ 30 ปี โดยหญิงคนนี้ ได้มาขอยืมเงินเกือบ 600,000 บาท อ้างว่า จะนำไปทำธุรกิจตามแนวตะเข็บชายแดน แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายชำระหนี้ หญิงรุ่นน้องคนนี้ กลับบ่ายเบี่ยงหลบหน้า ก่อนหน้านั้น เคยตามไปทวงหนี้ถึงบ้าน แต่กลับถูกไล่และจะใช้มีดทำร้ายร่างกาย จนถึงวันนี้ผ่านมาเกือบ 5 ปีแล้ว ยังไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว
เช่นเดียวกับ นายชุด อุก ชายสวมเสื้อแขนยาว สีครีม ซึ่งเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคลองแผง ตำบลทัพเสด็จ กล่าวว่า หญิงคนนี้จะมีวิธีหว่านล้อมคนเฒ่าคนแก่ โดยเอาเงินดอกเบี้ยมาเป็นตัวล่อ เมื่อคนแก่ยอมให้เงินแสนไปแล้ว ก็จะหายหน้าไปเลย จึงอยากให้ตำรวจท้องที่ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ติดตามเงินของชาวบ้านคืนมาให้ได้ เพื่อไม่ให้คนเหล่านี้ไปหลอกลวงชาวบ้านคนอื่น ๆ อีก
ส่วน น.ส.สุธิษา มาละโรจน์ ชาวบ้านคลองแผง หมู่ 10 ตำบลทัพเสด็จ กล่าวเช่นเดียวกันว่า แม่ของตนเอง ถูกยืมเงินสดไปกว่า 500,000 บาท และยังมีทองคำรูปพรรณอีก 9 บาท โดยวิธีการหลอกลวงของเขา จะอาศัยคนเฒ่าคนแก่ที่อยู่บ้านคนเดียว หลอกล่อด้วยการให้ดอกเบี้ยสูง ๆ อย่างเช่น เงิน 100,000 บาท จะได้ดอกเบี้ย 20,000 บาท ในเวลาเพียง 3 ถึง 4 วันเท่านั้น จึงทำให้คนแก่ส่วนใหญ่มักจะหลงเชื่อ
ทางด้าน พ.ต.ท.วิษณุ ไชยสุวรรณ์ สว.(สืบสวน) สภ.บ้านทัพไทย ได้เข้าไปพุดคุยเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับกลุ่มชาวบ้าน พบว่า ชาวบ้านกลุ่มนี้ ถูกหญิงสาวที่ชื่อว่า ช้อย อายุประมาณ 30 ปี ชาวบ้านหนองบัว หมู่ 6 ตำบลทัพไทย พร้อมกับเพื่อนสาวอีกคนหนึ่ง เข้าไปยืมเงินโดยมีการกล่าวอ้างด้วยเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ก่อนจะหยิบยืมเงินชาวบ้านไปได้หลายคน ตั้งแต่คนละกว่า 100,000 บาท จนไปถึงมากสุดถึง 800,000 บาท รวม ๆ แล้ววันนี้มีชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากหญิงสาวคนนี้มากกว่า 10 คน รวมยอดเงินแล้วมากกว่า 2 ล้านบาท ทางตำรวจจึงได้ให้ชาวบ้านลงชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์ รวมมูลค่าความเสียหาย ก่อนจะนัดชาวบ้านเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงบ่ายวันที่ 22 ก.พ.นี้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหญิงสาววัย 30 ปี ลักษณะผมยาวเสื้อดำ นั่งบนโรงพัก พร้อมกับเพื่อนหญิงอีกคนหนึ่ง ที่ถูกกลุ่มชาวบ้านขึ้นโรงพักแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงนั้น เป็นคนที่วนเวียนอยู่ในธุรกิจตามแนวชายแดนด้านอำเภอตาพระยา มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีของคนในพื้นที่ ล่าสุด ตำรวจได้เชิญตัวหญิงทั้ง 2 คน มาสอบปากคำตามที่ชาวบ้านร้องเรียนไว้แล้ว แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนที่ตำรวจจะนัดชาวบ้านเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในช่วงบ่ายวันที่ 22 ก.พ.อีกครั้ง
—————————
