ปราจีนบุรี – จ.ปราจีนบุรี มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อหญิงวัย 73 ปี ถูกช้างป่าเหยียบตายเกือบ 6 หมื่นบาท ส่วนชาวบ้านหมดหนทางรอเจ้าหน้าที่ผลักดัน เขียนจดหมายถึงช้างป่า ขอร้องให้กลับเข้าไปหลังชาวบ้านเดือดร้อนกันทั้งหมู่บ้าน
เมื่อวันที่ 10 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยสำนักงาน ปภ.ปราจีนบุรี ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยจากช้างป่า โดยมี นายวรพันธุ์ สุวรรณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ประธานคณะกรรมการฯ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉินจังหวัดปราจีนบุรี (ก.ช.ภ.จ.) โดยมอบหมายให้ นายสหชัย จำประสิทธิกุล นายอำเภอกบินทร์บุรี มอบเงินช่วยเหลือคอบครัวผู้เสียชีวิตจากการโดนช้างป่าทำร้าย ขณะออกไปเก็บผักมาประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัว เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 1 ราย คือ นางสุดทา สีลาลัย อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/2 หมู่ที่ 4 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน(ช้างป่า) ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 เป็นค่าจัดการศพ จำนวน 29,700 บาท และผู้ประสบภัยพิบัติที่เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัว พิจารณาช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ครอบครัวเพิ่มอีก จำนวน 29,700 บาท รวมเป็น เงิน 59,400 บาท โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นางมาละนี จินดารัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี เลขานุการคณะกรรมการ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจังหวัดปราจีนบุรี (ก.ช.ภ.จ.) เข้าร่วมพิธีมอบ
ทั้งนี้ นางเดือน บุญช่วย ลูกสาวลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด หลังเกิดเหตุดังกล่าว ยังคงมีช้างป่าเข้ามาหากินกินอยู่ในพื้นที่ทุกวัน ชาวบ้านต่างหวาดผวากลัวช้างป่ากันหมดแล้ว ช่วงเย็นวันก่อน ช้างป่าสีดอโหนกได้ออกมาปรากฏตัวให้เห็นบริเวณป่าอ้อยอีกครั้งหนึ่ง โดยสีดอโหนก มากินยอดอ้อยของเกษตรกรครึ่งชั่งโมง ชาวบ้านที่ผ่านไปมาต่างถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก โดยช้างป่าสีดอโหนก ไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกกับคนแต่อย่างใด
ขณะที่ นายประทีป ขอสงวนนามสกุล เจ้าของไร่อ้อย กล่าวว่า การที่ช้างป่ามากัดกินอ้อยแบบนี้ ทำให้เสียหายอย่างมาก เพราะอ้อยจะโตไม่ทันกัน ทำใจกับการถูกช้างมากัดกินอ้อยในไร่ ค่าเสียหายไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้รับค่าชดเชยเยียวยาแต่อย่างใด เพราะไม่ได้เสียหายโดยสิ้นเชิง ช้างจะกัดกินเป็นหย่อม ๆ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่โดยเร่งด่วน ชาวบ้านไม่กล้าที่จะออกมาทำไร่ทำสวนกันแล้ว ทุกวันนี้ทุกคนพากันลุ้นว่า จะมีศพที่สองจากการถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตอีกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ มีชาวบ้านได้นำกระดาษเขียนข้อความใส่กระดาษมาติดไว้ที่ต้นไม้ข้างทาง ที่ช้างป่าอาศัยอยู่มีข้อความระบุว่า “ถึงนายสีดอโหนก ตอนนี้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนจากการกระทำของนายมาก นอกจากนายจะทำอันตรายพวกเราจนตายแล้ว นายยังทำลายพืชผลของพวกเราอีก กลับไปเถอะ ที่นี่เป็นที่อยู่ของคนไม่ใช่ที่อยู่ของช้าง จากชาวเขาไม้แก้ว เขตช้างห้ามเข้า รู้ว่านายอดอยากเดี๋ยวพวกเราจะไปช่วย สร้างแหล่งอาหารที่ป่าบ้านนายให้ กลับป่าไปก่อนเจ้าสีดอโหนก”
———————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
