สระแก้ว – นักวิชาการ จ.สระแก้ว ระบุรัฐบาลบริหารจัดการปัญหาที่ดิน อ.วังสมบูรณ์ 10,805 ไร่ จ.สระแก้ว เหลื่อมล้ำนำไปสู่ความแตกแยกและรุนแรง เสนอตั้งคณะทำงานในระดับพื้นที่ ร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ เพื่อศึกษาแนวทางที่เกิดประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ โดยกรณีนี้ถือเป็นบทพิสูจน์อีกหนึ่งความล้มเหลวของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)
เมื่อวันที่ 22 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ตลาดวังสมบูรณ์ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ออกมารวมตัวขึ้นป้ายคัดค้านไม่ยอมรับการจำแนกที่ดิน 10,805 ไร่ ซึ่งชาวบ้านทำกินมากว่า 50 ปี ที่มีการกันพื้นที่ออกจากพื้นที่ป่าถาวรแต่ไม่ได้ดำเนินการเข้าร่วมจัดตั้งนิคมสหกรณ์ ซึ่งภายหลังมีการเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ดังกล่าว จนมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ คทช.ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาส่งเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ซึ่งเบื้องต้นภายหลังการประชุมหารือการจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดสระแก้ว เพชรบุรี และปัตตานี เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.64 ซึ่งที่ประชุมมีมติ เห็นชอบการจำแนกประเภทที่ดินพื้นที่ป่าไม้ถาวร “ป่าปลายคลองห้วยไคร้-พระสทึง” จังหวัดสระแก้ว เนื้อที่ประมาณ 10,805 ไร่ ที่มีการจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดิน 2 ประเภท คือ 1.ประเภทที่อยู่อาศัยและร้านค้า ,ตลาด, ปั๊มน้ำมัน, วัด, สวนสุขภาพ, โรงงาน, ที่ว่างเปล่า และลานมัน เนื้อที่ประมาณ 1,256 ไร่ โดยให้กรมธนารักษ์ไปดำเนินการเป็นที่ราชพัสดุ 2.ประเภทพื้นที่เกษตรกรรม ,ทุ่งเลี้ยงสัตว์ ถนนและพื้นที่น้ำประเภทลำคลองต่าง ๆ ให้ สปก.ไปดำเนินการ ออกเอกสารสิทธิ์เป็น สปก.แปลงรวม จนนำมาสู่การรวมตัวคัดค้านดังกล่าวนั้น
นายสมิทธิ์ เย็นสบาย นักวิชาการจากมูลนิธิสระแก้วสีเขียว และที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการจัดการที่ดินพื้นที่ดังกล่าวไปเป็นที่ราชพัสดุ ส่วนนอกเมืองจะกลายมาเป็น สปก. รวม ๆ ทั้ง 2 พื้นที่ ประมาณ 10,805 ไร่ ซึ่งมีข้อสังเกตว่า แต่เดิมมีการเรื่องร้องเรียนกรณีที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่นเดียวกันพื้นที่อื่น ๆ ของจังหวัดสระแก้วที่มีเนื้อที่ประมาณ 4 ล้านกว่าไร่ แต่มีเอกสารสิทธิที่สามารถโอน จำหน่าย จำนองธนาคาร หรือใช้เป็นหลักทรัพย์ในการทำธุรกรรม ได้ประมาณ 17-18 % เท่านั้น แสดงว่าที่ผ่านมาชาวบ้านส่วนใหญ่ไร้อนาคตในการพัฒนาจังหวัดเหมือนกับพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ และพื้นที่ 4 ล้านกว่าไร่นี้ เคยมีการศึกษาข้อมูลที่ดินชายแดนสระแก้ว จากหน่วยงานรัฐ เช่น กรมที่ดิน สปก. พื้นที่ป่าไม้ กรมธนารักษ์ รวมทั้งพื้นที่ที่ทหารขอใช้เพื่อความมั่นคง ฯลฯ รวมกันแล้วแทนที่จะเท่ากับพื้นที่ของจังหวัด แต่เมื่อรวมทุกหน่วยแล้ว ประมาณ 10 ล้านกว่าไร่ พระเจ้า!! ที่ดินงอกมาจากไหน นอกจากจะทับซ้อนกันไปมา ต่างฝ่ายต่างอ้างเขตรับผิดชอบ ปัจจุบันระหว่างรัฐก็มีการฟ้องร้องคดีคาโรงคาศาล หลายกรณี กลายเป็นเรื่องที่น่าเศร้า
ข่าวน่าสนใจ:
- รับสมัครเลือกตั้ง สจ.สระแก้ว วันแรกคึกคัก พรรคประชาชนส่งทีมลงสมัครหลายพื้นที่ ส่วนอดีต สจ.บางคนไม่ลงเพราะต้องลงเลือกตั้งท้องถิ่น
- มือดีจุดเผาป่าลามติดร้านรับซื้อของเก่าเสียหายหนัก
- เปิดสะพานข้ามแยกสระขวัญชั่วคราวช่วงเทศกาลปีใหม่ จ.สระแก้ว ส่วนเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไนเปิดใช้เส้นทางช่วงกลางคืน
- ปทส.จับชาวบ้านฆ่าเลียงผา สัตว์สงวนหายาก บริเวณพื้นที่เทือกเขาตาง๊อก อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
“กรณีอ้างว่าประชาชนบุกรุกที่ดินรัฐ ต้องขับไล่ออกไปหรือให้เช่า หรือจัดสรรที่ดินตามที่คณะกรรมการ คทช.ประกาศ คำถามคือ งบประมาณที่ราชการนำมาลงเพื่อทำถนน สาธารณูปโภค หรือก่อสร้างอาคารต่าง ๆ หน่วยงานทำผิดระเบียบสำนักงบประมาณหรือไม่ ท่านนำงบประมาณ มาลงในพื้นที่ป่าไม้ได้อย่างไร ถ้ากระนั้น การที่ประชาชนมีการบุกรุกที่ดิน หรือเปลี่ยนมือการครอบครองสิทธิ (สปก.)จำนวนมาก จะถือว่า เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่หรือไม่ และใครต้องรับผิดชอบ กรณีวังสมบูรณ์ คณะอนุกรรมการจำแนกที่ดิน ท่านใช้หลักเกณฑ์อะไรในการพิจารณาว่า ที่ดินบริเวณนั้นควรจะเป็นที่ราชพัสดุหรือ สปก. ทั้ง ๆ ที่สามารถจะพิจารณาให้ออกมาในรูปแบบเดียว กับพื้นที่อำเภอวังน้ำเย็น หรืออำเภอเขาฉกรรจ์ ในรูปของนิคมสหกรณ์ ที่สามารถนำไปสู่การออกเอกสารสิทธิ์ ที่ทำให้เกิดการพัฒนาด้านเศรษฐกิจได้มากกว่า และประชาชนในพื้นที่ ท่านเคยมารับฟังความเห็นจากพี่น้องประชาชนหรือไม่” นายสมิทธิ์กล่าวและว่า
กรณีนี้เมื่อฟังจากพี่น้องในวังสมบูรณ์ บอกว่า จ.สระแก้วเป็นจังหวัดที่มี ส.ส.พรรครัฐบาลทั้งจังหวัด เหตุใดจึงไม่สร้างผลงานที่ประทับใจให้ชาวสระแก้ว รัฐบาลก็ทราบดีว่า เรื่องนี้จะทำให้เสียคะแนนเสียง และความมั่นใจในพรรคตัวเอง หรือไม่มั่นใจว่า จะกลับมาบริหารประเทศได้อีกหรือ?? จึงได้ใช้นโยบายแบบนี้ ดังนั้น รัฐบาลควรหยุดการพิจารณาประกาศที่ดินไปเป็นของกรมธนารักษ์ หรือประกาศเป็น สปก.ชั่วคราว และตั้งคณะทำงานในระดับพื้นที่ ร่วมกับภาคประชาชน และนักวิชาการ เพื่อศึกษาแนวทางที่เกิดประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ เพราะกระบวนการจำแนกที่ดินประเภทป่าถาวรสระแก้ว มันมีรูปธรรมที่แก้ไขให้กับคนอำเภอวังน้ำเย็น และอำเภอเขาฉกรรจ์มาแล้ว จะตะแบงไปให้คนสระแก้วเขาก่นด่าทำไม
นายสมิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อสังเกตที่ตนเสนอ ไม่ใช่ว่าจะต้องออกโฉนดกันทั้งจังหวัด ที่ใดทำไม่ได้ ก็ทำความเข้าใจกับชาวบ้านเขาเสีย ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยกันอย่างทุกวันนี้ ถ้าสำรวจดี ๆ จะพบว่า มีพ่อค้า ข้าราชการ รวมทั้งนักการเมืองถือครองที่ดินของรัฐจำนวนมาก แต่เกษตรกรนับหมื่นครอบครัวกลับไม่มีที่ดินสักแปลง ท่านคิดว่า นี่คือความเหลื่อมล้ำหรือไม่ และถึงวันที่ประชาชนเขาทนไม่ไหว จะนำไปสู่การความแตกแยกและรุนแรง รัฐบาลพลังประชารัฐ ท่านคิดอะไรกันแน่ ด้วยความเคารพครับ
ขณะเดียวกัน นายประยงค์ ดอกลำไย นักวิชาการและตัวแทนภาคประชาชน ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าว และการแก้ไขปัญหาที่ดิน วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า” เป็นการโชว์ผลงานชิ้นโบว์ดำของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา สะท้อนวิธีคิดแบบอำนาจนิยมเผด็จการ รัฐ + ราชการ บทพิสูจน์อีกหนึ่งความล้มเหลวของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)และพระราชบัญญัติคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)” ด้วย
————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: