สระแก้ว – ทหารพราน ทพ.13 จับหน้ากากอนามัยเถื่อนซุกป่าชายแดนสระแก้ว เตรียมขนเข้าตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกือบ 2 แสนชิ้น
เมื่อวันที่ 31 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กองกำลังบูรพา สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำกองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว เข้มงวดกวดขันปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและการนำสิ่งผิดกฎหมายข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา ทุกรูปแบบ ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ ฉก.ร.12 ร่วมกับ กองร้อย ทพ.1302 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 เข้าตรวจสอบหลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า พบกล่องต้องสงสัยบริเวณเส้นทางบ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงจัดชุดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว ร่วมกับ สภ.คลองลึก , กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ,ชุด คทร.ฉก.ร.12 พบกล่องกระดาษ ลักษณะคล้ายกล่องหน้ากากอนามัย ไม่มีผู้แสดงตนเป็นเจ้าของ จึงได้นำมาตรวจสอบที่ บก.ร้อย.ทพ.1302
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดฯ ได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ศุลกากรอรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวสระแก้ว เข้าตรวจสอบ ซึ่งผลจากการตรวจสอบภายในกล่องกระดาษเป็นสิ่งของต้องสงสัยว่า ละเมิดเครื่องหมายทางการค้า ประเภทหน้ากากอนามัย ยี่ห้อ 6D จำนวน 25 ลัง ซึ่ง 1 ลังมี 48 กล่อง รวม 12,500 ชิ้น และ หน้ากากอนามัยยี่ห้อ Nam Anh จำนวน 61 ลัง โดย 1 ลังมี 50 กล่อง รวม 152,500 ชิ้น ซึ่งรวมทั้งหมด 165,000 ชิ้น คาดว่า นำมาพักคอยในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเตรียมลำเลียงออกไปยังพื้นที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ต่อไป จึงได้ส่งมอบหน้ากากอนามัยทั้งหมด ให้กับเจ้าหน้าที่ศุลกากรอรัญประเทศ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ข่าวน่าสนใจ:
อย่างไรก็ตาม สำหรับหน้ากากอนามัยดังกล่าว ผลิตจากประเทศเวียดนาม และถือว่าเป็นสินค้าต้องจำกัด ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร การนำเข้าต้องขออนุญาต และเป็นสินค้าควบคุมตามกฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า กลุ่มพ่อค้าต้องการลักลอบนำเข้ามาส่งขายในตลาดโรงเกลือ โดยจ้างชาวกัมพูชาลักลอบขนข้ามแดนจากฝั่งกัมพูชามาตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อเข้ามาส่งให้พ่อค้าในตลาดโรงเกลือ แต่มาพบเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนเสียก่อน จึงทิ้งสิ่งของไว้ในป่าแล้ววิ่งหลบหนีกลับกัมพูชา ซึ่งสินค้าทั้งหมด เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาท
————————–
ภาพโดย/กกล.บูรพา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: