สระแก้ว – พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. และ รอง ผอ.ศพดส.ตร. บินลงพื้นที่สระแก้ว รับคนไทยเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ จำนวน 31 คน โดย ผบ.ตร.สั่งเน้นย้ำให้ดำเนินคดีทุกราย ขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก” เตรียมเอาจริงเอาจังบริเวณแนวชายแดน เพื่อจับกุมคนไทยที่ถูกออกหมายจังไว้แล้วอีก 43-44 ราย กลับมาลงโทษในประเทศไทยให้หมด พร้อมคาดโทษ ผกก.หัวหน้าสถานีและเจ้าหน้าที่แนวชายแดน จ.สระแก้ว ทุกท้องที่
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 20 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. หรือ รองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัวป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะฯได้บินด่วนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาที่ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อมารับตัว 31 คนไทย เหยื่อแก๊งคอลเซ็นแตอร์ค้ามนุษย์ชาวจีนในกัมพูชา จาก เจ้าหน้าที่ ตม.ปอยเปตฯและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกัมพูชาที่นำตัว 31 คนไทย เดินเท้าจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา มาส่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ที่บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่กัมพูชา ที่ได้ให้ความร่วมมือกับประเทศไทยมาโดยตลอด โดยมี พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ,พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก, พ.ต.ท.จิรพัฒน์ เขียวศิริ สว.ส.ทท.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ทหารพราน ชค.ทพ.13 กกล.บูรพา ร่วมรับตัวและร่วมตรวจรับคนไทย ซึ่ง พ.ต.อ.รุ่ง และเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว ได้นำคนไทยทั้งหมด เข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิดของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสระแก้วและกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง
โดยเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายหนึ่ง ให้ข้อมูลกับ พล.ต.ท.สรุเชษฐ์ หรือ “บิ๊กโจ๊ก”ว่า เดินทางไปทำงานที่กัมพูชาได้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง โดยเดินทางข้ามแดนในพื้นที่ป่าซึ่งจำไม่ได้ เนื่องจากมีคนพาข้ามตอนกลางคืน ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะให้ไปทำงานหลอกคนให้ร่วมลงทุน โดยให้ทำงานเป็นรายเดือนต่อคนจะต้องมียอดประมาณ 3 แสนบาท โดยมีกลุ่มชาวจีนเป็นผู้ควบคุมดูแล ใช้ล่ามแปลภาษาในการสื่อสารกัน หลังจากนั้น ทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้กล่าวทักทายกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาจากกรุงพนมเปญว่า ทางการไทยกำลังจะทำการส่งหมายจับไปให้ทางการกัมพูชาให้ชัดเจนอีกครั้ง เพื่อติดตามจับกุมคนไทยผู้ที่ถูกออกหมายจับ ซึ่งอยู่ในฝั่งเมืองสีหนุวิวล์ ประเทศกัมพูชา
ข่าวน่าสนใจ:
- ตร.น้ำกระบี่ บุกรวบ 3 ลูกเรือประมง ยึดยาบ้า พบมั่วสุมเสพ ก่อนออกจับปลา
- เจ้าหน้าที่ตำรวจ-สาธารณสุขและฝ่ายปกครอง บุกพบหนุ่มป่วน.
- เพชรบูรณ์-ผปส.มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ฯ จี้ผู้จัดคอนเสิร์ต-จนท.เข้มบุหรี่ไฟฟ้า
- จนมุมเพราะไก่ชน!! ตำรวจบางละมุงวางแผนเหนือเมฆ หลอกแก๊งค์ค้ายานรกมาซื้อไก่ชน ก่อนตามรวบยกแก๊งค์ ยึดยาบ้าแสนเม็ด - ไอซ์ 1 กก. พร้อมรถ 2 คัน…
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการป้องกันการลักลอบข้ามแดนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า วันนี้สิ่งที่กำลังทำอยู่โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศพดส.ตร. ณ วันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งท่าน ผบ.ตร.ย้ำ 2 ด้าน คือ ด้านการปราบปราม การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ให้เกิดความหวาดกลัวต่อการกระทำความผิด และให้ผู้กระทำความผิดรู้สึกได้ว่า สิ่งที่เค้าทำอยู่ไม่ใช่เส้นทางที่ถูกต้อง ซึ่งกรณีที่ท่าน ผบ.ตร.เดินทางไปประเทศกัมพูชา ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า คนไทยที่เดินทางไปทำงานอยู่ที่กัมพูชาก็ไม่ใช่ว่า จะสุขสบาย แล้ววันนี้เมื่อกลับมาประเทศไทย ท่าน ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำให้ดำเนินคดีทุกราย กรณีที่ไม่เข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์
“ทุกคนที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ เมื่อเข้ามาในประเทศไทย ถ้าไม่ใช่เหยื่อการค้ามนุษย์ เมื่อคัดแยกแล้วจะต้องถูกดำเนินคดีความผิด 2 ฐานความผิด คือ 1.หลบหนีออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย โดยไม่ได้ออกตามช่องทางที่ถูกกฎหมาย และ 2.ความผิดตาม พรบ.ของกระทรวงแรงงาน พรบ.กรมการจัดหางาน การออกเดินทางไปทำงานยังต่างแดนโดยที่ไม่แจ้งให้กรมแรงงานทราบถือว่า มีความผิด ซึ่งความผิดสองส่วนนี้เป็นความผิดที่มีอัตราโทษปรับก็จริง แต่ถ้าไม่มีเงินเสียค่าปรับก็จะถูกส่งฟ้องศาลทุกราย โดยถูกควบคุมในห้องขังและส่งฟ้องศาล เพราะฉะนั้น ทุกรายต้องเรียนว่า ดำเนินคดีหมด เว้นแต่ว่าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์” “บิ๊กโจ๊ก” กล่าวและว่า
ขณะนี้อีกส่วนหนึ่งที่กำลังจะดำเนินการ ซึ่งตนเองกำลังประชุมในวันนี้คือ มาตรการในการป้องกันที่ต้องเอาจริงเอาจังซักที เพราะวันนี้คนไทยที่อยู่ฝั่งโน้นเฉพาะปอยเปต วันนี้เหลือประมาณ 20-30 คน เท่าที่ฟังข้อมูลจากเมื่อสักครู่นี้ แต่ยังมีคนไทยอีกบางส่วนที่เราออกหมายจับไว้อีก 43-44 ราย ซึ่งส่วนนี้ได้คุยกับ พ.อ.วิทเจ็ตฯ แล้วว่า จะขอความร่วมมือผ่านแดนอีกครั้งหนึ่ง เพื่้อให้จับกุมคนไทยที่หลงเหลืออยู่ กลับมาลงโทษในประเทศไทยให้หมด ซึ่งคนไทยกลุ่มนี้เป็นตัวหลักในการที่ร่วมกับคนจีนในการหลอกลวงคนไทย
อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการป้องกันที่จะต้องเอาจริงเอาจังหลังจากนี้นั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผู้กำกับการตามแนวชายแดนทั้งหมด ผู้พันหน่วยทหาร วันนี้ซึ่งผมก็ได้ประชุมมา 2-3 ครั้่งแล้ว แต่ว่าหลังจากนี้ผมจะลงไปดูบริเวณจุดต่าง ๆ โดยเราจะเอาเด็กที่ลักลอบออกไปมาไล่ทั้งหมด แล้วย้อนกลับไปว่า เด็กออกทางช่องทางไหน ซึ่งนับจากวันนี้ไป หัวหน้าสถานี ผู้กำกับฯ แนวชายแดน ถ้ายังพบอีกว่า มีคนไทยที่ยังหลบหนีออกไปได้ ผมก็จะเอาผู้กำกับหัวหน้าสถานีมาพิจารณาลงโทษ เพราะไม่ใช่ว่า ชายแดนยาวจริง แต่ช่องทางที่ออกประจำมีไม่กี่ช่อง อีกส่วนหนึ่งในส่วนของเด็กทั้งหมด จะเอาตัวมาไล่กลับย้อนหลังทั้งหมด ถ้าพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เกี่ยวข้อง จะไล่ดำเนินคดีทั้งหมด โดยใช้มาตรการทั้งการปราบปรามและการป้องกันควบคู่กันไป
—————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: