สระแก้ว – พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล บินด่วนลงพื้นที่ จ.สระแก้ว แถลงปิดคดีค้ามนุษย์ โดยมีการจับกุม 4 เจ้าหน้าที่รัฐ-ทหารพรานประจำแนวชายแดน พัวพันเครือข่ายขบวนการขนคนลักลอบข้ามแดน นำคนไทยเดินทางไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในประเทศกัมพูชา สรุปผลช่วยเหลือคนไทยได้เกือบ 800 ราย ล่าสุด ช่วยเหลือเหยื่อคนไทยจากนายจ้างขู่จับโยนให้สิงโตทำร้าย
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 10 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณห้องประชุมด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากกรณี นางนิภา อายุ 57 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.โคกเหล็ก อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้ร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชนมายัง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือ”บิ๊กโจ๊ก” ขอให้ช่วยเหลือ น.ส.สตรีรัตน์ พริ้งเพราะ อายุ 25 ปี บุตรสาว และ น.ส.ธนกานต์ ดีสะเกษ อายุ 35 ปี เพื่อนของบุตรสาว ซึ่งถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา และถูกบังคับให้ทำงานหลอกลวงคนไทย หากปฏิเสธก็จะถูกนายจ้างจับโยนให้สิงโตที่เลี้ยงอยู่ในที่กักขังทำร้าย ซึ่งต่อมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยัง พล.ต.ต.ออง ลีฮัว รอง ผบก.จว.บันเตียเมียนเจย ให้เข้าช่วยเหลือเหยื่อได้สำเร็จภายหลังทรามเรื่องโดยทันที ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอไป โดยทางครอบครัวของ น.ส.สตรีรัตน์ พริ้งเพราะ และครอบครัวของ นายพิชัย แซ่ม้า ได้เดินทางมาเพื่อนำกระเช้ามอบให้กับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และเจ้าหน้าที่ของไทย เพื่อขอบคุณที่เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือญาติจนปลอดภัย โดยขณะนี้ยังไม่สามารถส่งตัวเหยื่อกลับมาประเทศไทยได้ เนื่องจากทางการกัมพูชายังมีขั้นตอนการสอบสวนเหยื่อเพิ่มเติมอีก คาดว่า อีกประมาณ 2 วัน น่าจะสามารถส่งตัวกลับไทยทางด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 ,พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. และคณะเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาที่ จ.สระแก้ว โดยมี พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว , พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว , พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก ,พ.ต.อ.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผกก.ตชด.12 และ พ.ต.ท.จิรพัฒน์ เขียวศิริ สว.ส.ทท.สระแก้ว ร่วมต้อนรับและเข้าร่วมประชุม เพื่อสรุปและเร่งรัดผลการดำเนินการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกลวงไปบังคับให้ทำงานโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเข้าข่ายการค้ามนุษย์ในประเทศกัมพูชา โดยมีการแถลงข่าวสรุปเพื่อปิดคดีการสืบสวนจับกุมขบวนการ กลุ่มเครือข่ายหลอกลวงคนไทยไปบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย ขบวนการนำพา ช่วยเหลือ สนับสนุนให้มีการลักลอบนำคนไทยข้ามแดนไปกัมพูชา โดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้แถลงสรุปผลการปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกเครือข่ายค้ามนุษย์ หลอกไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา แบ่งเป็น 1.ช่องทางการช่วยเหลือ ที่จุดตรวจด่านถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 13 ครั้ง รวม 721 คน และจุดตรวจด่านถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด จำนวน 13 ครั้ง รวม 59 คน รวมช่วยเหลือคนไทยแล้วทั้งสิ้น 26 ครั้ง 780 คน 2.การดำเนินคดีในความผิดฐานค้ามนุษย์ พบผู้เสียหายที่เป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ 219 ราย ,มีการขยายผลดำเนินคดีทั้งหมด 20 คดี ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 82 หมายจับ 66 ราย เป็นสัญชาติไทย 48 ราย ต่างชาติ (จีน,กัมพูชา) 18 ราย จับกุมแล้ว/อายัดผู้ต้องหาแล้ว 33 หมายจับ 27 ราย อยู่ในระหว่างติดตามจับกุม 49 หมายจับ 39 ราย
รอง ผบ.ตร. ยังระบุด้วยว่า นอกจากคดีค้ามนุษย์แล้ว ยังมีการขยายผลดำเนินคดี ออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายนำพาคนไทยข้ามแดนไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศกับพูชา รวมทั้งสิ้น 37 คดี ออกหมายจับ 107 หมาย ผู้ต้องหา 19 ราย ปัจจุบันสามารถจับกุมตัวได้แล้ว 30 หมายจับ ผู้ต้องหา 11 ราย คงเหลือ 8 ราย 77 หมายจับ โดยได้มีการดำเนินคดีผู้ต้องหาในฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 1.ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 320 ผู้ใดใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด พาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 30 ห้ามมิให้ผู้ใดจัดหางานให้คนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 82) ส่วน มาตรา 62 คนหางานซึ่งเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร จะต้องเดินทางออกไปโดยผ่านทางด่านตรวจคนหางาน และต้องยื่นรายการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบที่อธิบดีประกาศ กำหนด ณ ด่านดังกล่าว ผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 87) และมาตรา 66 การโฆษณาการจัดหางานให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 88)
สำหรับเหยื่อคนไทยที่ช่วยเหลือออกมาทั้งหมด ได้มีการประสานการช่วยเหลือร่วมกัมพูชามาอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ประชุมหารือแนวทางปฏิบัติร่วมกันกับ ผบ.ตร.ประเทศกัมพูชา เพื่อกวาดล้างกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และมีการจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาแล้วจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ได้มีการออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกลุ่มนายหน้า และผู้นำพาคนไทยลักลอบข้ามแพรมแดนโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งกลุ่มที่ใช้สื่อโซเชียลในการประกาศรับสมัครงาน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน และหลอกลวงเหยื่อไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้านด้วย แม้ว่าผู้ต้องหาที่เหลือจะหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่จะได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ประเทศไทยแน่นอน โดยคดีที่น่าสนใจและมีการจับกุมทั้งหมด 20 เครือข่ายในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นางวิลาวรรณ์ กันหนองฮะ อายุ 39 ปี สมาชิกสภาตำบลโคกสูง เขต 2 อ.โคกสูง จ.สระแก้ว , เจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 อีกจำนวน 3 ราย ในความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ และร่วมกันจัดหางานและนำพาบุคคลไปต่างประเทศฯ
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.สุรเชษฐ หักพาล เปิดเผยอีกว่าว่า ในส่วนที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะประเมินเทียร์ ที่เป็นความร่วมมือในการปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ซึ่งได้ยืนยันแล้วว่า หลังจากนี้ไม่เกิน 2 เดือน ซึ่งในส่วนของรัฐบาลไทย ตนเองและกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปประชุมร่วมกันกับทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพราะฉะนั้นในเรื่องของเทียร์ในปีนี้ รัฐบาลไทยมีความพยายามและมุ่งมั่นมาก โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งสถานการณ์ ณ วันนี้ สถานการณ์การค้ามนุษย์ของประเทศไทยไม่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา เราจะทำเฉพาะในประเทศไทยประเทศเดียวไม่ได้ ต้องได้รับความร่วมมือในระดับของภูมิภาค เช่น ประเทศไทย ประเทศกัมพูชา ประเทศพม่า ประเทศเวียดนาม ที่จะต้องให้ความร่วมมือในการทำงานร่วมกัน ซึ่งทางประเทศไทยก็ต้องขอความร่วมมือจากรัฐบาลสหรัฐเพื่อช่วยประเทศไทย ในการกดดันประเทศต่าง ๆ เพื่อให้ความร่วมมือกับประเทศไทยในการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ร่วมกันด้วยความจริงใจ และรัฐบาลไทยจะนำข้อมูลกระบวนการค้ามนุษย์และแนวทางเหล่านี้ไปหารือร่วมกับรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการดูแลประเมินเทียร์จะต้องดูทั้งภูมิภาค ไม่ใช่แต่ละประเทศต่างดูตัวเอง ต้องดูด้วยว่า ประเทศไหนไม่ให้ความร่วมมือ รัฐบาลสหรัฐก็ต้องไปให้ความช่วยเหลือและจี้ให้ดำเนินการด้วย
——————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: