สระแก้ว – กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม จ.สระแก้ว ทอดพระเนตรสถาปัตยกรรมวัฒนธรรมเขมรและศูนย์บริการข้อมูล ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่ จ.สระแก้ว ยื่นถวายฎีกาฯ จำนวน 3 ราย
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.65 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยมีท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ,นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ,นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ,นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร เฝ้าฯ รับเสด็จ ซึ่งโอกาสนี้ ทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม และทอดพระเนตรนิทรรศการภายในศูนย์บริการข้อมูลอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวของปราสาทสด๊กก๊อกธม ความรู้เกี่ยวกับปราสาท สถาปัตยกรรมวัฒนธรรมเขมร เนื้อหาจารึกสด๊กก๊อกธม รวมถึงการอนุรักษ์และบูรณะปราสาทสด๊กก๊อกธมผ่านนิทรรศการสื่อผสม ทั้งป้ายคำบรรยาย หุ่นจำลองสามมิติ สื่อวีดีทัศน์ และการจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ โดยเสด็จฯไปยังบริเวณที่ฉายพระฉายาลักษณ์ ฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับผู้บริหาร ข้าราชการ คณะกรรมการ ทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก เสด็จออกจากศูนย์บริการข้อมูล ทรงปลูกต้นมะขามป้อม ต้นไม้ประจำจังหวัดสระแก้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- ตม.สระแก้ว บูรณาการร่วมกับ หน่วยงานข้างเคียง จับกุมไทย-เขมร 2 ราย ไม่เข้าออกตามช่องทาง
- ตำรวจระดมกวาดล้างหนี้นอกระบบและรับจำนำรถผิดกฎหมาย จ.สระแก้ว
- โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ เพื่อเกษตรกรพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงการบริการทางวิชาการและได้รับการแก้ปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร
- ตรวจยึดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กว่า 9,844 รายการ จ.สระแก้ว
จากนั้น ทรงประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จฯไปยังตัวปราสาทสด๊กก๊อกธม ทอดพระเนตรปราสาทสด๊กก๊อกธม ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จฯไปยังบาราย ทอดพระเนตรนิทรรศการเรื่อง สริทภังคันตฏากะ :สหวิทยาการกับปราสาทสด๊กก๊อกธม ทอดพระเนตรบาราย ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง จากนั้นเสด็จฯ กลับไปยังวังสระปทุม สำหรับปราสาทสด๊กก๊อกธม เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดูแบบไศวนิกาย ในรูปแบบศิลปะเขมรในประเทศไทยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานปราสาทสด๊กก๊อกธมครั้งแรก เมื่อปี 2478 ต่อมาได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์และพัฒนาปราสาทสด๊กก๊อกธม โดยดำเนินงานทางโบราณคดี และบูรณะปราสาทด้วยวิธีอนัสติโลซิส ซึ่งเป็นวิธีประกอบรูปโบราณสถานขึ้นจากซากปรักหักพังให้กลับมามีสภาพที่รักษาความเป็นของแท้และดั้งเดิมให้ได้มากที่สุด จนกระทั่ง ปี 2562 ได้ประกาศจัดตั้งให้เป็นอุทยานประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ กรมศิลปากรได้มีการจัดสร้างศูนย์บริการข้อมูลอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม จัดแสดงเรื่องราวของปราสาทสด๊กก๊อกธม ความรู้เกี่ยวกับปราสาท สถาปัตยกรรมวัฒนธรรมเขมร เนื้อหาของจารึกสด๊กก๊อกธม รวมถึงการอนุรักษ์และบูรณะปราสาทสด๊กก๊อกธม ผ่านนิทรรศการสื่อผสม โดยมีป้ายคำบรรยาย หุ่นจำลองสามมิติ สื่อวีดีทัศน์ และการจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ ที่สำคัญ ทั้งชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมวัฒนธรรมเขมร เครื่องประดับสถาปัตยกรรม และองค์ประกอบต่างๆ อาทิ แท่นหินศิลาฤกษ์ แผ่นทองที่พบจากปราสาทสด๊กก๊อกธม เป็นต้น ซึ่งหลังจากนี้ทางกรมศิลปากรจะเร่งจัดทำแผนประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ร่วมกับ จ.สระแก้ว เพื่อเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ นักเรียน นักศึกษา และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ เข้ามาศึกษาเรียนรู้แหล่งโบราณคดีและประวัติศาสตร์ รวมถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมศิลปะเขมรภายในอุทยานประวัติศาสตร์ให้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันนี้ พ.อ.สุชาญาณ ศรีตระกูล รอง ผอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว (ท) ร่วมกับ พ.ต.อ.พีระพงษ์ เหล่าธนาวิน รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ,นายสุรชัย ตันชัชวาล ผอ.กลุ่มงาน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้ว รับเรื่องร้องทุกข์ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ที่ศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่ จ.สระแก้ว ณ สำนักปฏิบัติธรรมปราสาทสด๊กก๊อกธม ม.9 บ.หนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ จ.สระแก้ว ที่ได้รับความเดือดร้อนและได้ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ยื่นถวายฎีกา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรปิยชาติ โดยมีชาวบ้าน จำนวน 2 ราย ได้ยื่นถวายฎีกา และ จำนวน 1 ราย มาติดตามความคืบหน้าที่เคยถวายฎีกาไปแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ยื่นถวายฎีกาผ่านศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่ จ.สระแก้ว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้รับเรื่องร้องทุกข์
สำหรับรายชื่อผู้ที่ยื่นถวายฎีกาครั้งนี้ ประกอบด้วย 1.นายเชษฐา งามบุญคำ หรือผู้ใหญ่เพ็ชร อดีตผู้ใหญ่บ้านโนนขี้เหล็ก ม.6 อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.6 บ.โนนขี้เหล็ก ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรม กรณีถูกดำเนินคดีวางเพลิงเผาทรัพย์ เมื่อปี 2555 เคยยื่นถวายฎีกา เมื่อวันที่ 25 ก.พ.65 ที่ผ่านมา และได้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าที่ได้ถวายฎีกาไปแล้ว , 2.นายยุทธพัฒน์ เพ็ชรประเสริฐ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 ม.1 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยื่นเรื่องปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน เคยยื่นถวายฎีกา เมื่อวันที่ 25 ก.พ.65 และวันนี้ได้มายื่นถวายฎีกาอีกครั้ง , 3.นายภาณุพงศ์ คำวุโส อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 ม.15 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว , น.ส.วิมล รักษา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.15 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ได้ยื่นถวายฎีกา เรื่องเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน บ้านทัพสยาม ม.15 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.สระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับเรื่องและจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายยุทธพัฒน์ เพ็ชรประเสริฐ หนึ่งในผู้ยื่นถวายฎีกา ระบุว่า ตนเองได้ยื่นหนังสือถวายฎีกา เรื่องให้พิจารณาสั่งปลดหรือให้ออกผู้ใหญ่บ้านทับทิมสยาม03 กรณีหมู่บ้านโครงการทับทิมสยาม03 ที่เป็นโครงการพระราชทาน ซึ่งผู้นำและคณะอนุกรรมการ ปล่อยให้มีการซื้อ-ขายบ้านและที่ดินดังกล่าว พร้อมกับขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ทุกสายงาน ที่ตามอารักขาดูแลมหาวันอย่างดียิ่ง
——————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: