สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ชุดสืบจังหวัดสระแก้ว จับกุมแก๊งชาวจีนขณะลักลอบเข้าไทย 7 คน พร้อมชาวกัมพูชาและคนไทย รวม 11 คน บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขณะเตรียมเข้าซุกในเซฟเฮ้ารีสอร์ท เพื่อรอรถมารับเข้าไปพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมกับนำตัวไปชี้จุดและเส้นทางเดินทางเข้าประเทศไทย
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 17 พ.ค.65 ผูู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก ,พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ฮะกาว รอง ผกก.ป.ฯ โดยมี พ.ต.ท.จรูญ เปรมกระโทก สว.สส.ภ.จว.สระแก้ว ,ร.ต.อ.กมล บัวผดุง รอง สว.สส.ฯ ,ร.ต.อ.กฤษณะ เอี่ยมสอาด รอง สว.สส.ฯ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ชุดปฏิบัติการที่ 3 ร่วมกับ พ.ต.มิตรบัญชา ทองโสภา ผบ.ร้อย.ทพ.1304 เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1304 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 กองกำลังบูรพา เข้าสกัดและจับกุมแก๊งชาวจีน 7 คน ชาวกัมพูชา 2 คน และคนไทย 2 คน รวมทั้งหมด 11 คน ที่บริเวณหน้าทางเข้าบ่อขยะเทศบาลเมืองอรัญ ถ.ราชอุทิศ ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ชป.3 อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมกับนำตัวไปชี้จุดและเส้นทางเดินทางเข้าประเทศไทย
จากการตรวจสอบผู้ต้องหาทั้ง 11 คน ประกอบด้วย 1.นายยุทธภูมิ พิมพ์สาร อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 51/2 ม.10 ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว ,2.นางจันทา เจีย อายุ 41 ปี สัญชาติ กัมพูชา ที่อยู่ห้องเช่าศรันยพงศ์ เลขที่ 16/19 กิโลสองฝั่งขวา ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ,3.นายเจิง คัง จา อายุ 25 ปี สัญชาติจีน ,4.นายจอง คาว ฉิง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ,5.นายเจิน จี้ ผง อายุ 27 ปี สัญชาติจีน ,6.นายหลัว ลี่ หมิง อายุ 28 ปี สัญชาติจีน ,7.นายคอง นง อายุ 30 ปี สัญชาติจีน ,8.นายเยอ ปิง อายุ 30 ปี สัญชาติจีน ,9.น.ส.คอง เยี่ยน คุย อายุ 42 ปี สัญชาติจีน ,10.นายยูน นา อายุ 33 ปี สัญชาติกัมพูชา และ 11.นายสุริยันต์ วงค์ใส อายุ 27 ปี สัญชาติไทย พร้อมของกลางรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ-9602 สระแก้ว จำนวน 1 คัน ,โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง สีทอง หมายเลขซิมการ์ด 0940156015 ระบบทรู จำนวน 1 เครื่อง ของนายยุทธภูมิฯ ที่ใช้ติดต่อสื่อสารในการนำพาคนต่างด้าวทั้งหมด และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อออฟโป้ สีดำ หมายเลขซิมการ์ด 0944735311 ระบบดีแทค จำนวน 1 เครื่อง ของนางจันทาฯ ที่ใช้ติดต่อสื่อสารในการรับคนต่างด้าวเข้าพักรอที่โรงแรมเคียงนา เพื่อรอรถมารับและเดินทางเข้าไปพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร
ข่าวน่าสนใจ:
- ทุบกระจกหนีตาย ดินสไลด์บ้านพังตกแม่น้ำบางปะกง เดือดร้อน 5 ครัวเรือน
- องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทานเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2568 มอบให้ทหารกองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว
- สงขลา"นายกเเบน"ลงชิง นายก อบจ.สงขลา รวม 3 ทีมเป็นหนึ่งเดียว ชู 10 นโยบายเร่งด่วนทำได้จริง
- ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ร่วมงานวันสถาปนาหน่วย ร.12 รอ. ครบรอบปีที่ 42 จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหาที่ 1 ที่ 2 ว่าร่วมกันช่วยเหลือ ช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ซึ่งบุคคลต่างด้าว (ชาวจีน,กัมพูชา) ที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายให้รอดพ้นจากการจับกุม ,ผู้ต้องหาที่ 3-9 เป็นบุคคลต่างด้าว (ชาวจีน) หลบหนีเข้ามาราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต (โดยผ่านล่ามแปลภาษาจีน) ,ผู้ต้องหาที่ 10 เป็นบุคคลต่างด้าว (ชาวกัมพูชา) หลบหนีเข้ามาราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ผู้ต้องหาที่ 11 บุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร จะต้องเดินทางเข้ามาหรือออกไปตามช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมืองเขตท่าสถานี หรือท้องที่ตามกำหนดเวลา (ม.11) โดยก่อนจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว ตำรวจได้ร่วมกันระดมกวาดล้างอาชญากรรมและจับกุมการนำพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อมิตซูบีชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ-9602 สระแก้ว มีพฤติการณ์นำพาบุคคลต่างด้าว ชาวจีนและกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย มายังจุดพักคอยและส่งต่อไปยังรถยนต์ที่คอยมารับต่อไปที่กรุงเทพมหานคร ที่โรงแรมเคียงนา ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วได้สั่งการให้สืบสวนจับกุม ช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. หลังพบรถคันดังกล่าวขับย้อนศรมาจากซอยบ้านนาดง เข้าไฟแดงมุ่งหน้าสี่แยกท่าข้าม เลี้ยวซ้ายซอยสุสาน เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ขับรถติดตามและแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่คนขับรถเห็นเจ้าพนักงานตำรวจได้เร่งความเร็วรถยนต์พยายามหลบหนี เจ้าพนักงานตำรวจได้ขับรถไล่ติดตามจนสามารถหยุดรถได้ ที่หน้าทางเข้าบ่อขยะทศบาลเมืองอรัญ ถ.ราชอุทิศ ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
โดยจากการสอบสวนขยายผลจากนายยุทธภูมิ ฯ ทราบว่า โรงแรมเคียงนา จะเป็นเซฟเฮ้าส์ที่เปิดห้องพักไว้เพื่อรอรับลูกค้า ซึ่งมีนางจันทา เจีย อายุ 41 ปี สัญชาติกัมพูชา เป็นผู้ดูแล โดยรับจ้างจากชาวกัมพูชาด้วยกันให้มาเปิดห้องพัก เพื่อรอรับลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย ให้ค่าจ้างคนละ 2,000 บาทต่อครั้ง โดยรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ระบุว่า ได้รับการว่าจ้างจาก นายยุรนันท์ หรือป้อม มีโพธิ์ อายุประมาณ 35 ปี พักอาศัยอยู่แถวห้องเย็นอรัญ ซึ่งติดต่อกันทางแอพพลิเครชั่นแมสเซ็นเจอร์ ชื่อ Yuranan Meepho Zaza ให้ไปรับชาวต่างด้าวทั้งหมด ที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ที่ริมถนนในหมู่บ้านหนองเอี่ยน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ เพื่อนำมาส่งเข้าห้องพักที่โรงแรมเคียงนา รอรถมารับไปยังกรุงเทพมหานครอีกทอดหนึ่ง โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 2,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว พบว่า บุคคลตามแอพพลิเคชั่นดังกล่าวคือ นายยุรนันท์ หรือป้อม โพธิ์มี อายุ 35 ปี อยู่ที่ 199 ม.1 ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงได้ให้นายยุทธภูมิฯ ชี้ยืนยันภาพถ่ายไว้ พร้อมแนบมาท้ายบันทึกนี้ เพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาต่อไป
ทางด้าน นางจันทา เจีย อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาชาวกัมพูชา กล่าวว่า ตนเองมีสามีเป็นคนไทยอยู่ในประเทศไทยมาประมาณ 9 ปี เช่าห้องอยู่ห้องเช่า อยู่ตรงข้ามโรงแรมดังกล่าว มีชาวกัมพูชา ไม่ทราบชื่อ ติดต่อมาหาตน ว่าจ้างให้เปิดห้องที่โรงแรมเคียงนา เพื่อนำคนจีนที่หลบหนีเข้ามาในราชอาราจักรโดยผิดกฎมายเข้าพักรอรถมารับต่อไปยังกรุงเทพมหานคร จำนวน 4 ครั้ง โดยให้ค่าจ้างเป็นรายหัว หัวละ 2,000 บาท ส่วน นายยูน นา อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาชาวกัมพูชาอีกคน ให้การว่า เป็นพ่อค้าขายกระเป๋ามือสองในตลาดโรงเกลือลืมเอาเอกสารการเดินทางติดตัวไป จึงใช้ช่องทางธรรมชาติในการเดินทางข้ามแดน เพื่อมาเปิดร้านขายกระเป๋ามือสองในตลาด ,ขณะที่ นายสุริยันต์ วงค์ใส อายุ 27 ปี คนไทย ผู้ต้องหาที่ 11 กล่าวว่า เดินทางข้ามไปทำงานยังประเทศกัมพูชาเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว โดยทำงานออนไลน์อยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา แต่มีปัญหากับเพื่อร่วมงาน จึงตัดสินใจหนีกลับประเทศไทย โดยใช้ช่องทางธรรมชาติผ่านนายหน้าคนไทย เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 บาท ส่วนผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 7 คน บอกว่า มาทำงานที่ประเทศกัมพูชา เป็นเวลา 6 เดือน มีเพื่อนเป็นคนจีนในประเทศไทย ชักชวนให้ไปทำงานด้วย โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเงินประมาณ 20,000 หยวน/เดือน จึงตัดสินใจลักลอบเดินทางเข้ามายังประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าที่นำพาข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ ประมาณคนละ 200 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 6,500 บาท เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมด้วยของกลาง ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
—————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: