สระแก้ว – ชาวบ้านกว่า 50 คน รวมตัวที่ สภ.บ้านทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อกดดันประธานกองทุนหมู่บ้านรัตนะ หลังยักยอกเงินกองทุนหมู่บ้านมานาน 5 ปี ส่งผลให้กองทุนล่มจนไม่สามารถปล่อยกู้ได้ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและพูดคุยไกล่เกลี่ยกับพนักงานสอบสวน โดยให้คืนเงินเข้าสู่บัญชีกองทุนฯ ภายใน 1 เดือน จำนวน 750,000 บาท หากไม่ดำเนินการจะมีการดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.บ้านทัพไทย ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเกือบ 50 ราย จากกรณีกองทุนหมู่บ้านรัตนะ ม.5 ต.ทัพไทย ล่มสลายมานานกว่า 5 ปี ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถยื่นกู้ยืมเงินจากกองทุนหมู่บ้านที่ได้รับเงินงบประมาณจัดสรรเงินกองทุนจากรัฐบาล จำนวน 2.4 ล้านบาทได้ โดยก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้ว และรวมตัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บ้านทัพไทย ให้ดำเนินคดีกับประธานกองทุนหมู่บ้านฯ เมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด พ.ต.อ.ธีระพงษ์ ศักดานุศาสน์ ผกก.สภ.บ้านทัพไทย ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุรชัย วัชรพาณิชย์ รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ เข้าดูแลควบคุมคดีดังกล่าว โดยมี ร.ต.อ.วีระนนท์ ธนาณัฐเศราษฐ์ รอง สว.(สอบสวน) ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ส่งหมายเรียกไปยัง นายวันชัย เกิดทะโสม ประธานกองทุนหมู่บ้านรัตนะฯ มารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมทั้งเรียก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกรรมการกองทุนหมู่บ้านรัตนะฯ เพื่อสอบสวนข้อมูลและแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว ท่ามกลางชาวบ้านกว่า 50 ราย ที่เดือดร้อนและนั่งรอคำตอบอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีการพูดคุยเพื่อไกล่เกลี่ยปัญหากองทุนฯ โดยมี พ.ต.อ.ธีระพงษ์ ศักดานุศาสน์ ผกก.สภ.บ้านทัพไทย และ พ.ต.ท.สุรชัย วัชรพาณิชย์ รอง ผกก.(สอบสวน) นั่งรับฟังอยู่ด้วย ซึ่งตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านรัตนะ และนายยุทธพัฒน์ เพชรประเสริฐ แกนนำชาวบ้าน ที่ต้องการให้ผู้ต้องหา นำเงินที่ยักยอกไปกว่า 7 แสนบาท กลับเข้าบัญชีกองทุนภายใน 1 เดือน จากเดิมที่ผู้ต้องหาต่อรองว่า จะขอชดใช้คืนภายใน 3 ปี ซึ่งพนักงานสอบสวนและชาวบ้านไม่เห็นด้วย เนื่องจากจะส่งผลทำให้กองทุนหมู่บ้านกลับมาทำหน้าที่ปล่อยกู้ได้ล่าช้ายิ่งขึ้น กระทั่งเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงเศษ จึงได้ข้อสรุปเบื้องต้นและพนักงานสอบสวนได้ทำบันทึกขึ้น 1 ฉบับ พร้อมกับนำไปอ่านให้ชาวบ้านทุกคนได้รับฟังพร้อมกัน
ข่าวน่าสนใจ:
- พ่อค้ายาหัวใส!! ซุกยาในหัวชาร์ตโทรศัพท์มีรูปสติกเกอร์โดเรม่อน ตบตาเจ้าหน้าที่ ถูกฝ่ายปกครองรวบพร้อมของกลาง จ.สระแก้ว
- กองบิน 7 จัดกิจกรรม “ค่ายเยาวชนสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ”
- ทหารพราน ทพ.13 จับสินค้าหนีภาษีบุหรี่เถื่อน พื้นที่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว
- ป.ป.ช.ลงพื้นที่การรุกล้ำทางเข้าและกีดขวางการจราจร หน้าด่านคลองลึก-ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว
พ.ต.ท.สุรชัย วัชรพาณิชย์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านทัพไทย กล่าวว่า บันทึกเรื่อง ยักยอกเงินกองทุนหมู่บ้านรัตนะ หมู่ที่ 5 ต.ทัพไทย ตามข้อสั่งการของ ผกก.สภ.บ้านทัพไทย ได้ดำเนินการออกหมายเรียกตัว นายวันชัย เกิดทะโสม ประธานกองทุนหมู่บ้านฯ พร้อมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านรัตนะ ม.5 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว มาเพื่อตกลงไกล่เกลี่ยในกรณีของนายวันชัยฯ ได้ยักยอกเงินของกองทุนไปจำนวนประมาณ 750,000 บาท ไปใช้ส่วนตัว เป็นเหตุให้กองทุนหมู่บ้านฯได้รับความเสียหายดังกล่าว ต่อมา วันนี้ (เวลา 10.00 น.) คณะกรรมการเงินกองทุนหมู่บ้านรัตนะ ได้ตกลงกันและมีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยเสียง จำนวน 8 เสียง เห็นชอบร่วมกันให้นายวันชัยฯ ผ่อนผันนำเงินจำนวนทั้งหมดที่ยักยอกไป คืนให้กับกองทุนหมู่บ้านรัตนะฯ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2565
“และให้นายวันชัยฯ ออกใบเสร็จรับเงินให้กับผู้ที่นำเงินมาจ่ายคืนให้กับกองทุนฯ ให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 1 เดือน และคณะกรรมการเงินกองทุนฯ มีมติว่า หากนายวันชัยฯไม่สามารถนำเงินมาจ่ายคืนให้กับกองทุนหมู่บ้านภายในกำหนด ก็จะร่วมกันแจ้งความร้องทุกข์เพิ่ม ให้ดำเนินคดีเอาผิดกับ นายวันชัยฯ ตามกฎหมายจนถึงที่สุด และหากคณะกรรมการเงินกองทุนคนใด ไม่มาแจ้งความดำเนินคดีกับนายวันชัยฯ ตามกฎหมาย ก็จะยอมรับผิดร่วมกับนายวันชัยฯ ทั้งทางอาญาและทางแพ่งตามกฎหมายต่อไป คณะกรรมการเงินกองทุนฯได้ทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงได้บันทึกตกลงกันไว้เป็นหลักฐาน โดยไม่มีผู้ใดบังคับ ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือ ให้สัญญาด้วยประการใด ๆ ที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่ง ร.ต.อ.วีระนนท์ ธนาณัฐเศรษฐ์ พนักงานสอบสวน ได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว และให้คณะกรรมการเงินกองทุนฯ พร้อมพยาน ได้ร่วมกันลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน” พ.ต.ท.สุรชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางศูนย์ดำรงธรรม จ.สระแก้ว และอำเภอโคกสูง ได้ประสานแจ้งกับชาวบ้านว่า หลังชาวบ้านได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว จึงให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการตามกฎหมาย เนื่องจากถือว่า มีความผิดชัดเจน โดยบรรยากาศภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำข้อสรุปเบื้องต้นมาแจ้งให้กับชาวบ้านได้ทราบ พร้อมกับซักถามข้อสงสัย ก่อนชาวบ้านจะรวมตัวกันไปนั่งล้อมวงกินข้าวร่วมกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า ได้ดำเนินการอย่างดีที่สุด หากประธานกองทุนฯยังไม่มีการดำเนินการให้เรียบร้อย จะมีการดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด และจะไม่มีการผ่อนผันเลย ส่วนกองทุนหมู่บ้านรัตนะหลังจากนี้ หากมีการนำเงินมาคืนให้กับกองทุนแล้วเสร็จ จำเป็นที่จะต้องมีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อดำเนินการปล่อยกู้ให้กับชาวบ้านที่ต้องการทุนไปใช้จ่ายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่ชาวบ้านแจ้งความให้ดำเนินคดีนั้น จะต้องดำเนินการไปตามกฎหมายควบคู่กันไป
นางโสภา วงค์ชาชม อายุ 49 ปี (เสื้อฟ้า) ที่อยู่ 33 ม.5 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว กล่าวว่า ตนเองกู้เงินจากกองทุนครั้งสุดท้ายจำนวน 18,000 บาท ตั้งแต่ปี 2558-2559 ผ่านมา 5 ปีก็ยังไม่ได้ชำระเงินเข้าไป สาเหตุเพราะว่า กลัวประธานกองทุนฯ จะเอาเงินที่ชำระไปใช้ส่วนตัวอีก แทนที่จะนำมาให้สมาชิกได้กู้ยืมมาใช้จ่าย แต่ก็ไม่มีการทำอะไรกัน จึงยังรอมาจนถึงวันนี้ เมื่อกองทุนกลับมาดำเนินการได้เหมือนเดิม ตนเองก็จะคืนเงินเข้ากองทุนพร้อมดอกเบี้ยปกติ
นางวิภรณ์ จันน์ทำ อายุ 45 ปี (เสื้อแดงเลือดหมู) ที่อยู่ 185 ม.5 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว กล่าวว่า กองทุนตอนนี้ล่มจมมา 5 ปี หยุดนิ่งมาตั้งแต่ปี 2559 หลังประธานกองทุนฯ ยักยอกเงินไปใช้ส่วนตัว 7 แสนกว่าบาท ซึ่งชาวบ้านอยากให้เค้าเอาเงินมาคืน จะได้นำเงินมาปล่อยกู้ให้ชาวบ้าน มีเงินหมุนเวียนในหมู่บ้าน ปัจจุบันชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก เมื่อชาวบ้านไปทวงถามก็บอกว่า จะพยายามเอาเงินมาคืนจนเวลาผ่านไปถึง 5 ปี ชาวบ้านจึงรวมตัวกันมาแจ้งความและร้องเรียนไปทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ซึ่งการที่ประธานฯ บอกว่า ขอเวลา 3 ปีและจะพยายามนำเงินเข้าบัญชีปีละ 3 แสนนั้น ถือว่า นานเกินไป ชาวบ้านไม่ยินยอม เพราะผ่านมาตั้ง 5 ปี ขอเวลาอีก 3 ปี ก็จะเป็น 8-9 ปี จะทำให้เวลายืดเยื้อไปเฉย ๆ
ส่วน นางอนัญญา มงตาแบร์ อายุ 43 ปี (เสื้อชมพู) ที่อยู่ 245 ม.5 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว กล่าวว่า ประธานกองทุนบอกกับชาวบ้านว่า จะไม่ดำเนินการอะไรเลย ตอนแรกบอกให้เอาไปคืน ถ้าใครไม่คืนก็จะไม่ให้ปล่อยกู้อีก ชาวบ้านก็รีบหาไปคืน แล้วประธานฯก็ยักยอกเอาไปใช้ส่วนตัว ทำให้ชาวบ้านที่เหลือจึงยังไม่เอาเงินไปคืน ทำให้ยืดเยื้อมาถึงทุกวันนี้ คนที่ส่งเงินคืนกองทุนก็ไม่ได้กู้ จนเวลาผ่านมา 5 ปี ต่อไปถ้ามีการปล่อยกู้ได้จริง ชาวบ้านก็พร้อมที่จะหาเงินมาคืนให้ครบถ้วน เพราะช่วงนี้จะมีการลงนา จะต้องมีการซื้อปุ๋ย ซื้อยา ส่วนมากก็จะกู้กันช่วงนี้ หลังจากนี้ต้องการให้เอาเงินที่หายไปมาคืน เพื่อปล่อยกู้ให้สมาชิกต่อไป ที่ผ่านมาชาวบ้านที่ยังไม่ส่งคืน เพราะกลัวเป็นแบบนี้ คืนเงินไป ประธานเอาเงินไปใช้ส่วนตัว เงินจะหาย เพราะไม่มีการนำเงินเข้าบัญชีหรือเข้าระบบอีก
—————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: