สระแก้ว – ชาวบ้านน้อยป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ร่วมกันทำบุญเจ้าที่ บนที่ดินพิพาท-อ้างสิทธิ์ฯ หลังต่อสู้เพื่อเข้าทำกินในที่ดินบรรพบุรุษสมัยสงครามเขมรแดงกว่า 40 ปี
เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีปัญหาที่ดินบ้านน้อยป่าไร่เดิม ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งชาวบ้านมีเอกสารใบจอง นส.2 แต่ถูกกีดกันไม่ให้เข้าพื้นที่และทำกินในที่ดินของตนเอง จากเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ ตชด.กัมพูชา ในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ฯ กระทั่งกลางเดือน พ.ค.65 ที่ผ่านมา ชาวบ้านสามารถนำเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินอำเภออรัญประเทศ เข้าไปเดินสำรวจและดำเนินการจัดทำแผนที่พิพาท ตามคำสั่งศาลจังหวัดสระแก้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพราน ทพ.12 สังกัดกองกำลังบูรพา เข้าดูแลความปลอดภัย เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลฯ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่ริมถนนศรีเพ็ญ ทางหลวงสาย 3446 แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ห่างจากแนวเส้น MOU ประมาณ 500 เมตร ชาวบ้านได้ดำเนินการปักแนวเขตและล้อมรั้วลวดหนามไว้ พร้อมทั้งปลูกพืช ไว้แล้วบางส่วนแล้ว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านซึ่งเป็นลูกหลานและทายาทของชาวน้อยป่าไร่เดิม ปัจจุบันตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.8 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ประมาณ 30 คน ได้ร่วมกันจัดพิธีทำบุญให้เจ้าที่ บนที่ดินของ นายสารี มาลาหอม หนึ่งในทายาทและเจ้าของที่ดิน นส.2 ในอดีต ก่อนการประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาฉกรรจ์ฝั่งเหนือ พ.ศ.2507 หรือเกือบ 60 ปีก่อน ได้ร่วมกันทำอาหาร คาวหวาน พร้อมทั้งนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ มาทำบุญตักบาตรเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ต้องอพยพหนีภัยสงครามไปอยู่พื้นที่อื่นชั่วคราว ในช่วงสงครามล้างเผ่าพันธุ์กัมพูชา ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสุข ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ซึ่งการทำบุญเลี้ยงเจ้าที่ในแผ่นดินเดิมที่เคยทำกินในอดีตนั้น ชาวบ้านกลุ่มนี้มีความอิ่มอกอิ่มใจ มีความสุข ทุกคนรวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะเป็นคนรุ่นสุดท้ายที่รู้พื้นที่ทั้งหมด รู้แม้กระทั่งจุดที่สร้างหมู่บ้าน เสาบ้านเดิม และบ่อน้ำกินน้ำใช้ในอดีต ซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ตามพิกัดแผนที่ทุกฉบับในอดีต
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันชาวบ้านน้อยป่าไร่กลุ่มนี้ ต่อสู้เพื่อทวงสิทธิ์ที่ดินทำกินของบรรพบุรุษมานานเกือบ 40 ปี หลังถูกทางการยัดเยียดให้ชาวบ้านกลายเป็นผู้บุกรุกที่ดินตนเอง โดยผู้ที่มีหลักฐานชัดเจนและอยู่ระหว่างดำเนินการทางศาลฯ เพื่อเข้าทำประโยชน์มีจำนวนประมาณ 5-10 ราย เนื้อที่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณกว่า 700 ไร่ ซึ่งชาวบ้านที่มีที่ดินติดกัน มีสัญญาใจกันว่า จะร่วมกันต่อสู้เพื่อทวงสิทธิ์ต่อไป ก่อนสิ้นลมหายใจ ซึ่งจากหลักฐานข้อมูลการพิสูจน์สิทธิ์ที่ดินทำกิน(เฉพาะราย) พื้นที่ประวัติศาสตร์ บ้านน้อยป่าไร่ (หรือ ม.1 บ้านโคกเดิม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.ปราจีนบุรี เดิม ) ม.8 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบว่า ตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมา กองทัพได้จัดตั้งหมู่บ้าน ปชด.และเชื่อมถนนศรีเพ็ญ สาย 3446 และขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้เป็นระยะเวลา 30 ปี จนกระทั่งคืนพื้นที่ให้ป่าไม้เมื่อ 31 ก.ค.2562 ชาวบ้านจึงเดินหน้าเพื่อทวงสิทธิ์คืนและต้องการกลับเข้าไปทำกินในพื้นที่ แต่ถูกกีดกันจากเจ้าหน้าที่ทหารไทย เจ้าหน้าที่ ตชด.กัมพูชา อ้างว่า เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ฯ แต่กลับปรากฏข้อมูลว่า มีราษฎรชาวกัมพูชาสามารถอพยพเข้ามาสร้างบ้าน และทำกินในพื้นที่จนติดแนวเส้น MOU แล้วในปัจจุบัน
—————————-
