สระแก้ว – ชาวบ้านป่าไร่เข้าแจ้งความหลังถูกบุกพังเพิงพัก ทำลายพืชผลการเกษตร และพังรั้วลวดหนาม บนที่ดินชายแดนริมถนนศรีเพ็ญ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
เมื่อเวลา 16.06 น.วันที่ 28 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านที่เข้าเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาที่ดินชายแดนริมถนนศรีเพ็ญ ม.8 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เนื่องจากมีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน นส.2 แต่ไม่สามารถเข้าทำกินได้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กัมพูชาเข้ามาอ้างสิทธิ์พื้นที่ทับซ้อน ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.คลองลึก กับ ร.ต.อ.มานัส ยอดปรางค์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.คลองลึก โดยมี นายมนูญ สอนเจริญ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 312 ม.8 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ,นายชุมพล วัฒนพรรค อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 ม.8 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และ นางกันจณา สามล อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ม.3 ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้พร้อมกันมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณีผู้แจ้งทั้ง 3 ราย ได้ทำเพิงพักในที่ดินของแต่ละคนที่ได้ทำกินและครอบครองอยู่
ต่อมา วันนี้ (28 มิ.ย.65) ได้ไปในพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า เพิงพักได้ถูกรื้อทำลายและเสารั้วถูกทำลาย จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อย ทพ.1206 ลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุ เบื้องต้นสันนิฐานว่า เจ้าหน้าที่ ตชด.911 ของกัมพูชา น่าจะเข้ามารื้อเพิงพักดังกล่าว ซึ่งเพิงพักดังกล่าวอยู่ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 300 เมตร โดยห่างจากถนนศรีเพ็ญประมาณ 30 เมตร ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย จึงร่วมกันมาลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หากตรวจสอบและทราบว่า ผู้ใดเป็นผู้มารื้อเพิงพักดังกล่าวจะมาแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยเหตุเกิดพื้นที่ ม.8 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 08.30 น.ซึ่งร้อยเวรได้รับแจ้งความไว้ และลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่า บริเวณเพิงพักที่ชาวบ้านสร้างขึ้น จำนวน 3 จุด ถูกพังทำลายลงกองกับพื้น มีการตัดฟันพืชผลทางการเกษตร ตัดต้นกล้วย อ้อยและพังลวดหนามที่ชาวบ้านทำไว้เป็นทางยาวหลายจุด ซึ่งชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะชาวบ้านเข้าไปทำกินในพื้นที่ ถูกเจ้าหน้าที่ ตชด.911 ของกัมพูชา โดยมีรอง ผบ.ร้อยฯ ชื่อเจมส์ เข้ามาในเขตไทยอ้างว่า ฝั่งประเทศไทยจนถึงถนนศรีเพ็ญเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ บอกกับชาวบ้านว่า ถ้าสร้างเพิงพักจะเข้ามารื้อ ซึ่งเป็นอย่างนั้นจริง โดยที่ทหารพราน ทพ.1206 ของไทยซึ่งดูแลพื้นที่ดังกล่าว บอกว่าไม่รู้เรื่อง และวันดังกล่าวทหารพรานไม่ได้วางกำลังไว้ จะวางกำลังเฉพาะตอนกลางวันเท่านั้น จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูแลคนไทยและพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากจุดนี้ถือเป็นเส้นทางเข้า-ออกของธุรกิจสีเทา ส่วนประชาชนกัมพูชาขณะนี้ได้รุกเข้ามาในพื้นที่ติดแนวเส้น Mou ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าของตนเองในอดีตและเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายไทยอ้างสิทธิ์ เช่นกัน เหตุใดทหารไทยจึงไม่เข้าไปดำเนินการ
นอกจากนั้น จากการสอบถามชาวบ้านผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย นางกัณจณา สามล, นายชุมพล วัฒนพรรค และนายมนูญ สอนเจริญ เล่าว่า สันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุเข้ารื้อครั้งนี้เกิดจาก 1.ตชด 911 กัมพูชาชื่อ เจมส์ ซึ่งเข้ามาพบชาวบ้านขณะทำเพิงพักที่ฝั่งไทย และเข้ามาข่มขู่ว่า จะเอากำลังเข้ามารื้อเพิงพักทั้งหมดที่ชาวบ้านสร้าง ปรากฏว่า ถูกรื้อ 3 จุดจริง ,2.วันที่ชาวบ้านสร้างเพิงพัก ได้มีผู้มาสังเกตการณ์และเคยมาเจรจาขอเข้าทำที่ดินของชาวบ้าน พร้อมขอผลประโยชน์ โดยอ้างว่า สนิทกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา หากได้เข้ามาทำเจ้าหน้าที่กัมพูชาจะไม่กวน แต่ชาวบ้านไม่ตกลง คาดว่า อาจจะให้ ตชด.มารื้อเพิงดังกล่าว และ 3.อดีตทหารรายหนึ่ง ที่มีกรณีพิพาทที่ดินกับ นางกัณจณาฯ ผู้เสียหาย แต่ผู้ใหญ่บ้านได้ตรวจสอบสิทธิ์แล้ว จึงอาจมากลั่นแกล้ง โดยที่ผ่านมามีกำนันคนหนึ่ง ได้เข้าบุกเบิกพื้นที่ใกล้เคียงกัน แต่เจ้าหน้าที่ ตชด.กัมพูชา ไม่เข้ามารื้อหรือทำลายสิ่งก่อสร้างแต่อย่างใด เนื่องจากกำนันคนดังกล่าวสนิทกับเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชา นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายกลุ่มพยายามเข้าพื้นที่ดังกล่าวด้วย
อย่างไรก็ตาม นางกันจณา สามล อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ม.3 ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าของพื้นที่ตามเอกสารสิทธิ์ นส.2 กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ากลุ่มไหนมารื้อทำลาย แต่น่าจะเป็นเขมร รู้สึกเสียใจและอยากให้ทหารมาดูแลพื้นที่ มาดูแลพวกเราด้วย ซึ่งก็มาดูและแจ้งว่า จะมีการย้ายสับเปลี่ยนกำลังแล้ว ซึ่งได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.คลองลึก ไว้เป็นหลักฐาน เพราะเพิงพักของตนเอง 2 หลัง และเพื่อนบ้านอีก 3-4 หลัง โดนรื้อทำลายเสียหายทั้งหมด
—————————–
