สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ ตชด.911 ของประเทศกัมพูชา ล้ำเส้น MOU เข้ามาขับไล่ชาวบ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ไม่ให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของตนเองริมถนนศรีเพ็ญ และเกิดปะทะคารมกัน จนเจ้าหน้าที่ทหารพราน ทพ.12 และผู้ใหญ่บ้านต้องเข้ามาเจรจา
เมื่อวันที่ 1 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับข้อมูลภาพถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ขณะที่ชาวบ้านพื้นที่ ม.8 บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กำลังเข้าทำประโยชน์ในที่ดินเอกสารสิทธิ์ นส.2 ริมถนนศรีเพ็ญ ทางหลวงสาย 3446 ห่างจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 500 เมตร ขณะเจ้าหน้าที่ ตชด.911 ของกัมพูชาและกำลังจำนวนหนึ่ง บุกเข้ามาในพื้นที่ซึ่งชาวบ้านกำลังเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของตนเองเพื่อออกเอกสารสิทธิ์ โดยจุดดังกล่าวอยู่ริมถนนศรีเพ็ญ ห่างจากแนวเส้น MOU ประมาณ 500 เมตร ซึ่ง ตชด.กัมพูชา ทราบชื่อภายหลังว่า เจมส์ ได้เข้ามาสั่งการให้ชาวบ้านหยุดดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าว โดยอ้างว่า อยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ของกัมพูชา พร้อมกับระบุว่า เขตแดนของกัมพูชาอยู่ถึงถนนศรีเพ็ญ จึงเกิดการถกเถียงกับชาวบ้าน เนื่องจากชาวบ้านไม่ยินยอมทำตามที่ ตชด.กลุ่มดังกล่าวสั่ง พร้อมกับข่มขู่ว่า จะเรียก ตชด.กัมพูชาเข้ามาจับคนไทย ทำให้ นายสุพจน์ เขียนโพธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 บ้านป่าใหม่ และเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 นำโดย พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาสวัตวงษ์ ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 สังกัดกองกำลังบูรพา และเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1206 ต้องเข้าไปเจรจาและพูดคุยยุติปัญหา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ ตชด.กัมพูชา เข้ามากีดกันการเข้าทำกินของชาวบ้าน ทั้งที่มีเอกสารสิทธิ์และอยู่ในพื้นที่ฝั่งประเทศไทย ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้เพียง 2 วัน ตชด.กัมพูชากลุ่มนี้เข้ามาข่มขู่ชาวบ้านขณะสร้างเพิงพัก จนมีการเข้าทำลายเพิงพักเสียหายไป 4 จุด มีการตัดฟันต้นกล้วย อ้อย และทำลายรั้วลวดหนามที่ชาวบ้านทำขึ้น จนได้รับความเสียหายเป็นแนวยาวกว่า 100 เมตรด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- ทำลายท่อซิ่ง!! รถ จยย.เสียงดังผิดกฎหมาย หลังระดมกวาดล้างจับกุมใช้มาตรการเข้มจับ-ปรับ 2,000 บาท ยึดท่อ ทำเอ็มโอยูผู้ปกครอง
- กอ.รมน.ภาค 4 เตรียมยื่นป.ป.ช.เอาผิดเจ้าพนักงานท้องถิ่น ม.157 ปล่อยให้ใช้อาคารที่ก่อสร้างผิดกฏหมาย
- สระแก้ว จัดพิธีรับพระราชทาน “พระพุทธสิรินธรเทพรัตน์มงคลภูวดลสันติ”
- เทศบาลเมืองเขลางค์นคร ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)ภาคีเครือข่าย ว่าด้วยการประสานความร่วมมือการดำเนินงานศูนย์ผู้สูงวัย
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านได้ตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่กัมพูชาชุดดังกล่าว พยายามขัดขวางชาวบ้านไม่ให้เข้าทำประโยชน์ เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นพื้นที่นำเข้าและส่งออกของกลุ่มธุรกิจสีเทาและแรงงานต่างด้าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบและป่ารกทึบ สามารถเดินทางหรือใช้รถยนต์วิ่งผ่านข้ามไปยังประเทศกัมพูชาได้หลายจุด จึงมีความพยายามกีดกันไม่ให้เข้าพื้นที่ตลอดมา นอกจากนั้น บริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้กับสถานที่ก่อสร้างด่านศุลกากรแห่งใหม่ ซึ่งในอนาคตจะเปิดเป็นด่านผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ ซึ่งชาวบ้านน้อยป่าไร่เดิม ที่มีเอกสารสิทธิ์ใบจอง นส.2 ก่อนการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อปี 2507 จึงได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์จากกรมป่าไม้ เพื่อทำกินจริงในที่ดินที่ครอบครองอยู่ ให้ได้ประมาณร้อยละ 70 ของพื้นที่ จึงจะสามารถนำไปยื่นขอรังวัดออกโฉนดที่ดินกับกรมที่ดินได้ จึงนำไปสู่การเข้าพื้นที่เพื่อทำประโยชน์ดังกล่าว
—————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: