สระแก้ว – จังหวัดสระแก้วและจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา จัดประชุมระดับจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมี จ.บันเตียเมียนเจย เป็นเจ้าภาพ โดยเห็นชอบร่วมกัน 8 ข้อตกลงไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนด้านแรงงานและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เมื่อวันที่ 16 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมระดับจังหวัดชายแดน ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา กับผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ราชอาณาจักรไทย ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลาว่าการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา โดยฝ่ายไทยนำโดย นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และคณะ ฝ่ายกัมพูชานำโดย นายอุม เรีย เตร็ย ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย และคณะ ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างจังหวัด ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความราบรื่นและเป็นมิตรต่อทั้งสองฝ่าย โดยมีประเด็นหารือที่มีการเห็นชอบร่วมกันในแนวทางการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาด้านต่าง ๆ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลงหลายเรื่อง ได้แก่ 1.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีการจัดประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านชายแดน เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกัน 2.เพิ่มความร่วมมือในการตรวจสอบการเดินทางผ่านแดน เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย 3.กำหนดให้จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก-ปอยเปต สำหรับรับ/ส่งแรงงานกัมพูชาในการเดินทางกลับประเทศ โดยยกเลิกบริเวณช่องโอร์เบยเจือน เริ่มตั้งแต่ 1 กันยายน 2565 เป็นต้นไป
ส่วนข้อ 4.อนุญาตให้ยานพาหนะประเภทรถยนต์ทุกชนิดของทั้งสองประเทศ ที่มีเอกสารครบถ้วน สามารถสัญจรข้ามแดนเข้า-ออกได้ เริ่ม 1 กันยายน 2565 , 5.สนับสนุนการเปิดใช้จุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ (สตรึงบท-หนองเอี่ยน) เพื่อประโยชน์การค้าชายแดนและลดความแออัดของจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ,6.สนับสนุนให้มีการเปิดช่องทางผ่านแดนโอร์เนียง-ป่าไร่ ตามข้อตกลงประชุม RBC เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งสองประเทศ ,7.สนับสนุนให้เปิดใช้ช่องทางบริเวณหลักเขตแดนที่ 43 ตรงข้ามช่องผ่านแดนบ้านโนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และ 8.ทั้งสองฝ่ายยินดีให้การช่วยเหลือ ด้านการป้องกันบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ชายแดน โดยอนุญาตให้รถพยาบาลหรือรถรับ-ส่งต่อผู้ป่วยของทั้งสองประเทศข้ามแดนเข้า-ออกได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุม เรีย เตร็ย ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ได้กล่าวในที่ประชุมระดับจังหวัดชายแดนสระแก้ว-บันเตียเมียนเจย ระบุว่า ครั้งนี้จะเพิ่มความร่วมมือ สร้างโอกาสการค้าขาย เสริมสร้างความเจริญทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณจังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ด้านชายแดนในช่วงช่วยเหลือปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งทั้งสองจังหวัด ได้ร่วมมือกันดูแลแรงงานโดยใช้แนวทางสันติวิธีต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ขอขอบคุณการต้อนรับของผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยและคณะ และจะผลักดันข้อตกลงที่ได้มีการเห็นชอบร่วมกันให้เป็นผลตามที่คาดหวังของทั้งสองฝ่าย จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ได้ลงนามบันทึกการหารือร่วมกัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้มอบของที่ระลึกให้กับทางกัมพูชาด้วย โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งสองและคณะ ได้รับประทานอาหารเย็นร่วมกัน ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยมิตรภาพ อบอุ่น ก่อนคณะจังหวัดสระแก้ว จะเดินทางกลับมายัง จ.สระแก้ว ต่อไป
————————–
ภาพโดย/ทีม ปชส.สระแก้ว
