สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ไทยประสานช่วยเหลือ 3 เหยื่อหญิงสาวไทย ชาว อ.ตาพระยา ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว กำลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่งขายต่อไป เมืองสีหนุวิวล์แบบฉิวเฉียด จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 4 ก.ย.65 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.กฤษณะ เอี่ยมสอาด รอง สว.สส.ภ.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับรายงานการร้องขอความช่วยเหลือจากเยาวชนไทย อายุเพียง 16 ปี ซึ่งถูกหลอกลวงไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน แล้วถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง จนกระทั่งผู้ปกครองร้องขอความช่วยเหลือไปยังแอดมินเพจสายไหมต้องรอด จนได้รับการประสานขอความช่วยเหลือ โดยเยาวชนหญิงสาวชาวไทยทั้ง 3 รายได้แจ้งความไว้ในประเทศไทย พร้อมประสานส่งข้อมูลไปที่กลุ่มช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ โดยมี ร.ต.อ.กฤษณะ เอี่ยมสอาด รอง สว.กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงาน ศูนย์ ศพดส.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้ประสานผู้ปกครองและเตรียมเข้าช่วยเหลือทันทีตั้งแต่เมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ร.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า เหยื่อหญิงสาวไทยทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.จิรัชญา ขอสงวนนามสกุล อายุ 16 ปี ,2.น.ส.กมลเนตร ขอสงวนนามสกุล อายุ 16 ปี, 3.น.ส.ธัญญาวี ขอสงวนนามสกุล อายุ 16 ปี ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เมื่อสามารถรวบรวมข้อมูลและทราบว่า เหยื่อทั้ง 3 คนจะถูกขายต่อไปที่เมืองพระสีหนุ ในวันนี้ (3 ก.ย.)ก่อนเที่ยง
จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกับ นายชนาธิป โคกมณี นายอำเภออรัญประเทศ ,เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารพรานที่ 1306 ,กำนันบรรพต ศรีพรหม ,คุณมนัส ตัณเฮง และ ดร.รัตน์นริศ หิรัญธนไชยา ร่วมกันวางแผนในการประสานงานกับทางการประเทศกัมพูชา และเหยื่อทั้ง 3 ราย ได้รับการช่วยเหลือออกมา ในวันที่ 3 ก.ย.65 เวลาประมาณ 10.00 น.ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปที่เมืองพระสีหนุ อย่างฉิวเฉียด และได้นำตัวเยาวชนทั้ง 3 คน ส่งมอบ ให้ผู้ปกครอง ซึ่งสร้างความดีใจที่ลูกหลานได้กลับมาอย่างปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน ร.ต.อ.กฤษณะ ฯ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้แจ้งเตือนไปยัง เด็กและเยาวชน ผู้ปกครอง อย่าหลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อ ให้มีการลักลอบหลบหนีข้ามแดนเข้าไปทำงานโดยผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา โดยส่วนใหญ่จะพาลักลอบหนีออกตามช่องทางธรรมชาติ พร้อมกับแนะนำว่า หากต้องการจะเข้าไปทำงานในกัมพูชาจริง ให้ทำหนังสือเดินทางเข้า-ออกให้ถูกต้องตามกฎหมาย และควรศึกษาข้อมูลดี ๆ ว่างานที่จะทำ เป็นงานลักษณะคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทยหรือไม่ ไม่เช่นนั้น บุตรหลานของท่านอาจตกเป็นเหยื่อ ถูกกักขัง ถูกทำร้าย บังคับให้ทำงานและไม่ได้รับเงินค่าจ้าง บางครั้งอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต
—————————–
