X

ผู้ตรวจการสำนักนายกฯ ลงพื้นที่ร้องเรียนโรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรม จ.สระแก้ว

สระแก้ว – ผู้ตรวจราชการสำนักนายกเขตตรวจราชการที่ 9 เดินทางลงพื้นที่ร้องเรียนโรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรม จ.สระแก้ว ถกประเด็นข้อพิพาทร้องเรียนกับชาวบ้าน, การก่อสร้างถนนเข้าโรงงาน และการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ซึ่งโรงงานไม่ได้ดำเนินการตามที่ระบุไว้ใน EIA

เมื่อวันที่ 14 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมบูรพา ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกเขตตรวจราชการที่ 9 เดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อร่วมประชุมแก้ไขปัญหาตามแนวทาง Government innovation Lab ของจังหวัดสระแก้ว โดยมีประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาแก้ไขปัญหาร่วมกันคือ 1.โครงการศูนย์กระจายสินค้าพืชพลังงานทดแทนของเทศบาลตำบลวังทอง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ,2.กรณีร้องเรียนของประชาชน เพื่อคัดค้านการขนกากอุตสาหกรรมและขยายบ่อกลบกากอุตสาหกรรมอันตราย ซึ่งมีข้อพิพาทและมีการร้องเรียนจากประชาชน หมู่ 4 ต.โนนหมากเค็ง และหมู่ 2 ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร ที่เป็นปัญหาต่อเนื่องหลายปีที่ผ่านมา โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเกือบ 100 คน โดยข้อสรุปประเด็นสำคัญเรื่องของการแก้ไขปัญหาเรื่อง ศูนย์กระจายสินค้าพืชพลังงานที่ยังค้างคาในเรื่องของที่ตั้งอาคารของศูนย์กระจายสินค้า ว่าเป็นที่ดินของใคร และจะต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อให้งบประมาณที่ลงไปสามารถดำเนินการให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้ ซึ่งเรื่องนี้ทราบในที่ประชุมว่า เป็นที่ดินของ สปก.จึงมอบหมายให้ทางเจ้าที่ดินจังหวัด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนโดยเร็ว เนื่องจากมีปัญหาเนิ่นนานมาพอสมควรแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินการของบริษัท โปรเฟสชั่นแนลเวส เทคโนโลยี 1999 จำกัด(มหาชน) มีประเด็นที่ผู้ตรวจราชการฯ ตั้งข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ เช่น กรณีการขยายถนนเข้าบริษัทเส้นทางใหม่ ซึ่งเป็นเอกสาร นส.3ก ต้องมีการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่หรือไม่ เพราะเป็นการขนกากอุตสาหกรรมอันตรายผ่านพื้นที่การเกษตรของประชาชน ซึ่งทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระแก้ว ตอบว่า ไม่จำเป็นต้องทำ เนื่องจากเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียหรือมีการขุดขยายบ่อกำจัดขยะพิษในบริเวณบ่อที่ 3 และทางบริษัทฯ ยอมรับว่า กำลังยื่นขออนุญาตและทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปี ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยบริษัทฯได้อ้างว่า มีการปรึกษากับรองอธิบดี ในกระทรวงอุตสาหกรรม ขั้นหนึ่งแล้ว และเป็นคนชี้แนะและให้คำแนะนำ

นอกจากนั้น ยังมีประเด็นเรื่อง การจัดตั้งกองทุน 3 กองทุน เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ตามระเบียบของรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเมื่อปี 2549 ที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ. ระบุไว้ ซึ่งทางบริษัทดังกล่าว ยอมรับว่า ตั้งแต่เปิดกิจการโรงงานมา เพิ่งจะจัดตั้งกองทุนได้เพียง 1 กองทุน เท่านั้น ส่วนอีก 2 กองทุน ที่เป็นกองทุนหลังปิดกิจการ และกองทุนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ยังไม่ได้ดำเนินการ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงว่า หากบริษัทปิดกิจการ หรือเลิกกิจการกำจัดขยะอุตสาหกรรมอันตราย หลังจากนั้นขยะอุตสาหกรรมจำนวนมหาศาลใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งบริษัทฯ พยายามชี้แจงว่า จะดำเนินการแก้ไขและระดมทุนเข้ามา เพื่อจัดตั้งกองทุนทั้ง 2 กองทุน ให้เสร็จสิ้นตามที่ระบุไว้ใน EIA โดยเร็ว ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนแต่อย่างใด

ต่อมา นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกเขตตรวจราชการที่ 9 และคณะฯ พร้อมกับตัวแทนสำนักงานจังหวัดสระแก้ว ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ,สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ,อุตสาหกรรมจังหวัด ,คณะธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้ว และชาวบ้านผู้ร้องเรียน ได้เดินทางลงพื้นที่บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวส เทคโนโลยี 1999 จำกัด(มหาชน) เพื่อเข้าไปตรวจสอบผังและความเรียบร้อยของบ่อกำจัดกากอุตสาหกรรมอันตราย และเข้าร่วมรับฟังข้อชี้แจงของผู้บริหารบริษัทฯ เกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งมีผู้แทนชาวบ้าน หมู่ 2 ต.ห้วยโจด และนายกองค์การบริหารตำบลห้วยโจด และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 และนายกองค์การบริหารตำบลโนนหมากเค็ง เข้าร่วมลงพื้นที่ด้วย ซึ่งบริษัทฯ ได้นำเสนอรายละเอียดการดำเนินการกรณีที่ถูกร้องเรียน และแผนการแก้ไขปัญหาในอนาคต

โดยผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ได้โต้แย้งในที่ประชุมว่า เรื่องกรณีบริษัทถูกคำสั่งปิดโรงงานตามมาตรา 39 ของ พรบ.โรงงานอุตสาหกรรม ตั้งแต่เดือน เม.ย.65 แต่มีข่าวว่า ทางบริษัทฯ ได้ไปรับซื้อกากอุตสาหกรรมอันตราย จำนวน 2,000 ตัน เข้ามาฝังกลบในพื้นที่ของบริษัทฯ ซึ่งน่าจะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทางบริษัทอ้างว่า ได้รับการอนุญาตจากกรมโรงงานแล้ว ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่และได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมรู้สึกว่า เป็นเรื่องแปลก ในเมื่อบริษัทโดนคำสั่งให้ปิดกิจการ ตามมาตรา 39 แล้วเหตุใด จึงมีการอนุญาตให้ขนเข้ามาอีกได้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องติดตามกันต่อไป ส่วนอีกประเด็นที่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ได้สอบถามเพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทนำกากอลูมิเนียมเข้ามาบำบัด จนทำให้เกิดกลิ่นแอมโมเนียและเป็นสารที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง จึงขอให้โรงงานหยุดนำกากอลูมิเนียม ซึ่งเชื่อว่า ดำเนินการแบบไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงขอให้หยุดดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งทางบริษัทก็อ้างว่า ที่ต้องดำเนินการเพราะเกิดจากการขอร้องของกรมโรงงาน ทำให้ชาวบ้านตั้งข้อสงสัยว่า ในเมื่อโรงงานโดนปิดกิจการอยู่ จะอนุมัติให้เอากากอลูมิเนียมซึ่งเป็นสารอันตรายเข้ามาดำเนินการได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ทางด้าน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ได้ฝากให้ท่านผู้ตรวจราชการฯ ช่วยดูแลเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้าน ที่ไม่สามารถไปลงนา ลงไร่ได้ เนื่องจากกลิ่นเหม็นที่เกิดจากกำจัดกากอลูมิเนียมดังกล่าว ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและไม่สามารถเข้าไปทำมาหากินได้ ส่วนแผนการที่ทางบริษัทเสนอในที่ประชุมว่า จะปรับปรุงให้ดีขึ้นในอนาคต ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ขอให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาของเก่าให้เรียบร้อยเสียก่อน ไม่ใช่จะไปรอให้แก้ไขปัญหาในอนาคต ชาวบ้านอาจจะเป็นอันตราย นอกจากนั้น นายสัมพันธ์ ศรีรัตนกูล ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนและเป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ห้วยโจด ได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้ตรวจราชการฯ เขต 9 ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ซึ่งนายพิฆเนศ ฯ กล่าวทิ้งทายว่า เรื่องนี้ทางผู้ตรวจราชการฯ ขอให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสมาประชุมแก้ไขปัญหาอย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง ก็ยังดี และจะติดตามว่า มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องและจริงจังหรือไม่ และการเดินทางมาประชุมครั้งต่อไป จะลงมาติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

—————————-

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"