ปราจีนบุรี – เตรียมย้ายช้างป่า”สีดอละมุด” พบพฤติกรรมยังไม่สนว่า จะถูกจับขนย้ายภายใน 7 วัน หลังก่อเหตุรายวัน ทำร้ายเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 21 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม อบต.ทุ่งโพธิ์ อ. นาดี จ.ปราจีนบุรี นายชูชาติ บำรุง นายก อบต.ทุ่งโพธิ์ เป็นประธานร่วมประชุมกับ อบต.บุพราหมณ์ ,อบต.แก่งดินสอ ,สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี ,อุทยานแห่งชาติทับลาน ,กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มอนุรักษ์ฯ ร่วมประชุมหรือวางแผนเกี่ยวกับการจับขนย้าย ช้างป่า”ละมุด” จากอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ออกมาหากินในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านและพังบ้านเรือนประชาชนรายวัน ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา สร้างความเสียหายและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่า ทางเจ้าหน้าที่อุทยานและผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังช้างป่า จะทำการผลักดันทุกครั้ง เจ้าละมุดก็ยังออกมาหากินทุกวันและมีการสับเปลี่ยนเวลาออกหากิน เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รู้เวลาออกหากิน บางวันสร้างความปั่นป่วนให้กับทางเจ้าหน้าที่ชุดผลักดัน ตั้งแต่ค่ำจนรุ่งสาง
นายชูชาติ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ อยากให้ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี ร่วมกับ อุทยานแห่งชาติทับลาน เร่งจับขนย้ายละมุดออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุดที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรอย่างมาก และทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และทำร้ายเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลาน เสียชีวิต 1 ราย ทุกภาคส่วนจะต้องบูรณาการร่วมกันทาง อบต.พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทั้งงบประมาณในการจับขนย้ายสีดอละมุด ออกจากพื้นที่ ทั้งกำลังคนและรถแบคโฮ
โดย นายอำนาจ มะม่วงปรางค์ ผอ.สวนอนุรักษ์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากสื่อมวลชนทุกวัน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตนเองได้รายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาและหน่วยเหนือรับทราบ ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดมา ขณะนี้รอคำสั่งจากหน่วยเหนือ มีคำสั่งจับขนย้ายสีดอละมุดให้ถูกต้อง และเป็นลายลักษณ์อักษร และทางอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้เสนอให้รับทราบแล้วว่า จะนำไปไว้ที่ใด ซึ่งเป็นพื้นที่ชั้นในสุดของอุทยาน อยู่ห่างจากพื้นที่ที่ ช้างป่าละมุด ออกหากิน 100 กม.เศษ ซึ่งการจับขนย้ายช้างป่าออกจากพื้นที่ดังกล่าวนั้น ช้างจะกลับมาอีกไม่ช้าก็เร็ว เพราะช้างเคยได้กินอาหารที่หลากหลาย จึงไม่ยอมกลับเข้าป่า ขณะเดียวกัน ช้างตัวอื่น ๆ รู้ว่าด้านนอกมีแหล่งอาหาร จึงพากันติดตามออกมาหลายตัว และจะทำสถานที่กักกันช้าง สำหรับตัวที่ดื้อไว้ในพื้นที่ชั้นใน และจะร่วมกันปลูกแหล่งอาหารช้างและโปงเทียม ตามที่กลุ่มอนุรักษ์เสนอมาด้วย
—————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
