สระแก้ว – เกิดเหตุระทึกขวัญ รถจักรยานยนต์ถูกน้ำพัดตกฝายน้ำล้น เขตรอยต่อ จ.สระแก้ว-ปราจีนบุรี ต้องประสานทีมค้นหาใต้น้ำ มูลนิธิกู้ภัยสว่างสระแก้ว ช่วยนำรถ จยย.ขึ้นจากน้ำ พบถูกน้ำพัดลงไปไกลถึง 80 เมตร ต้องใช้นักประดาน้ำดำลงไปงมหาใต้น้ำจนพบและสามารถนำขึ้นมาได้สำเร็จ
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสว่างสระแก้ว จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ถูกกระแสน้ำพัดตกลงไปในฝายน้ำล้นแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรชั่วคราวไปมาของชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองโสน ต.สระขวัญ (ฝายสวนนก) อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว เขตรอยต่อ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยรถจักรยานยนต์ได้ถูกน้ำพัดจมน้ำสูญหาย หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและชุดประดาน้ำ ทีมเฉพาะกิจตอบโต้ภัยพิบัติฯ มูลนิธิสว่างสระแก้ว ได้นำเครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนตามที่ร้องขอดังกล่าว โดยนำเชือกขึงระหว่างเส้นทางข้ามฝายทั้งสองฝั่ง ซึ่งขณะเข้าช่วยเหลือ พบว่า มีกระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวมาก ประกอบกับมีฝนตกอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพื่อลงไปตรวจสอบ กระทั่งพบรถจักรยานยนต์ที่ถูกกระแสน้ำพัดลงไปอยู่ท้ายฝาย และช่วยกันนำขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย
ทางด้าน นายยอดชาย ไพเราะ ทีมอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยสว่างสระแก้ว ซึ่งเข้าร่วมภารกิจดังกล่าว บอกว่า ขณะเข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ซึ่งเจ้าของรถปลอดภัย แต่จุดที่เข้าไปช่วยมีกระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวมาก ฝนก็ตกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทุกอย่างคือการฝึกฝนและปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง จนสามารถช่วยเหลือนำรถขึ้นมาได้เป็นผลสำเร็จ โดยพบรถจักรยานยนต์ถูกกระแสน้ำพัดลงไปใต้ฝายไกลถึง 80 เมตร ต้องใช้นักประดาน้ำ 2 คน ดำลงไปงมหาใต้น้ำจนพบ และสามารถนำรถขึ้นมาได้สำเร็จ
นายยอดชาย กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุชาวบ้านในพื้นที่พยายามค้นหาแล้ว แต่ค้นหาไม่พบ จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ เข้ามาช่วยค้นหา ซึ่งเจ้าของรถปลอดภัย อ้างว่า นำเอารถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟไอ ไปจอดล้างและถูกน้ำพัดตกฝาย ขณะเข้าช่วยเหลือกระแสน้ำพัดแรงมาก ต้องใช้ชุดประดาน้ำลงไปงมค้นหา รถที่ถูกพัดห่างจากตัวฝายลงไป 80 เมตร ทางลาดชัด น้ำพัดแรงและมีฝนตก ขณะลงไปงมค้นหาต้องมีเซฟตี้คอยช่วยเหลือด้วย 2 คน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถนำรถขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเล มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ร่วมปฏิบัติงานครั้งนี้ 14 คน ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ ที่มามุงดูและช่วยเหลืออีก 20 กว่าคน
—————————
ภาพโดย/อาสามูลนิธิสว่างสระแก้ว
