สระแก้ว – เกิดเหตุเด็กอายุแค่ 3 ขวบ ติดอยู่ในรถร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รุดเข้าช่วยเหลือใช้เวลาแค่ 2 นาที สามารถช่วยเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย ส่งกลับสู่อ้อมกอดของพ่อ
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น.คืนที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.คลองลึก ได้รับแจ้งว่า มีเด็กติดอยู่ในรถยนต์ที่บริเวณถนนบายพาส ตรงข้ามตู้สายตรวจจราจร ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จึงรีบนำกำลังเข้าไปให้การช่วยเหลือโดยด่วน ซึ่งที่เกิดเหตุพบ นายสมโภชน์ ชมกุล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 ม.2 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยืนอยู่ข้างรถยนต์เก๋งฮอนด้าซิตี้ สีขาว ทะเบียน กจ-725 สระแก้ว ที่มีเด็กติดอยู่ภายในรถ จึงหาทางช่วยเหลือเด็กทันที ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ญ.ศิวิมล ชมกุล อายุแค่ 3 ขวบ โดยตำรวจใช้เวลาในการเปิดประตูให้ได้โดยเร็วที่สุด จากนั้นจึงสามารถช่วยเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ จากการสอบถามพ่อของเด็ก เล่าว่า ขับรถออกจากบ้านโดยมาส่งแฟนบริเวณหน้าด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ตลาดโรงเกลือ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนจะขับรถพาลูกสาวกลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุจึงจอดรถแล้วลงไปหยิบของที่กระโปรงหลังท้ายรถ แต่ขณะเดียวกัน ลูกสาวได้ไปเผลอกดโดนปุ่มล็อกรถ ทำให้ตัวรถล็อกหมดทั้งคัน จึงพยายามบอกให้ลูกสาวกดปุ่มปลดล็อก แต่ลูกก็บอกว่า หนูทำไม่ได้ ใช้เวลาอยู่ประมาณกว่า 10 นาที จึงโทรตำรวจเพื่อแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ซึ่งเพียง 2 นาที ตำรวจ สภ.คลองลึกก็มาถึงและช่วยกันอ้าประตู เพื่อสอดลวดเหล็กเข้าไปกดปุ่มลดกระจกหลังด้านขวาลง แล้วเปิดประตู ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่เกิน 2 นาที ก็สามารถเข้าช่วยเหลือเด็กออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัย ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก ที่เข้ามาช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกของตนปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังฝากเตือนถึงพ่อแม่ที่มีลูกที่ยังเป็นเด็กเล็ก ว่าหากจะออกจากรถแล้วให้ลูกอยู่ในรถ ควรลดกระจกลงหรือเปิดประตูไว้ ถึงแม้ว่าลูกของเราจะปลดล็อกหรือเคยทำได้ แต่ก็อาจจะเจอเหตุการณ์ที่เขาทำไม่ได้บ้างก็มี ซึ่งอาจจะง่วงนอน ภาวะตกใจ สำหรับกรณีนี้ นายสมโภชน์ บอกว่า เคยสอนให้ลูกปลดล็อกมาตลอด แต่ครั้งนี้ลูกบอกว่าทำไม่ได้ ซึ่งก็จะนำไปเป็นบทเรียนให้ระวังมากขึ้น และรอบคอบมากกว่านี้ในอนาคต
————————–
ข่าว-ภาพโดย/รักพงษ์ กิตติวรเมธี ทีมข่าวสระแก้ว
