สระแก้ว – นายทหารยศ พันเอก ชาวกัมพูชา คลั่งขับรถลักลอบเข้ามาในประเทศไทย แหกด่านหนี ต้องล้อมจับกันข้ามคืนกลางสี่แยกวัฒนานคร จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 6 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุการณ์สุดระทึกขึ้นที่จังหวัดสระแก้ว เมื่อทหารกัมพูชา ยศ “พันเอก” ขับรถแหกด่านในพื้นที่ อ.เมือง จ.สระแก้ว มาจนมุมอยู่ที่อำเภอวัฒนานคร โดยตำรวจสกัดจับตั้งแต่ 3 ทุ่มที่ผ่านมา จนถึงช่วยสายก็ยังไม่ยอมมอบตัว ตรงกันข้ามกลับถือปืนลงมาขู่ตำรวจที่ปิดล้อมอยู่ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ 3 ทุ่มคืนที่ผ่านมา (5 พ.ย.) โดยตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ที่ประจำด่านความมั่นคง ซึ่งตั้งด่านเพื่อรองรับการประชุมผู้นำเอเปค บริเวณบ้านน้ำซับ อ.เมืองสระแก้ว ได้ตั้งด่านตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ช่วงลอยกระทงและประชุมผู้นำเอเปค พบรถยนต์ลักษณะคลายรถจีฟสีดำขับผ่านมา จึงเรียกตรวจ แต่คนขับกลับขับรถแหกด่านไปด้วยความเร็วมุ่งหน้า อ.วัฒนานคร
ทั้งนี้ ตำรวจได้วิทยุสกัดจับรถคันดังกล่าว บริเวณได้ที่บริเวณกลางสี่แยกวัฒนานคร กระทั่งรถคันดังกล่าวถูกรถปิดล้อมไว้ แต่คนขับไม่ยอมลงจากรถ ตั้งแต่ 3 ทุ่มจนถึงช่วงเช้า ซึ่งหลังเกิดเหตุหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว นำโดย พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือเข้าพื้นที่ และปิดล้อมจุดเกิดเหตุเอาไว้ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า คนขับเป็นทหารยศพันเอกของประเทศกัมพูชา มีลักษระคล้ายเมายา
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.วัฒนานคร และ ตำรวจ สภ.วัฒนานคร พร้อมด้วย นายเนตร เสรี กงสุลใหญ่กัมพูชาประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่กงสุลกัมพูชาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ชายคนดังกล่าวมอบตัว แต่ไม่เป็นผล ตรงกันข้ามทหารนายดังกล่าวได้ลงจากรถ พร้อมถือปืนส่ายไปมาขู่จะยิงเจ้าหน้าที่บริเวณสี่แยกตลอดเวลา จนต้องหลบเข้าที่กำบัง ซึ่งทหารนายนี้รูปร่างสูงใหญ่ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลกับทหารกัมพูชาทราบว่า พันเอกนายดังกล่าว เชี่ยวชาญการใช้อาวุธ และยิงปืนแม่น
ขณะที่ ร.ต.อ.ธรรศพงศ์ รักษาสวัสดิ์ธาดา รอง สว.ตม.จว.สระแก้ว ได้รายงานข้อมูลจากจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน กรณีเหตุการณ์สำคัญว่า เมื่อเวลา 16.55 น.วันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ประจำจุดปฎิบัติหน้าที่ ด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว อยู่นั้น ได้มีรถยนต์สัญชาติ กัมพูชา ยี่ห้อ จิ้ป รุ่นแรงเรอร์ สีดำ ทราบทะเบียนภายหลัง Pich.nik ขับผ่านเข้ามาในราชอาณาจักรด้วยความเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่เรียกหยุด เพื่อตรวจกลับเร่งเครื่องหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จึงได้ทำการขับรถติดตามมา พร้อมแจ้งหน่วยข้างเคียง ประสานเพื่อสกัดจับกุม ซึ่งจากการติดตาม ผู้ขับขี่ ขับรถวนไปมาด้วยความเร็ว จนมาถึงอำเภอวัฒนานคร ร้อยเวร 20 วัฒนาฯ พบรถคันดังกล่าวจึงได้สกัดจับและใช้อุปกรณ์ สกัดกั้นรถหลบหนี(ไม้ง่ามติดเหล็ก) จนรถคันดังกล่าว ยางแตกจอดนิ่ง บริเวณไฟแดงสี่แยกอำเภอวัฒนานคร จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว และ ร้อยเวร 20 วัฒนาฯ ได้เรียกผู้ขับขี่ให้ลงจากรถ ปรากฎว่าผู้ขับขี่แสดงอาการมึนเมาอยู่ในรถปิดกระจกพร้อมล็อกรถไม่ยอมลงมา
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบทราบชื่อภายหลังว่าผู้ขับขี่ชื่อ นาย sok ban paon เป็นชาวกัมพูชา ทราบจากการติดต่อของ ตม.กัมพูชา ว่า นาย sok เป็นนายทหารยศพันเอก มีตำแหน่งเป็นถึงที่ปรึกษาและรอง ผบ.ทหารภูมิภาคที่ 5 ได้เกิดอาการเครียด เนื่องจากแยกทางกับภรรยา ซึ่งเวลาต่อมา พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน รอง ผบก.ภจว.สระแก้ว ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมเป็น ผบ.เหตุการณ์ เพื่อเจรจากับนาย sok ให้ลงจากรถ จนเวลาล่วงเลยมาถึงวันที่ 6 พย.65 เวลา 04.30 น. นาย sok ยังไม่ยอมลงจากรถ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมและได้ลงมาในช่วงเช้า
ทางด้าน พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.กองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าดำเนินการกรณีเหตุการณ์ที่แยกวัฒนานคร จ.สระแก้ว หลังผู้ก่อเหตุแหกด่านแล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ติดตาม และเกาะติดตลอดคืน แต่ยังไม่ผลีผลามเข้าดำเนินการจับกุม ซึ่งในช่วงเวลากลางคืนเพราะความมืดและเนื่องจากผู้ก่อเหตุมีปืนพก หากมีการใช้ความรุนแรง อาจกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เมื่อสว่างแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดล้อมไว้ ด้าน กกล.บูรพา ได้ประสานงานกับ สน.ปทก. และสถานกงสุลกัมพูชาประจำจังหวัดสระแก้ว อำนวยความสะดวกให้ครอบครัวและเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาที่คุ้นเคยกับผู้ก่อเหตุ เข้าร่วมเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงจัดกำลังจากกองร้อยเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านตรวจหนองกุง เข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดูแลความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน นอกจากนั้น ยังร่วมกับ สน.ปทก. อำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาที่คุ้นเคยกับผู้ก่อเหตุ เดินทางเข้ามาเจรจาเพื่อคลีคลายสถานการณ์ รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ กกล.บูรพาจัดกำลังร่วมกับตำรวจปิดกั้นพื้นที่และจัดระบบการจราจรโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ด้วย
—————————-
