สระแก้ว – รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ลงพื้นที่ประชุมหารือเครียดแนวทางการสอบสวน นายทหารยศพันเอกประเทศกัมพูชา ที่ก่อเหตุแหกด่านคลั่ง หลังไม่ยอมให้สอบปากคำ รวมทั้งตรวจค้นรถยนต์คันก่อเหตุเพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงโดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาร่วมด้วย
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 7 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว พ.ต.อ.ชัยพร ทองนาเพียง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ดูแลงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เดินทางลงพื้นที่เพื่อร่วมประชุมด่วนร่วมกับ พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.วัฒนานคร และคณะพนักงานสอบสวน เพื่อประชุมหารือแนวทางการสอบสวนผู้ต้องหา ยศพันเอก ชื่อ ซก บันพอ (SOK BANPHOL) อายุ 33 ปี ชาวกัมพูชา ที่ก่อเหตุคลั่งขับรถยนต์จี๊ป ทะเบียนกัมพูชา ฝ่าด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วและด่านตรวจความมั่นคง อ.เมืองสระแก้ว โดยมีอาวุธปืน กระทั่งต้องมีการปิดล้อมจับกุมนานกว่า 17 ชั่วโมงว่า จะใช้แนวทางการสอบสวนแบบไหนดี เพราะว่าผู้ต้องรายนี้ ไม่ยอมให้สอบปากคำ
ทั้งนี้ พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผกก.สภ.วัฒนานคร บอกว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ไว้หมดแล้ว โดยเฉพาะหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและอื่น ๆ ขณะนี้เหลือเพียงการสอบปากคำและการตรวจสอบประเด็นที่ชาวบ้านสงสัยว่า มีการเสพยาด้วยหรือไม่ หากสามารถดำเนินการได้ครบถ้วนก็จะดำเนินการส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดสระแก้วต่อไป เนื่องจากใกล้จะครบกำหนดการควบคุมตัวของพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นหาหลักฐานภายในรถยนต์ของกลางคันก่อเหตุ เพื่อหาข้อมูลเชื่อมโยงการก่อเหตุดังกล่าว โดยมีแพทย์ด้านจิตเวชและเจ้าหน้าที่ของ รพ.จิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ ร่วมตรวจสอบภายในรถยนต์ เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม โดยแพทย์พบว่ามียาสำหรับกินอยู่ในรถ เป็นยาแก้ทองเสียและยาแก้อักเสบ และแพทย์ได้ให้ความเห็นว่า ช่วงนี้ผู้ก่อเหตุกำลังผ่อนคลายลงเรื่อย ๆ แล้ว แต่ยังสอบปากคำไม่ได้ เพราะยังไม่ให้ความร่วมมือจึงสอบสวนยังไม่ได้ ซึ่้งขณะดำเนินการมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชามาร่วมดำเนินการตรวจด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ทางด้าน พ.ต.อ.ชัยพร ทองนาเพียง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาดูแลควบคุมการสอบสวนคดีที่มีทหารชาวกัมพูชา ได้ก่อเหตุขับรถเข้ามาในชายแดนประเทศไทยทาง อ.คลองหาด จากนั้นก็มีการหลบหนีจากการตรวจค้นจับกุมของเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งมาถึงบริเวณสี่แยกวัฒนานคร ซึ่งมีการจับกุมตัวได้พร้อมอาวุธปืนของกลางขนาด 9 มม.พร้อมกระสุนปืน และรถยนต์ซึ่งเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลของประเทศกัมพูชา ในเบื้องต้นผู้ต้องหายังไม่ยอมให้การใด ๆ เราก็ได้จัดให้มีแพทย์ทางจิตเวชมาเพื่อให้คำแนะนำมาสอบถามว่า เค้ายังสามารถมาให้การใด ๆ ได้หรือไม่ เพื่อนำมาสอบปากคำ และขออำนาจศาลฝากขัง เนื่องจากการควบคุมเรามีระยะเวลาเพียง 48 ชม.จึงได้ให้คุณหมอจากทางจิตเวชเข้าไปพูดคุยแล้วพอจะคุยรู้เรื่อง จึงจัดให้มีล่ามซึ่งเป็นชาวกัมพูชาและข้าราชการทหารของผู้ประสานงานทางกัมพูชามาร่วมเป็นสักขีพยาน ทางเราก็ได้จัดให้มีทนายความมาร่วมทำการสอบสวนด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใส ซึ่งการดำเนินคดีของเราก็ทำตามอำนาจหน้าที่ ส่วนในความผิดที่ว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นในประเทศไทย เราก็ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนตัวเค้าจะให้การยังไงก็ว่าอีกที่หนึ่ง ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ร่วมกับทางทนายความ แพทย์จิตเวชและล่ามแปลภาษากัมพูชา ที่จะให้ปากคำ หลังจากนั้น ถ้าสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ในวันที่ 8 พ.ย.65 ก็คงจะต้องนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก ระหว่างสอบสวนต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับนายทหารยศพันเอกรายนี้ หลังก่อเหตุขับรถยนต์จี๊ป ทะเบียนกัมพูชา ฝ่าด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จว.สระแก้ว เข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 พ.ย.65 โดยไม่ผ่านการตรวจอนุญาตจากเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง และได้ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจที่ด่านตรวจความมั่นคง อ.เมืองสระแก้ว โดยมีอาวุธปืน ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันบุกเข้าชาร์จจับกุมตัว พันเอก ซก บันพอ ได้พร้อมด้วย อาวุธปืนพกสั้น แบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ ซีแซด รุ่น พี-07 หมายเลขประจำปืน D105961 พร้อมด้วยกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 17 นัด พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อจี๊ป สีดำ รุ่นแรงเรอร์ ทะเบียน PICH.NIK เบื้องต้นเกิดจากความเครียดจากเรื่องส่วนตัว ทะเลาะกับภรรยาที่ประเทศกัมพูชา
—————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: