สระแก้ว – ตำรวจบุกจับ”ไอ้เอก”คาด่านผักกาด จ.จันทบุรี หลบหนี 7 วันไม่รอด หลังก่อเหตุบุกชิงทอง 15 บาท ร้านทองออโรร่า กลางห้างบิ๊กซีวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เตรียมเผ่นหนีประเทศกัมพูชา โดยนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที โดยผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ระบุว่า ติดการพนันงอมแงม ต้องการหาเงินไปใช้หนี้
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 18 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และชุดสืบสวน สภ.วังน้ำเย็น ได้ควบคุมตัว นายชาญณรงค์ หรือ”เอก” ชูภักดิ์ อายุ 32 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาในคดีบุกเดี่ยวชิงทองคำหนัก 15 บาท ในห้างเพชรทองออโรร่า ภายในห้องบิ๊กซี สาขาวังน้ำเย็น ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 11 พ.ย.65 ที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีไปเกือบ 1 สัปดาห์ กระทั่งชุดสืบสวนฯสามารถแกะรอยจนสามารถจับกุมตัวได้เมื่อช่วงสายของวันนี้ ขณะเตรียมหลบหนีข้ามประเทศไปฝั่งกัมพูชา ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 ,พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้ำเย็น เร่งสืบสวนติดตามจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสืบสวนได้เร่งสืบสวนติดตามผู้กระทำความผิดตั้งแต่หลังเกิดเหตุ โดยได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งพบว่า คนร้ายได้ใช้รถยนต์ในการหลบหนีหลังจากก่อเหตุ โดยหลบหนีเข้าไปในเขตพื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี และข้ามแดนจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ไปยังบ่อนคาสิโน ประเทศกัมพูชา โดยมีการนำทองคำที่ก่อเหตุชิงไปจากร้านทองใน อ.วังน้ำเย็น ไปจำนำไว้ที่บ่อนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ร้องขอต่อศาลจังหวัดสระแก้ว เพื่อออกหมายจับต่อศาลจังหวัดสระแก้ว
ต่อมา วันนี้ (18 พ.ย.) ชุดสืบสวนฯได้ประสานตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เพื่อเข้าจับกุมตัว นายชาญณรงค์ ฯ ผู้ต้องหาและบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสระแก้ว ในข้อหา “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นใด เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี
โดย นายชาญณรงค์ฯ ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ก่อเหตุชิงทองดังกล่าวจริง เนื่องจากติดการพนัน ต้องการหาเงินไปใช้หนี้ ซึ่งขณะจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการตรวจค้นตัว นายชาญณรงค์ฯ พบเงินสดติดตัว จำนวน 5,850 บาท ซึ่งได้มาจากการจำนำทองที่ชิงทรัพย์ไป จำนวน 2 เส้น จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสระแก้ว ไปตรวจค้นบ้านของ นายชาญณรงค์ฯ ที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี พบอาวุธปืนขนาด .38 ไม่มีทะเบียน และรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบร์อนเทา หมายเลขทะเบียน บพ-5919 จันทบุรี ซึ่งเป็นรถคันที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ จอดอยู่ในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมด มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังตำรวจนำผู้ต้องหามาที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที ที่บริเวณห้างเพชรทองออโรร่า ภายในห้างบิ๊กซี สาขาวังน้ำเย็น โดยมี พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว , พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ,พ.ต.อ.ชณพัฒน์ ศิริเลิศ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น ,พ.ต.อ.ชัยพร ทองนาเพียง รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น โดยผู้ต้องหามีท่าทีนิ่งเฉย สวมใส่เสื้อเกราะกันกระสุน สวมหมวกไหมพรมสีดำและใส่หน้ากากอนามัย ขณะทำแผนฯ ก่อนจะนำตัวไปที่บริเวณปากซอยเทศบาลใกล้กับร้านข้าวต้มใบเตย ซึ่งผู้ต้องหาเตรียมตัวก่อนก่อเหตุและนำรถมาจอดทิ้งไว้ภายในซอย โดยเดินข้ามถนนมาที่บริเวณด้านหน้าร้านยิ่งวัฒนาไซโล ติดทางเข้าห้าง แล้วเดินผ่านลานจอดรถเข้าไปก่อเหตุ
นอกจากนั้น ตำรวจได้นำผู้ต้องหาไปชี้จุด โดยเฉพาะซอยข้างร้านวังน้ำเย็นหม้อน้ำ ตรงข้ามห้างบิ๊กซี ที่ผู้ต้องหาวิ่งข้ามถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี เพื่อวิ่งเข้าซอย และเดินลัดทุ่งนาใกล้กับห้องเช่า ไปที่รถยนต์ซึ่งตนเองจอดทิ้งไว้ แล้วขับหลบหนีไปเกือบ 7 วัน กระทั่งถูกจับกุมตัว
พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ในร้านทองในห้างบิ๊กซี เขตอำเภอวังน้ำเย็น ซึ่งเหตุเกิดตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สำหรับรายละเอียดในคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ 11 พ.ย.ช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม คนร้ายได้ก่อเหตุชิงทอง 15 บาท แล้วหลบหนีไป หลังสืบสวนจนทราบว่า เป็นผู้ก่อเหตุจึงได้ขอศาลออกหมายจับและตามไปจับกุมได้ที่ จ.จันทบุรี และนำตัวมาตรวจค้นที่บ้าน พบรถยนต์และปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ซุกซ่อนไว้ในบ้าน บนฝ้าเพดาน ซึ่งเป็นอาวุธปืนขนาด .38 มม.ไม่มีทะเบียน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา หลังจากนี้จะได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานาเพื่อส่งฟ้องต่อศาลต่อไป
—————————–
