สระแก้ว – หญิงสาวอายุ 23 ปี ไปคลอดลูกที่ รพ.ในอำเภอตาพระยา จ.สระแก้ว สุดท้ายแม่เสียชีวิต แต่ลูกรอดตาย อ้างรกไม่ออกกระทั่งส่งต่อไปรักษาที่ รพ.อรัญประเทศ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ญาติจึงร้องเรียนต้องการให้ทางโรงพยาบาล แพทย์และเจ้าหน้าที่ ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดในการรักษา ล่าสุด มีการส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถานบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และนำศพส่งกลับมาที่บ้านในช่วงเย็นวันนี้ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่ไปร่วมงานศพ
เมื่อวันที่ 24 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ นางอำนาจ ยอมทะนอม อายุ 48 ปี ที่อยู่ 175 หมู่ 9 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เดินทางไปที่ สภ.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเป็นมารดาของหญิงสาววัย 23 ปี ผู้เสียชีวิต เนื่องจากติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของบุตรสาว หลังมีอาการปวดท้องไปคลอดลูกที่ รพ.ตาพระยา และเสียชีวิต จึงต้องการให้ทางโรงพยาบาล แพทย์และเจ้าหน้าที่ ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดในการรักษา โดยมี ร.ต.อ. ปัญญา มงคล รอง สว.(สอบสวน)สภ.ตาพระยา พนักงานสอบสวนเวร ได้รับแจ้งไว้แล้ว
ทั้งนี้ น.ส.ทรายเนตร ยอมทะนอม พี่สาวของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย.65 เวลา 04.00 น. น.ส.น้ำฝน ยอมทะนอม อายุ 23 ปี ซึ่งตั้งท้องและมีอาการปวดท้องใกล้คลอด นางอำนาจ ยอมทะนอม และ น.ส.ทรายเนตร ยอมทะนอม พี่สาว ได้นำผู้เสียชีวิต ส่ง รพ.ตาพระยา ขณะที่นำตัวนางสาวน้ำฝน ส่งมอบให้พยาบาลเวร และได้มีการตรวจในเบื้องต้นพยาบาลได้แจ้งกับ มารดาและพี่สาวว่า ปากมดลูกเปิด 6 เซนติเมตร ให้นอนรอคลอด โดยญาติไม่ต้องเฝ้าคนไข้ และมีการบอกให้ญาติกลับบ้านได้เลย ซึ่งในห้วงเวลาเดียวกันนั้น น.ส.ทรายเนตร พี่สาว ได้สังเกตเห็นอาการของผู้เสียชีวิต มีอาการเจ็บปวดท้องอย่างรุนแรง และได้แจ้งพยาบาลเวรทันทีว่า น้องสาวได้เจ็บปวดท้อง ขอให้ช่วยตรวจดูอาการด้วย ปรากฏว่า พยาบาลเวรนั้นทำเพียงลุกชำเลืองมองและลงไปนั่งเปิดเพลงฟัง โดยไม่ใสใจอาการเจ็บปวดของคนไข้และมีการขับไล่ญาติให้กลับบ้านไปเลย
ข่าวน่าสนใจ:
กระทั่ง เวลาประมาณ 06.50 น. เจ้าหน้าที่พยาบาลได้ใช้เบอร์มือถือของคนไข้ โทรหาญาติ โดยมี นางอำนาจผู้เป็นมารดาเป็นผู้รับสาย แล้วได้รับแจ้งว่า น้องคลอดแล้วปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก แต่รกไม่ออกและเจ้าหน้าที่พยาบาลได้แจ้งเพิ่มเติมว่า จะส่งตัวคนไข้คือ น.ส.น้ำฝน ไปยังโรงพยาบาลอรัญประเทศ เนื่องจากรกไม่ออก ให้ญาติตามไปที่โรงพยาบาลอรัญประเทศได้เลย เมื่อนางอำนาจ ผู้เป็นมารดา ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ จึงเดินทางเข้าไปที่ รพ.ตาพระยา และสอบถามกับพยาบาล ปรากฏว่า นางสาวน้ำฝน คนไข้ยังอยู่ในห้อง ICU และกำลังปั๊มหัวใจ ทันทีที่หมอและพยาบาลได้พบมารดาและญาติของคนไข้ จึงปรี่เข้าไปบอกกับมารดาว่า เวลานี้คนไข้ ชีพจรหยุดเต้นแล้ว หมอกำลังพยายามช่วยปั๊มหัวใจอยู่ ซึ่งเมื่อแพทย์เห็นว่าอาการคนไข้ไม่ดีขึ้น จึงประสานขอส่งตัวไปที่ รพ.อรัญประเทศ และระหว่างการนำตัว น.ส.น้ำฝนคนไข้ ส่ง รพ.อรัญประเทศ มี น.ส.ทรายเนตร พี่สาวนั่งไปกับรถพยาบาลด้วย
น.ส.ทรายเนตร ระบุด้วยว่า ระหว่างทางนำน้องสาวไปที่ รพ.อรัญประเทศ ได้มีพยาบาลประจำรถและคุณหมอนั่งไปด้วย มีการปั๊มหัวใจคนไข้ ตั้งแต่เขต อ.โคกสูง ไปจนถึง รพ.อรัญประเทศ เมื่อนำตัว น.ส.น้ำฝน ส่งตัวให้ รพ.อรัญประเทศ แพทย์ของโรงพยาบาลอรัญประเทศ รับตัวคนไข้ต่อ และนำตัวเข้าห้อง lCU ทันที หลังจากนั้นสักพักทางโรงพยาบาลได้แจ้งกับตนเองว่า น้องมาช้าเกินไป มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะรอด แล้วบอกให้ญาติทำใจ เพราะคนไข้เลือดไหลไม่หยุด เนื่องจากมดลูกปลิ้นออกมาอยู่ข้างนอก ก่อนที่จะถึงมือหมอ และโรงพยาบาล แจ้งว่า คนไข้เหลือเลือดในตัวเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ จากคนปกติที่ต้องมี 30 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป เมื่อ รพ.พยายามยื้อชีวิตไม่ไหว ก็บอกให้ญาติทำใจ กระทั่ง เวลา 19.46 น. น้องสาวได้เสียชีวิตลง รพ.ก็แจ้งให้ญาตินำศพกลับบ้าน เพื่อไปดำเนินพิธีการทางศาสนาต่อไป
สำหรับกรณีนี้ นางอำนาจ ยอมทะนอม มารดาผู้เสียชีวิตและญาติ ได้แจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เนื่องจากติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของบุตรสาว และกับหมอทางโรงพยาบาลตาพระยา เพื่อให้ทางหมอที่โรงพยาบาลตาพระยา แสดงความรับผิดชอบต่อการรักษาที่ผิดพลาดกับชีวิตอันมีค่าของ นางสาวน้ำฝน และบุตรที่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป ซึ่งยังเป็นเด็กเล็กมาก ซึ่ง ร.ต.อ.ปัญญา มงคล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ตาพระยา พนักงานสอบสวนเวร ได้รับแจ้งความไว้เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับศพของ น.ส.น้ำฝน ผู้เสียชีวิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านมีฐานะยากจนไม่ค่อยดี หาเช้ากินค่ำ ทำนากับครอบครัว ซึ่งอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ 8 คน รวมผู้ตายด้วย สามีติดคุกเมื่อ 4 เดือนก่อน จึงเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวในการเลี้ยงดูแม่และหลาน ปัจจุบันต้องใช้บ้านในโครงการทับทิมสยาม 03 ต.ทัพไทย เป็นที่ตั้งเต็นท์วางโต๊ะ ล้อมเป็นคอก สำหรับจัดงานศพเพื่อให้พระภิกษุ นั่งสวดอภิธรรมศพแบบตามมีตามเกิด ซึ่งล่าสุด ได้มีการส่งศพผู้เสียชีวิตไปตรวจชันสูตร ที่สถานบันนิติเวช รพ.ตำรวจ กรุงเทพฯ และอยู่ระหว่างนำศพส่งกลับมาที่บ้านในช่วงเย็นวันนี้ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่ไปร่วมงานศพ ซึ่งญาติอยู่ระหว่างปรึกษาหารือกันว่า อาจจะยังไม่เผาศพจนกว่าจะมีความคืบหน้าในคดีดังกล่าว
————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: