สระแก้ว – กัมพูชาส่งศพชายไทย หลังพบตายปริศนาฝั่งปอยเปต แต่ศพไปโผล่ที่พนมเปญ จนเกือบจะถูกเผาเงียบประเทศกัมพูชา ถูกส่งศพกลับสู่ครอบครัวในประเทศไทย หลังระดมขอรับเงินบริจาค เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายและเป็นค่าดำเนินการฝั่งกัมพูชา ซึ่งใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์หลังเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ญาติร้องเรียนว่า”น้องยู”หรือ นายฌานปกรณ์ รายเงิน อายุ 26 ปี ที่อยู่ 35/1 ซ.ดอนไชย ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ชายคนไทยซึ่งเดินทางไปทำงานอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา และได้หายตัวจากห้องพักที่เมืองปอยเปต ตรงข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งพบเป็นศพตายปริศนาอยู่บริเวณแนวชายแดน แต่ศพถูกนำไปไว้ที่วัดในกรุงพนมเปญ ห่างจากจุดที่พบศพถึง 410 กม.แบบมีเงื่อนงำ เชื่อว่า จะเป็นฝีมือของกลุ่มแก๊งขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชาและธุรกิจสีเทา ที่เตรียมจะดำเนินการ”เผาเงียบ”ศพผู้ตายทันที โดยที่สถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ยังไม่มีข้อมูลผู้ตายเลย กระทั่งญาติร้องขอความช่วยเหลือเพื่อทวงคืนความยุติธรรมและขอนำศพกลับมายังประเทศไทย
ทั้งนี้ ช่วงแรกนักสืบโซเชียลพยายามตามหาตัวน้องยู ผู้เสียชีวิต เนื่องจากขณะหายตัวไป ทรัพย์สินได้หายไปหมดทุกชิ้น อาทิ 1.รถจักรยานยนต์ซูเมอร์เอ๊ก ,2.ไอโพน14 โปรแมก สีม่วง ,3.กระเป๋า สะพาย Gucci และ 4.พระเครื่องเลี่ยมทอง โดยมีผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนไทย 2 คน กัมพูชา 1 คน ที่อ้างว่า พบศพคนตายและนำร่างไปส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินที่หายไป กระทั่ง แม่และครอบครับยืนยันต้องการจะรับศพกลับมายังประเทศไทย ซึ่งทางกัมพูชาแจ้งว่า หากต้องการผลชันสูตรที่ฝั่งกัมพูชา ต้องเสียเงิน 200,000 บาท ,หากไม่ติดใจสาเหตุการตาย จะนำศพกลับ ก็เสียค่าใช้จ่าย 175,000 บาท หรือนำร่างกลับมาไม่ได้ จะให้เผาเหลือแต่กระดูก เพื่อนำกลับไทย ต้องเสีย 50,000 บาท จนมีการเปิดรับบริจาคเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าวและสามารถประสานนำร่างกลับสู่ประเทศไทยได้ ในวันที่ 8 ธ.ค.65
ล่าสุด เวลาประมาณ 12.10 น.วานนี้ (8 ธ.ค.) นางอารดา จอยวงษ์ อายุ 57 ปี ชาว ต.ท่าตาล อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก มารดาของ นายฌานปกรณ์ รายเงิน หรือ น้องยู ผู้เสียชีวิตในประเทศกัมพูชา พร้อมด้วยญาติ ได้เดินทางมารอรับศพของนายฌานปกรณ์ฯ ที่บริเวณหน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเดินทางศพเดินทางมาจากกรุงพนมเปญ มายังด่านปอยเปต และข้ามสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มายังประเทศไทย โดยญาติรอคอยรับศพหลังน้องเสียชีวิตในต่างแดน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ใช้เวลานานกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อนำมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา โดยมีผู้ประสานงานหลายฝ่ายให้การช่วยเหลือ อาทิ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ก็แค่ คนธรรมดา”และทีมงาน ร่วมประสานงานกับ เจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ,เจ้าหน้าที่ประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา (สน.ปทก.) จนกระทั่ง ทางการกัมพูชาอนุมัติการนำศพกลับมายังประเทศไทยดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอารดา จอยวงษ์ อายุ 57 ปี มารดาของผู้เสียชีวิต และญาติ ได้ตรงเข้าไปจับร่างของบุตรชาย ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยถุงบรรจุศพอย่างดี พร้อมบอกกับลูกว่า กลับบ้านเรานะ จากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯและญาติ ได้นำโลงศพที่เตรียมไว้ นำมาบรรจุร่างของผู้ตายใส่โลงศพ และเปิดหน้าของผู้เสียชีวิตให้ญาติตรวจสอบว่า เป็นบุตรชายหรือไม่ ซึ่งเมื่อผู้เป็นแม่เห็นหน้าลูกชายที่เสียชีวิต ก็ถึงกับน้ำตาไหลและร้องไห้ออกมาทันที ก่อนจะปิดโลงศพและนำขึ้นรถกู้ภัยฯ นำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่ จ.พิษณุโลก ต่อไป
————————–
ขอบคุณภาพเฟซบุ๊ก/ ก็แค่ คนธรรมดา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: