X

สระแก้ว ชาวบ้านโวย!! แขวงทางหลวงฯขุดถนนวางท่อขยายถนน ร้านค้า ผู้ใช้ถนนร้องเรียนเดือดร้อน

สระแก้ว – เดือดร้อนกันทั่วหน้า!! ร้านค้าขายของไม่ได้เดือดร้อนหนัก หลังแขวงทางหลวงสระแก้ว เข้าดำเนินการก่อสร้างวางท่อและเพิ่มช่องทางถนน บริเวณเส้นทางริมถนนสายสุวรรณศร สาย 33 ตั้งแต่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ไปจนหน้าโรงเรียนบ้านหนองกระพ้อ ตัวแทนร้านค้าและตลาดเมืองสระแก้ว เข้าร้องเรียนนายอำเภอเมืองสระแก้วและเทศบาลเมืองสระแก้ว เนื่องจากไม่มีการประชาคม

เมื่อวันที่ 17 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกภพ โสภณ นายอำเภอเมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ร่วมกับ นายตระกูล สุขกุล นายกเทศบาลเมืองสระแก้วสระแก้ว เข้าพูดคุยกับชาวบ้าน ร้านค้า และผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก หลังจากผู้รับเหมาเข้าดำเนินการ โดยเฉพาะเรื่องการค้าขายสินค้าไม่ได้ เกิดปัญหาจราจรติดขัด และอุบัติเหตุ ซึ่งแขวงทางหลวงสระแก้ว ได้ว่าจ้างผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการก่อสร้าง วางท่อ และเพิ่มช่องทาง ซึ่งชาวบ้านที่เดือดร้อนจากปัญหาขายสินค้าไม่ได้ ต้องการให้ผู้รับเหมาและแขวงทางหลวงหาทางบรรเทาความเดือดร้อน เนื่องจากชาวบ้านได้รับผลกระทบมาตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่พอ ต้องมาเดือดร้อนจากการก่อสร้างวางท่อและเพิ่มช่องทาง ทำให้ค้าขายของไม่ดีต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นายเอกภพ โสภณ นายอำเภอเมืองสระแก้ว ได้เดินทางลงพื้นที่ พร้อมกับติดต่อประสานงานไปยัง นายพรพิชิต กลิ่นมาลี ผอ.แขวงทางหลวงสระแก้ว เพื่อให้เดินทางมาชี้แจงกับชาวบ้าน ร้านค้า เพื่อรับทราบข้อมูลว่า จะดำเนินการไปถึงเมื่อใด แล้วเสร็จตอนไหน เนื่องจากก่อนดำเนินการไม่ได้มีการแจ้งหรือทำประชาคม หรือเตรียมแผนรองรับความเดือดร้อนของประชาชนผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณแนวเส้นทางดังกล่าวแต่อย่างใด หากทำงานล่าช้าและล่วงเลยไปถึงช่วงฤดูฝน ชาวบ้านจะยิ่งลำบากมากกว่าเดิม น้ำจะไปลงตรงไหน เพราะบริเวณช่วงที่เกิดฝนตกก่อนหน้านี้เกิดน้ำท่วมขังจนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนตลอดมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ นายพรพิชิต กลิ่นมาลี ผอ.แขวงทางหลวงสระแก้ว ชี้แจงการก่อสร้างวางท่อและเพิ่มช่องทาง ซึ่งทางแขวงทางหลวงฯได้เร่งทำอยู่แล้วด้วยเสียงดังโวยวาย จนชาวบ้านเกิดความไม่พอใจ ซึ่งชาวบ้านที่ร้องเรียนปัญหาดังกล่าว ไม่พอใจ เนื่องจากมีการเสนอในโต๊ะประธานแบบนักเลง ซึ่งจากการสอบถาม นายชาญชัย ลีรักพานิช ตัวแทนจากชาวบ้านผู้ร้องเรียนฯได้โวยวายขึ้นเสียงดัง ระบุว่า กลัวทางหลวงสระแก้วจะทำงานล่าช้าและรถยนต์เข้า-ออกกันไม่สะดวก และในการค้าขายระยะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนหนักอยู่แล้ว ยิ่งสร้างความเดือดร้อนเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาทางแขวงทางหลวงฯคิดแผนออกมาเคยมีแผนออกมาให้ชาวบ้านทราบและรับรู้หรือไม่ ซึ่งไม่มีใครรับรู้เลย

“โครงการลงมาไม่เคยแจ้งชาวบ้านรับรู้ล่วงหน้า เครื่องจักรลงทำงานก่อน หนังสือที่ส่งมาให้ดูออกเมื่อไหร่ ตอนนั้นเครื่องจักรลงทำงานไปได้กี่วันแล้ว นายอำเภอบอกว่า กลับไปบ้าน 2 วันเอง กลับมามีการขุดแล้วหรือ อยากถามว่า ตั้งแต่ที่ทำมาได้มีการแสดงแบบไหม ชาวบ้านขอดูได้ทั้งนั้น จู่ ๆ มาขุดติดบ้านเขา เขายังไม่รู้เลย หากมีการประชาคมก็ต้องสามารถสอบถามและรับรู้ว่า จะทำอะไรตรงไหน ” นายชาญชัย ลีรักพานิช ตัวแทนจากชาวบ้านผู้ร้องเรียนฯ กล่าว

จากนั้น ผอ.แขวงทางหลวงสระแก้ว ได้กล่าวและยืนยันให้กับชาวบ้านผู้ร้องเรียน โดยรับปากว่า ต้องทำให้เสร็จในภายเดือนเมษายน 66 ก่อนจะถึงฤดูฝนและสอบถาม นายขุนทอง ดวนพิมาย ผู้ควบคุมงานของบริษัท เอส พีที ซีวิลกรุ๊ป จำกัด แจ้งว่า การก่อสร้างวางท่อและเพิ่มช่องทางริมถนนเส้นทางสายสุวรรณศร ทางผู้รับเหมาะจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในภายเดือนเมษายนแน่นอน

อย่างไรก็ตาม นายเอกภพ โสภณ นายอำเภอเมืองสระแก้ว กล่าวว่า หน่วยงานราชการโดยเฉพาะแขวงทางหลวงสระแก้ว เมื่อได้งบประมาณมาก็ต้องดำเนินการ โดยหาผู้รับจ้างและเร่งดำเนินงาน แต่เมื่อชาวบ้านมาเห็นหนังสือให้รื้อถอนป้ายจึงไม่เข้าใจ ดังนั้น จึงอยากฝากให้ผู้รับจ้าง เวลาที่ไปพบหรือดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องกับชาวบ้าน ต้องชี้แจงและแจ้งให้ทราบว่า ผู้รับเหมาจะเข้าทำงานช่วงไหน อย่างไร เวลาไหน พื้นที่ตรงไหนก่อน ชาวบ้านจะได้เตรียมตัวทัน จึงฝากทาง ผอ.แขวงทางหลวงสระแก้ว ช่วยดูแลด้วย โดยเฉพาะทางเชื่อมทางแยกเป็นพิเศษ เพราะชาวบ้านต้องสัญจรกันทุกวัน

—————————-
ข่าว-ภาพโดย/เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์, สมศักดิ์ ปัญญาศัย ทีมข่าวสระแก้ว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"