สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ตรวจโรงงานเอทานอล จ.สระแก้ว พบปัญหาเสี่ยงระเบิด-ไฟไหม้สูงสุด โดยโรงงานไม่มีระบบป้องกันใด ๆ รวมทั้งมีการร้องเรียนปัญหากลิ่นเหม็นรุนแรง สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดและสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ดำเนินการตามกฎหมาย เฉ่งโรงงานไม่มีระบบเรื่องความปลอดภัย หากไม่แก้ไขภายใน 90 วัน เตรียมดำเนินคดีและสั่งปิดทันที
นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธาน นำเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจังหวัด เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมและตรวจสอบการดำเนินงานของสถานประกอบการ พร้อมทั้งให้คำปรึกษากับสถานประกอบการอุตสาหกรรมแบบบูรณาการ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย อาทิ นายอำเภอเมืองสระแก้ว อุตสาหกรรมจังหวัด, สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ,ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, โยธาธิการและผังเมือง,ศูนย์ดำรงธรรมฯ อบต.ศาลาลำดวนและหน่วยงานอื่น ๆ เข้าร่วมเกือบ 50 คน เพื่อตรวจสอบให้คำแนะนำหรือแนวทางการแก้ปัญหา โดยการลงพื้นที่จริง พบว่า มีสถานประกอบการที่ได้รับการร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็น และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่หลายตำบล อาทิ ต.บ้านบ้าน และ ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว โดยเฉพาะที่บริษัท ไท่ผิง เอทานอล จำกัด ตั้งอยู่พื้นที่ ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว โดยมีการเดินทางเข้าไปตรวจเยี่ยมและตรวจสอบโรงงานดังกล่าว เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่โรงงานฯได้ชี้แจงข้อมูลรายละเอียดของบริษัทและการดำเนินงานตามแผน ปรากฏว่า นายเอกภพ โสภณ นายอำเภอเมืองสระแก้ว ได้สอบถามกรณีปัญหาที่ชาวบ้านร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็น และเหตุการณ์ไฟไหม้ถังเก็บเอทานอลขนาดใหญ่ภายในโรงงานเมื่อวันที่ 15 ก.ค.65 ซึ่งทาง อบต.ศาลาลำดวน แจ้งว่า มีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นบ้าง เช่นเดียวกับทางหอการค้าจังหวัดสระแก้ว ก็ได้รับทราบข้อมูลเรื่องกลิ่นเหม็นด้วย โดยทาง นายอำนาจ เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัย จป.วิชาชีพ ของโรงงานฯ บอกว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ถังเก็บเอทานอลที่ผ่านมา เป็นถังผลิตไลน์ 1 ซึ่งเป็นถังเปล่า ไม่ได้เก็บเอทานอลไว้ ซึ่งขณะเกิดเหตุระหว่างไปตรวจสอบถังและทำความสะอาดแก๊สว่ามีการรั่วไหลหรือไม่ ก็ได้ยินเสียงดัง 2 ครั้งและเกิดฝาถังระเบิดเปิดออกมาและเกิดไฟไหม้ทั้งถัง ซึ่งโชคดีที่ไม่มีแอลกอฮอล์บรรจุอยู่ภายใน มีเพียงผู้จัดการโรงงานชาวจีนที่ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย โดยทางโรงงานแจ้งให้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ จึงพบว่า สายชุดคอนโทรนถังเดิมเมื่อ 10 กว่าปี มีการใช้ไฟ 220โวลต์ เกิดไฟไหม้ลามลงมาที่ถังจนเกิดระเบิดขึ้น ปัจจุบันนี้ใช้งานถังเก็บ 3 ถังใหม่ ความจุเอทานอลเต็ม 6 ล้านลิตร ในไลน์การผลิตที่ 2 ที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งใช้ไฟ DC จากแบตเตอรี่ทดแทนระบบเดิม
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สอบถามระบบและแผนรองรับความปลอดภัยและอัคคีภัยของโรงงานซึ่งตั้งมานานถึง 15 ปี มีรายได้จากการขายเอทานอลปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท/ปี ปรากฏว่า ทางโรงงานไม่มีระบบที่จะสามารถรองรับเหตุการณ์เพลิงไหม้เบื้องต้นเลย แม้ว่าจะได้รับ ISO ต่าง ๆ ก็ตาม จึงเกรงว่า หากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้หรือถังบรรจุเอทานอล 6 ล้านลิตร ที่มีการผลิตเก็บสะสมไว้และขายไปตามระบบปัจจุบันจำนวนมาก หากเกิดระเบิดและเกิดไฟไหม้ขึ้น จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมของคนทั้งอำเภอ ซึ่งนายจำเริญ อินยา สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.สระแก้ว ได้เคยเข้าตรวจสอบและพบว่า โรงงานมีข้อบกพร่องดังกล่าวจริง และถือเป็นโรงงานที่มีความเสี่ยงภัยร้ายแรง ซึ่งหากทางสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานออกคำสั่ง ทางโรงงานจะต้องปฏิบัติภายใน 30 วัน และขอขยายได้อีก 2 ครั้ง ๆ ละ 30 วัน รวม 90 วัน หากปฏิบัติไม่ได้จะต้องส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จึงสั่งการให้ทางสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สั่งการตามกฎหมายให้ทางโรงงานดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัยทันที เนื่องจากมีคนงานกว่า 180 คน หากไม่ดำเนินการก็จะสั่งปิดโรงงานด้วย
นอกจากนั้น นายปริญญา ยังสอบถามในที่ประชุมว่า “เหตุการณ์ระเบิดที่ผ่านมา เกิดจากการอ๊อกเชื่อมเหล็กหรือไม่ นี่ขนาดเป็นถังเปล่านะ เดือดร้อนมั้ย ทำไมโรงงานไม่วางระบบป้องกันอัคคีภัยให้ดีล่ะ ผมถามอะไรคุณก็ไม่มีซักอย่าง ระบบโฟมก็ไม่มี ระบบน้ำก็ไม่สามารถใช้มาดับไฟได้ ยกตัวอย่างขนาดรถน้ำมันคว่ำที่วัฒนานคร รถโฟมวิ่ง 2 ชั่วโมงยังไม่ถึง ดีตรงนั้นไม่มีบ้านคน ถามว่า ถ้าเป็นโรงงานคุณจะทำยังไง แต่นี่โรงงานคุณเก็บเอทานอลถึง 6 ล้านลิตร คุณบอกไม่มีระบบอะไรซักอย่าง รถโฟมวิ่งเมื่อไหร่จะถึง ทางโรงงานยังไม่รู้เลยว่า รถโฟมอยู่ที่ไหนบ้าง คุณได้ประสานส่วนราชการมั้ย การซ้อมแผนที่โชว์มามันไม่ใช่ เคยสมมุติฐานหรือไม่ว่า หากเกิดการติดไฟขึ้นมา จะดับด้วยวิธีไหน จะอพยพคนงานอย่างไร และแผนชุมชนรอบข้างรัศมีเท่าไหร่ ซึ่งนี่ไม่ใช่น้ำมันดีเซลนะ แต่เป็นเอทานอล คุณไม่เคยคำนึงถึงคนอื่นเลย ผลิตขาย ผลิตขาย ไม่มีความปลอดภัย คุณนำเสนอเรื่องความปลอดภัยไม่ได้เลย หากสวัสดิการสั่งให้ดำเนินการแก้ไขภายใน 90 วันไม่ทำก็ต้องปิด ขอให้ไปถามผู้บริหารคุณเลยว่า จะเอาอย่างไร หลังจากนี้ทางจังหวัดจะเริ่มนับหนึ่ง ถามอะไรก็ไม่มี อันตรายมั้ย เสื้อกันไฟซักตัวยังไม่มีเลย”
ซึ่งกรณีนี้ นายไพโรจน์ เที่ยงธรรม นายก อบต.บ้านแก้ง กล่าวว่า ปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นในพื้นที่จะเกิดจากโรงงานศรีตรัง และโรงงานไทผิงฯ ซึ่งการดูแลเป็นการแบ่งเขตพื้นที่กับตนเอง แต่ปัจจุบันผลกระทบจริง ๆ แล้ว ตำบลบ้านแก้งมีผลกระทบกับชาวบ้านหมด บ้างครั้งลมแรง ๆ เหม็นจนหายใจแสบคอหมดเลย อยากให้แก้ปัญหาเรื่องกลิ่น และการบำบัดต่าง ๆ ให้ดี ซึ่งถึงเวลาจะมีปัญหากลิ่นมาทุกปี ตั้งแต่เริ่มสร้างโรงงานมา
นายจำเริญ อินยา สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.สระแก้ว กล่าวว่า กรณีที่เราตรวจสถานประกอบการแล้ว ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น กรณีของการไม่มีระบบดับเพลิง ระบบอุปกรณ์ประกอบเช่น น้ำดับเพลิง น้ำสำรอง สายส่ง หัวฉีด ข้อต่ออะไรต่าง ๆ กรณีสถานประกอบการมีความเสี่ยงสูง เราก็จะมีคำสั่งให้ปฏิบัติ หลังตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบว่านายจ้างมีการปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่ ถ้ามีความเสี่ยงและไม่ปฏิบัติตาม เราก็จะมีคำสั่งให้ปฏิบัติให้ถูกต้องภายใน 30 วัน ถ้าไม่ดำเนินการกรณีเป็นเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน สามารถขอขยายเวลาได้อีก 2 ครั้ง ๆ ละ 30 วัน รวม 90 วัน ถ้าหากไม่ดำเนินการ ทางเราก็จะส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ซึ่งกรณีของโรงงานนี้จะมีคำสั่งภายในสัปดาห์หน้า เพราะโรงงานนี้ถือว่า เป็นโรงงานที่อยู่ในกิจการประเภทเสี่ยงจากอัคคีภัยอย่างร้ายแรง ซึ่งจะต้องมีมาตรฐานการป้องกันด้านอัคคีภัยตามกฎหมาย เบื้องต้นข้อมูลที่โรงงานนำเสนอยังไม่ครบถ้วนบางประการ
ทางด้าน นายพฤกษ์ ศิโรรัตนเศรษฐ์ อุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า โรงงานนี้เมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้ว มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น หลังจาก 6 เดือนที่ผ่านมา เราตรวจสอบพบว่า ณ วันนี้ ความคืบหน้าของการปรับปรุงแก้ไขยังเป็นไปอย่างล่าช้ามาก หลังจากตรวจเยี่ยมทางอุตสาหกรรมจังหวัดจะส่งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจโดยละเอียด ตั้งแต่การรับวัตถุดิบ การตรวจสอบความปลอดภัย กลิ่นเหม็น การทิ้งของเสีย ซึ่งสถานประกอบการมีปัญหาในเรื่องการประกอบกิจการ มีกลิ่นเหม็นรบกวนการใช้ชีวิตของชาวบ้าน และเราจะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโดยละเอียดทุกขึ้นตอน ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย พรบ.โรงงาน พ.ศ.2562 โดยละเอียดทุกขั้นตอน ซึ่งหากไม่ดำเนินการขั้นตอนแรก เราจะให้ผู้ประกอบการรับทราบปัญหาและปรับปรุงแก้ไขในช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อน ถ้าโรงงานไม่สามารถแก้ไขได้หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ทางอุตสาหกรรมจะมีคำสั่งมาตรา 39 ให้หยุดกิจการต่อไป
——————————
ข่าว-ภาพโดย/เด่นชัย วิสุทธิวุฒิพงษ์, สมศักดิ์ ปัญญาศัย, ธนภัท กิจจาโกศล ทีมข่าวสระแก้ว
