ปราจีนบุรี – ชาวบ้านรวมตัว จี้ผู้ใหญ่บ้านแจงเงินหมู่บ้าน ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ที่ศาลากลางหมู่บ้าน บ้านใหม่โคกอุดม หมู่ที่ 9 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีชาวบ้านสมาชิก จำนวน 30 คน รวมตัวกัน เรียกร้องให้ นายวิถี สีดำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ออกมาชี้แจงเรื่องที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนร้องทุกข์ไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่และการบริหารจัดการภายในหมู่บ้านของ นายวิถี สีดำ ผู้ใหญ่บ้าน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปี พ.ศ 2565 ผู้ใหญ่บ้านไม่เคยลงพื้นที่หรือการบริจาคสิ่งของมอบให้แก่ชาวบ้าน อีกทั้งปล่อยให้มิเตอร์น้ำประปาทั้ง 3 บ่อ และมิเตอร์ไฟฟ้าของหมู่บ้าน ที่ติดอยู่ประจำโดยผู้ใหญ่บ้าน ได้แต่งตั้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้เก็บค่าน้ำค่าไฟ แต่ไม่มีการประชุมชี้แจงรายรับรายจ่ายให้ชาวบ้านได้รับทราบ ประกอบกับมีการยืมเงินคณะกรรมการหมู่บ้าน มาจ่ายค่าไฟฟ้าที่ถูกตัดมิเตอร์อีกด้วย
นายทองคำ แสงมล ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ตามที่ได้มีหนังสือร้องเรียนร้องทุกข์ไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปราจีนบุรี ศูนย์ดำรงธรรมได้แจ้งให้ทางอำเภอตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ แล้วปรากฏว่า ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงไม่ครบถ้วน ทำให้ชาวบ้านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการไม่ชอบมาพากลในเรื่องของเงิน 90,000 บาท ซึ่งชาวบ้านหลายคนต่างได้สอบถามผู้ใหญ่บ้าน ให้นำหลักฐานด้านการเงินมาชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ ให้นำสมุดบัญชีเงินฝากมาให้ชาวบ้านได้ดู ที่ผ่านมา บอกว่า ได้นำเงินไปฝากไว้ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง แต่ไม่เคยมีใครเห็นว่า สมุดบัญชีดังกล่าวนั้นมีจริงอยู่หรือไม่ ผู้ใหญ่บ้านต้องชี้แจงถึงที่มาที่ไปของเงินให้ทราบอย่างละเอียด
ข่าวน่าสนใจ:
ตัวแทนชาวบ้านได้นำหนังสือตอบรับของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 22 ก.ย.65 แจ้งให้ทราบศูนย์ดำรงธรรมได้แจ้งให้อำเภอตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว ปรากฏว่า ผู้ใหญ่บ้าน ได้ชี้แจงเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือผู้ติดหลายครั้ง โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ชุดยังชีพกาชาดที่ได้รับจากอำเภอให้กับผู้ป่วยติดเชื้อ และมิได้ปล่อยให้มิเตอร์ประปามิเตอร์ไฟฟ้าของหมู่บ้านถูกตัดแต่อย่างใด การที่มิเตอร์ประปาและมิเตอร์ไฟฟ้าถูกตัด เกิดจากที่บุคคลเก็บค่าน้ำประปาคนดังกล่าว ไม่เก็บเงินมาเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน โดยไม่แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ จนกระทั่งได้รับหนังสือจากการไฟฟ้าถามถึงยอดหนี้ค้างชำระ 90,000 บาท จึงได้รวบรวมเงิน 30,000 บาท ไปชำระกับการไฟฟ้า ขณะนี้ ทั้งมิเตอร์น้ำและมิเตอร์ไฟฟ้าใช้งานได้ตามปกติ โดยมิได้มีการยืมเงินคณะกรรมการหมู่บ้านมาจ่ายค่าไฟที่ถูกตัดมิเตอร์ ส่วนรายรับรายจ่าย ค่าน้ำประปา มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทำบัญชีอยู่ ซึ่งการเก็บเงินดังกล่าวในหมู่บ้าน ประสบปัญหาการเก็บไม่เต็มจำนวน ตั้งแต่รับช่วงมาจากอดีตผู้ใหญ่บ้านคนเก่า ประมาณปีพ.ศ. 2563 ซึ่งได้ชี้แจงในที่ประชุมให้ทราบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 26 ก.ย 65
นายวิถี สีดำ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ตนขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจ เงินทั้งหมดมีอยู่จริง และได้นำเงินจำนวนสด 40,000 บาท มาให้ชาวบ้านได้ดูว่า เงินยังมีเหลืออยู่จริง ซึ่งได้นำไปชำระหนี้เป็นบางส่วนแล้ว ขณะนี้ต้องผ่อนชำระกับทางการไฟฟ้าเดือนละ 3,000 บาท จนกว่าจะครบจำนวนเงินที่ค้างชำระ
นางสมฤดี (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริง) ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ไม่ว่าจะอย่างไรให้เวลาผู้ใหญ่บ้านให้ไปหาบัญชีไปทำบัญชีมาแสดงให้ชาวบ้านได้รู้เห็นภายในสิ้นเดือนนี้ ผู้ใหญ่บ้านไม่มีสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคาร ชาวบ้านจะดำเนินการขับไล่ผู้ใหญ่บ้านต่อไป ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้าน ยอมรับว่า จะรีบเร่งดำเนินการนำบัญชีเงินฝากมาชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับทราบ ตามที่ชาวบ้านต้องการ ซึ่งที่ผ่านมาที่ตนเองไม่ได้มาดูแลทุกข์สุขของชาวบ้านนั้น เนื่องจากว่า ลูกชายของตนเองประสบอุบัติเหตุ ต้องวิ่งรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ โดยเสียค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 4 ล้านบาท ขณะนี้ลูกชายอาการดีขึ้นแล้ว ต้องขอโทษชาวบ้านทุกคน หากชาวบ้านมองว่าเป็นการแก้ตัว ก็น้อมรับและจะปรับปรุงตัว
——————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: