สระแก้ว – เตรียมพร้อมมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หากพบผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรง ให้สวมใส่ PPE ขณะดูแลและทำหัตถการกับผู้ป่วย รวมทั้งเฝ้าระวังสัตว์ปีกป่วยตายในพื้นที่ ขณะเดียวกัน อธิบดีกรมปศุสัตว์สั่งการให้ด่านกักกันสัตว์สระแก้ว ยกระดับมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคไข้หวัดนกตามแนวขายแดนขั้นสูงสุด หลังพบประเทศเพื่อนบ้านเสียชีวิตเพิ่ม โดยพ่อของเด็ก 11 ปี ผู้สัมผัสและเสี่ยงสูงเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย
เมื่อวันที่ 28 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่า พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนก เพศหญิง อายุ 11 ปี ชาวกัมพูชา ในจังหวัดไพรแวง ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างจากจังหวัดสระแก้วประมาณ 550 กิโลเมตร ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 มีอาการไข้ ไอ และเจ็บคอ ภายหลังจากเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเด็กแห่งชาติ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 และได้เสียชีวิตในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ด้วยอาการปอดบวมอย่างรุนแรง และพบพ่อติดเชื้อ อาการไม่รุนแรง ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่นั้น ในส่วนของจังหวัดสระแก้ว นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ได้เตรียมความพร้อม เพื่อรับมือการระบาดของโรคไข้หวัดนก ซึ่งอาจจะระบาดในพื้นที่ โดยความร่วมมือของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ชลบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์ผู้ป่วยสงสัยและสัตว์ปีกป่วยตาย ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ,เตรียมทีมปฏิบัติการสอบสวนโรค เพื่อสนับสนุนพื้นที่ และประสานศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 6 ชลบุรี เตรียมความพร้อมในการส่งตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ กรณีพบผู้ป่วยสงสัย
ทั้งนี้ นพ.สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า จังหวัดสระแก้ว ณ ขณะนี้ ได้รับการยืนยันพื้นที่การระบาดกับจังหวัดบันเตียเมียนเจย พบว่าพื้นที่ที่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกเสียชีวิต อยู่บริเวณชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม โดยได้ติดตามสถานการณ์สัตว์ปีก ไม่พบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว-บันเตียเมียนเจย ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว จึงแจ้งเตือนสถานการณ์และมาตรการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก ให้สถานพยาบาล เครือข่าย อาสาสมัครสาธารณสุขในพื้นที่ทราบและดำเนินการ ,แจ้งสถานการณ์ มาตรการดำเนินการในพื้นที่ ใน group line ส่วนที่เกี่ยวข้อง และมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วเมื่อวานนี้ (27 ก.พ.) เพื่อแจ้งสถานการณ์ และมาตรการดำเนินการในพื้นที่
“สำหรับมาตรการเพิ่มเติมที่จะต้องดำเนินการหลังจากนี้คือ 1) เฝ้าระวังผู้ป่วย refer ระหว่างพื้นที่ชายแดน ทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรง ,2) บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในสถานพยาบาล หากพบผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรง ให้สวมใส่ PPE ขณะดูแลและทำหัตถการกับผู้ป่วย ,3) กรณีพบผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรง ให้ Isolate ผู้ป่วยในห้องแยกโรค และ 4) เฝ้าระวังสัตว์ปีก และตรวจสอบเหตุการณ์ กรณีพบสัตว์ปีกป่วยตายในพื้นที่” นพ.ประภาสกล่าว
ล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้(28 ก.พ.) ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาออกแถลงการณ์ยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิด A สายพันธุ์ H5N1 โดยผู้ป่วยและเสียชีวิตเป็นเด็กหญิงวัย 11 ปี จากจังหวัดไพรแวง ประเทศกัมพูชา (ติดกับประเทศเวียดนามตอนใต้)เมื่อวันที่ 22 ก.พ.66 โดยมีผู้สัมผัสและเสี่ยงสูง 12 ราย ทางเครือข่ายศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของอาเซียน(Asean Eoc Network) จึงแจ้งเตือนให้แต่ละประเทศเฝ้าระวัง โดยนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนะมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้สั่งการให้ นายวิบูลย์ ศรีมั่นคงธรรม หัวหน้าด่านกักกันสัตว์สระแก้ว และหัวหน้ากลุ่มด่านกักกันสัตว์ที่ 2 ภาคตะวันออก ให้ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคไข้หวัดนกขั้นสูงสุด ในการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าสัตว์ปีกมีชีวิตหรือซากสัตว์ปีกเข้าประเทศ เข้มงวดการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะทุกชนิดที่ผ่านเข้า-ออกระหว่างประเทศ รวมถึงตรวจค้นสัมภาระที่นำเข้าประเทศ อาจซุกช่อนนำผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกเข้ามาตลอดแนวชายแดนจังหวัดสระแก้ว ที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา
นายสัตวแพทย์ ยุทธนา โสภี นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สารวัตรปศุสัตว์ ด่านกักสัตว์สระแก้ว เปิดเผยว่า ประเทศไทยพบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 และสามารถกำจัดโรคนี้ให้หมดจากประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยทั้งสิ้น 25 ราย เสียชีวิต 17 ราย คิดเป็นอัตราป่วย-ตาย 68 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ารุนแรงมาก ณ ปัจจุบันยืนยันประเทศไทยปลอดจากโรคไข้หวัดนก ซึ่งจากการวิเคราะห์ความเสี่ยง พบว่า โรคไข้หวัดนก จะแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทยได้จากการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกและซากสัตว์ปีก รวมถึงยานพาหนะที่ผ่านเข้า-ออก ตามแนวชายแดนระหว่างประเทศ ด่านกักกันสัตว์ สระแก้ว ได้เข้มงวดมาตรการ เฝ้าระวัง ป้องกันโรคไข้หวัดนก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 จนถึงปัจจุบัน
นายสัตวแพทย์ยุทธนา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้กำหนดมาตรการเข้มงวดในการควบคุมโรคไข้หวัดนก ประกอบด้วย 1.พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะทุกชนิดที่ผ่านเข้า-ออก ตามแนวชายแดน ,2.ตรวจค้นสัมภาระของผู้เดินทางเข้าประเทศ ป้องกันการลักลอบนำผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกเข้าประเทศ ,3.บูรณาการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานตลอดแนวชายแดน เฝ้าระวังป้องกันโรคไข้หวัดนก, 4.ตั้งจุดตรวจควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ ภายในจังหวัด 4 จุด/จุดผ่านแดน 5 จุด ,5.แลกเปลี่ยนข้อมูลหาข่าวร่วมกับเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน ,6.บูรณาการร่วมกับอำเภอชายแดน พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคจุดเสี่ยงตามแนวชายแดน ,7.จัดชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็วลาดตระเวนตามแนวชายแดน ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ป้องกันการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ และ 8.จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์พร้อมบุคลากรเข้าปฏิบัติงาน กรณีพบการระบาดของโรคไข้หวัดนก
อย่างไรก็ตาม สารวัตรปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว ยังกล่าวด้วยว่า หากประชาชนตามแนวชายแดนพบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ด่านกักกันสัตว์สระแก้ว โทร 037-231208 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร 063-2256888 หรือแจ้งผ่าน Application : DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชม. ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบการลักลอบหรือนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีความผิดตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 มาตรา 31 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากกระบวนการเลี้ยงและการผลิตสัตว์ปี และผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกของฝั่งประเทศกัมพูชา ยังถือว่า เป็นประเทศที่องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ยังไม่รับรอง ประเทศไทยจึงมีคำสั่งห้ามนำเข้ามาตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา
ส่วนที่บริเวณด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค หน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก็มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ และคัดกรองชาวกัมพูชาที่เดินทางมาจาก จ.ไพรแวง ประเทศกัมพูชา หลังล่าสุด พ่อของเด็ก 11 ปี ผู้สัมผัสและเสี่ยงสูงเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ด้วย ส่วน พ.อ.อนุพงษ์ มูลบรรจบ ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1302 ซึ่งประจำที่บริเวณจุดตรวจสิ่งของผิดกฎหมาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ตรวจค้นสัมภาระของชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้มีการลักลอบนำสัตว์ปีก อาหารและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีก เข้ามาในประเทศไทยด้วยเช่นกัน
—————————–
