X

บุกยื่นหนังสือร้องเรียน ผบ.ทบ.แก้ปัญหาแก๊งลักลอบขน จยย.เถื่อนข้ามชายแดน จ.สระแก้ว

สระแก้ว – เครือข่ายภาคประชาชน จ.สระแก้ว เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้บัญชาการทหารบก เพื่อให้มีการสอบสวนและแก้ปัญหากรณีแก๊งลักลอบขน จยย.เถื่อนข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีปัญหาแก๊งลักลอบขนจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมและจักรยานยนต์เถื่อนข้ามชายแดนจากฝั่งประเทศไทยไปขายยังประเทศกัมพูชา ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องบริเวณช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ส่งผลให้ผู้บัญชาการทหารบกและแม่ทัพภาคที่ 1 สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว และกองกำลังบูรพา เข้มงวดกรณีปัญหานี้ ล่าสุด เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอัมรินทร์ ยี่เฮง ในนามเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว ซึ่งได้ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งโจรกรรมและการลักลอบนำรถ จยย.ข้ามแดน รวมถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่บางนาย ที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพฤติกรรมที่น่าสงสัยกรณีตั้งแต่ต้นปี 2565 ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ได้มีการตรวจยึดรถ จยย.หลายครั้งหลายเหตุการณ์ ที่ไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ได้แต่ตรวจยึดรถ จยย.ซึ่งในบันทึกจับกุมอ้างว่า ผู้ต้องหาทิ้งรถและวิ่งหลบหนี ในเขตพื้นที่ อ.ตาพระยา และต่อมาขบวนการกลุ่มนี้ก็ย้ายพื้นที่มาลักลอบส่งรถ จยย.ข้ามแดนในพื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ และได้มีการตรวจยึดรถ จยย.ได้จำนวน 20 คัน

ทั้งนี้ นายอัมรินทร์ฯ เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนดังกล่าวต่อ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่สำนักงานเลขานุการกองทัพบก (สลก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ โดยระบุในหนังสือว่า รถ จยย.ที่ จนท.ตรวจยึดได้ ขณะกำลังขนข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่เคยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริง รถ จยย.จำนวน 20 คัน ต้องใช้คน จำนวนมากถึง 20 คน เพื่อเข็นหรือขับก่อนนำข้ามแดน ทั้ง ๆ ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมอาวุธอยู่ในมือ แต่ไม่สามารถที่จะข่มขู่ผู้กระทำผิดได้เลยหรืออย่างไร ต่อมา ภายหลังในพื้นที่ดังกล่าวเข้มงวดในการจับกุม ทางแก๊งดังกล่าวจึงมีการย้ายจากพื้นที่ตำบลป่าไร่ ไปลักลอบในพื้นที่ตำบลผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

นายอัมรินทร์ ระบุด้วยว่า ช่วงประมาณกลางปี 2565 ตั้งแต่ช่วงระยะเวลาดังกล่าว ตนเองได้ติดตามถึงพฤติกรรมของกลุ่มขบวนการนี้ จนทราบแหล่งที่เป็นจุดพักรถ โดยกลุ่มขบวนการจะใช้รถยนต์กระบะที่เป็นตู้ทึบ ขับไปในพื้นที่ เพื่อทำการนำรถ จยย.ไปพักไว้ในพื้นที่ และเพื่อรอการนำส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใน ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ เป็นพื้นที่เขตรับผิดชอบของชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 โดยมีผู้บังคับกองร้อยคนหนึ่ง เป็นผู้รับผิดชอบ ตั้งแต่จุดตรวจที่ 61-66 จะไม่ทราบเลยหรืออย่างไรว่า มีกลุ่มขบวนการนำรถเข้ามาในพื้นที่เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ซึ่งครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 ตนเองได้ติดตามกลุ่มขบวนการดังกล่าว ไปยังพื้นที่เป้าหมายและเฝ้าจนรับทราบว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดที่พักรถ เพื่อจะรอนำส่งข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา ที่บ้านเลขที่ 19 หมู่ที่ 6 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ห่างจากจุดที่จะนำส่งไปยังประเทศกัมพูชาประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยจะส่งออกไปยังกัมพูชา ระหว่างจุดตรวจ 65-66 บริเวณกึ่งกลาง รวมทั้งเป็นจุดที่อยู่ตรงข้ามกับกองร้อย ตชด. ของกัมพูชา ที่ใช้เป็นจุดรับรถดังกล่าวด้วย

หนังสือร้องเรียนไปยัง ผบ.ทบ. ยังระด้วยว่า “ข้าพเจ้าได้ดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าว ฝ่ายความมั่นคงของสันติบาล, สืบจังหวัดสระแก้ว และฝ่ายการข่าวของกองกำลังบูรพา เพื่อให้ร่วมกันตรวจค้นในพื้นที่บ้านดังกล่าว จึงได้พบรถ จยย. จำนวน 37 คัน ซึ่งรายละเอียดอยู่ที่บันทึกการจับกุม (สิ่งที่ส่งมาด้วย บันทึกการจับกุม พร้อมรูปถ่าย และรูปถ่ายภาพแผนที่ทางอากาศ) โดยทราบภายหลังมาว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานบางนาย มีความสนิทกับบ้านที่ถูกจับกุม และต่อมา ข้าพเจ้าได้พยายามเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้บังคับกองร้อยฯ แต่ก็ไม่มีการดำเนินการสอบสวนแต่อย่างใด และจากจำนวนรถ จยย. ดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่ที่ประจำจุดต่าง ๆ ซึ่งแต่ละจุดนั้น มีจุดตรวจห่างกันประมาณจุดละไม่เกิน 1-2 กิโลเมตร จึงเกิดเป็นข้อสงสัยว่า ไม่มีการตรวจค้นรถ จยย.ที่ต้องสงสัยว่า จะเป็นรถที่ลักลอบเตรียมนำส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านหรืออย่างไร และจากการลงพื้นที่ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา มีรถจักรยานยนต์ที่ลักลอบนำข้ามฝั่งไปแล้วไม่น้อยกว่า 500-1,000 คัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ดาวน์ซื้อมาใหม่ และบางส่วนเป็นรถที่โจรกรรมมาจากพื้นที่อื่น

อย่างไรก็ตาม นายอัมรินทร์ ยังให้ข้อมูลอีกว่า บางจุดบริเวณแนวชายแดน เจ้าหน้าที่สามารถที่จะมองเห็นกลุ่มขบวนการดังกล่าวขับรถข้ามฝั่งไปได้ แต่ก็ไม่ดำเนินการจับกุม จึงเชื่อว่า น่าจะมีการจ่ายหรือรับผลประโยชน์จากกลุ่มกระบวนการ ข้าพเจ้านายอมรินทร์ฯ จึงขอร้องเรียนมายังท่านผู้บัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบและลงโทษกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว ซึ่งมีผลกระทบต่อพื้นที่ โดยเฉพาะผู้บังคับกองร้อยฯ ที่เป็นผู้รับผิดชอบจุดดังกล่าว จึงเรียนมายังท่าน ผบ.ทบ. เพื่อให้ดำเนินการหากผลเป็นประการใด ให้แจ้งเป็นขั้นตอน ด้วยการส่งเอกสารตอบรับทุก 30 วัน เพื่อให้ข้าพเจ้าได้รับทราบความคืบหน้าเป็นระยะ จะเป็นพระคุณอย่างสูง ขอแสดงความนับถือ นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เครือข่ายประชาชนจังหวัดสระแก้ว

—————————

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"