สระแก้ว – นางดรุณี พูนประสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 1 พรรคภูมิใจไทย จ.สระแก้ว โต้ชูวิทย์ ระบุว่า ไม่ใช่การจ่ายเงินเพื่อซื้อเสียง เป็นการช่วยเหลือกันในฐานะคนรู้จักมักคุ้นกันและเคยช่วยหาเสียง ขณะป่วยและเข้ารักษาตัวที่ รพ. เปิดทุกมุมถูกกลั่นแกล้งใส่ร้าย ทำเอกสารเท็จร้องเรียน เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 29 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หอบหลักฐานการซื้อสิทธิ ขายเสียงของพรรคการเมือง มาร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า การเมืองไทยราคาถูก ๆ แค่ 3 พันบาท ก็สามารถซื้อได้ ไหนว่าจะปฏิรูปการเมืองอย่างไรเล่า ก่อนหน้านี้ตนเปิดข้อมูลหลักฐานกรณีอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) เก็บบัตรประชาชนคนในพื้นที่ไปแล้ว ครั้งนี้มีหลักฐานการโอนเงินของผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 1 ผ่านบัญชีธนาคารกสิกร ไปยังธนาคารกรุงไทย ให้กับประชาชนรายหนึ่ง จำนวน 3,000 บาท เมื่อวันที่ 15 เม.ย.66 จากนั้นมีการพูดคุยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ระบุว่า “เอาไว้ใช้นะคะ กราบงาม ๆ ในน้ำใจของน้องสาว”
นอกจากนั้น นายชูวิทย์ ยังระบุด้วยว่า ดังนั้นเรื่องจึงฝากสมาชิกสภาจังหวัดคนหนึ่ง ที่เดินตามหัวหน้าพรรค อย่าหาว่าตนจัดฉากเพราะมีสเตตเมนต์ชัดเจนว่า โอนจากบุคคลนี้ ให้กับบุคคลนี้ แต่ตนไม่ขอเปิดเผยชื่อผู้รับ เนื่องจากต้องเป็นพยานให้กับ กกต. โดยบุคคลที่ได้รับการโอนเงินเป็นครูสูงอายุ ที่อยากเห็นการเมืองสะอาด ให้ถ้อยคำเป็นหนังสือที่ตนนำมายื่นกับ กกต.ว่า เงินที่ได้รับโอนนั้น มีวัตถุประสงค์ให้เพื่อการลงคะแนนให้กับผู้จ่ายเงิน ไม่ได้เป็นการชำระหนี้ นั้น
ผู้สื่อข่าว จ.สระแก้ว ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว พบว่า ผู้ที่ตกเป็นข่าวดังกล่าว คือ นางดรุณี พูนประสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 1 พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 1 ซึ่งให้ข้อมูลกับกรณีนี้ว่า ไม่ใช่การจ่ายเงินเพื่อซื้อเสียง เป็นการช่วยเหลือกันในฐานะคนรู้จักมักคุ้นกันและเคยมาช่วยงาน ขณะป่วยและเข้ารักษาตัวที่ รพ. คือ นาย อ. หรือ อดีต”ผอ. ค.ควาย” อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 สมัยก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนั้นรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยอายุรกรรม ER ชั้น 4 รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เมื่อวันที่ 29 มี.ค.66 และ 30 มี.ค.66 มีการพูดคุยไถ่ถามอาการป่วย ซึ่ง นาย อ. บอกว่า เป็นเส้นเลือดในสมองตีบ พร้อมกับส่งภาพถ่ายจำนวนหลายภาพ รวมทั้งภาพอาหารการกินที่ทางพยาบาลจัดมาให้ ขณะนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มาให้กับนางดรุณีดู จึงสนทนาไถ่ถามกันเรื่องห้องพิเศษและบอกให้ดูแลตัวเองดี ๆ ส่วนวันที่ 1 เม.ย.66 นาย อ. ก็ได้ส่งภาพ พร้อมกับข้อความว่า “คณะวิทยากรลูกเสือชาวบ้านจังหวัดสระแก้ว นำโดย อาจารย์และ ผอ. 2 คน ได้เดินทางมาเยี่ยมและมาให้กำลังใจ ให้หายไวไว ขอบคุณมากครับ” ไปให้กับนางดรุณีฯด้วย
หลังจากนั้น นาย อ. ซึ่งเป็นพิธีกรและนักพูดได้ช่วยเขียนคำกล่าวอวยพรในงานมงคลสมรสและคำอวยพรงานประเพณีสงกรานต์ ในการเดินทางไปร่วมงานเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่ และมีการโอนเงินไปช่วยเหลือเนื่องจากเห็นว่า เจ็บป่วยให้กับนาย อ.ในฐานะที่เคยช่วยงาน ผ่านธนาคารกสิกรไทย ไปยังธนาคารกรุงไทย เมื่อวันที่ 15 เม.ย.66 เวลา 19.17 น. จำนวน 3,000 บาท พร้อมกับส่งสลิปให้และสนทนากันว่า “เอาไว้ใช้นะคะอาจารย์ ,รักษาตัวดี ๆ นะคะพี่คะ” ส่วนนาย อ. ได้ตอบกลับไปว่า “กราบงาม ๆ ในน้ำใจของน้องสาวครับ, ครับ ส.ส.สระแก้ว ” หลังจากนั้นก็มีการส่งภาพขณะนอนมาให้ และบอกว่า สภาพร่างกายวันนี้ และมีการตอบกลับไปจาก นางดรุณีว่า “นอนค่ะ พักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังมีการเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.สระแก้ว ทั้ง 3 เขต เมื่อวันที่ 3-7 เม.ย.66 มีผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 สระแก้ว จำนวน 8 คน ประกอบด้วย นางดรุณี พูนประสิทธิ์ เบอร์ 1 พรรคภูมิใจไทย, นายกฤษณ สุนทรกิจพาณิชย์ เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย ,น.ส.อารีรัตน์ จันทะสอน เบอร์ 3 พรรคประชาธิปัตย์ ,นางขวัญเรือน เทียนทอง เบอร์ 4 พรรคพลังประชารัฐ, นายสุชาติ ตาลไธสง เบอร์ 5 พรรคเสรีรวมไทย ,น.ส.อุทัยรัตน์ ถาวรยิ่ง เบอร์ 6 พรรครวมไทยสร้างชาติ ,นายปฐมพล สาระรัตน์ เบอร์ 7 พรรคก้าวไกล, น.ส.ชฏาวรรณ ทองเปลี่ยน เบอร์ 8 พรรคครองไทย โดยผู้สื่อข่าวพบว่า นาย อ. ได้ไปขึ้นเวทีช่วย นางขวัญเรือน เทียนทอง เบอร์ 4 พรรคพลังประชารัฐ หาเสียงเกือบทุกเวที ตั้งแต่มีการเปิดเวทีครั้งแรก เมื่อวันที่ 9 เม.ย.66 ที่ตำบลทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เป็นต้นมา
กระทั่งล่าสุด เมื่อช่วงค่ำวันที่ 27 เม.ย. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำข้อมูลดังกล่าวไปร้องกับ กกต.กลางและเปิดแถลงข่าว ไม่พบว่า นาย อ. เดินทางมาร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงของนางขวัญเรือนฯ แต่อย่างใด และไม่สามารถติดต่อได้ ขณะเดียวกัน ทางทีมงานของ นางขวัญเรือน เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 4 ได้ให้ข้อมูลว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการร้องเรียนดังกล่าว เนื่องจากต่างฝ่ายต่างหาเสียง ซึ่งทีมงานหาเสียงหลายคนรู้สึกตกใจว่า เกิดเรื่องลักษณะนี้ได้อย่างไร ปกติทางทีมงานมีแนวทางการหาเสียงที่ชัดเจนอยู่แล้ว จะไม่ใช้วิธีการลักษณะนี้มาทำลายคู่แข่งเด็ดขาด
ล่าสุด ช่วงเวลา 00.01 น.วันนี้ (29 เม.ย.66) นางดรุณี พูนประสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ได้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ผ่านเพจ “ดรุณี พูนประสิทธิ์ อดีต สจ.สระแก้ว” ระบุว่า “พ่อแม่พี่น้อง ชาวสระแก้วทุกท่านคะ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา พ่อแม่พี่น้องชาวสระแก้วคงทราบกันดีว่า ได้มีการออกข่าวเกี่ยวกับเปิ้ลผ่านสื่อต่าง ๆ โดยกล่าวหาว่า เปิ้ลได้โอนเงินซื้อเสียง ให้บุคคลหนึ่ง ในวันที่ 15 เมษายน เพื่อขอให้เขาลงคะแนนให้กับเปิ้ล ในการเลือกตั้ง ส.ส.สระแก้ว เขต (1) เปิ้ลขอใช้พื้นที่นี้สื่อสารถึงพ่อแม่พี่น้องชาวสระแก้วทุกคนว่า เปิ้ลถูกกล่าวหาและใส่ร้าย ซึ่งเปิ้ลเชื่อว่า เกิดจากการกระทำของคู่แข่งขันที่ต้องการทำลายเปิ้ล โดยหวังผลที่จะให้เปิ้ลสูญเสียความน่าเชื่อถือ จนไม่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นตัวแทนของพ่อแม่พี่น้องในฐานะ ส.ส.สระแก้ว เขต 1 และยังต้องการให้เปิ้ลต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และอาจจะติดคุกติดตารางอีกด้วย
“ถือว่าเป็นการกระทำที่เลวร้ายมากในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เปิ้ลไม่เคยคิดเลยว่า การที่เปิ้ลอาสามาลงสมัครรับเลือกตั้งสนามใหญ่ (ส.ส.) เปิ้ลจะถูกกระทำถึงขนาดนี้ เปิ้ลถูกใส่ร้ายด้วยการทำเอกสารเท็จ รวมทั้งมีการปลอมลายเซ็นของบุคคลอื่น แล้วส่งข้อมูลเหล่านั้น ไปให้คุณชูวิทย์ นำไปออกข่าว และเสนอผ่านสื่อต่าง ๆ เขาต้องการทำเพื่อให้เปิ้ลมีความผิดทางอาญาเลยนะคะ”
โดยเพจ”ดรุณี พูนประสิทธิ์ อดีต สจ.สระแก้ว” ระบุอีกว่า “แต่ครั้งนี้ ฟ้ายังมีตาค่ะ คนที่ตั้งใจ กระทำความดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมคุ้มครอง เปิ้ลได้รับหลักฐานทั้งหมดจากคนที่รักและศรัทธาในตัวเปิ้ลแล้วค่ะ ซึ่งต่อจากนี้ไปก็คงจะเป็นหน้าที่ของทีมกฎหมายในการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่ให้ร้ายเปิ้ลให้ถึงที่สุดค่ะ พ่อแม่พี่น้องชาวสระแก้วคะ ไม่ว่าเปิ้ลจะถูกทำลาย ถูกกลั่นแกล้งหนักแค่ไหน เปิ้ลก็พร้อมจะต่อสู้ต่อไป เปิ้ลขอขอบคุณทุกกำลังใจ ที่มีให้เปิ้ลนะคะ เปิ้ล ดรุณี พูนประสิทธิ์ เบอร์(1)”
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวตรวจสอบกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมล่าสุด พบว่า นาย อ.หรือผู้ที่ตกเป็นข่าวว่า มีการร้องเรียนกรณีดังกล่าว ได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.(หญิง)สุวรรณา เอี่ยมจำรัส พนักงานสอบสวน สภ.บ้านทับใหม่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ว่า กรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้กล่าวหานางดรุณี พูนประสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 สระแก้ว ได้มาซื้อเสียงกับตนเองนั้น ไม่เป็นความจริง และตนไม่เคยให้ข้อมูลกับนายชูวิทย์ และไม่เคยพบเจอนายชูวิทย์ฯ ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ส่วนเงินที่กล่าวหานั้น ตนเคยไปช่วยงานนางดรุณีฯ ก่อนจะมีการเปิดรับสมัคร ส.ส. ต่อมาได้ป่วยเข้า รพ.จึงไม่สามารถไปช่วยงานได้ แต่เข้าใจว่านางดรุณียังค้างค่าแรงอยู่จำนวน 3,000 บาท แต่นางดรุณีเข้าใจว่า ให้ค่าแรงครบแล้ว จึงขอยืมเงินจำนวน 3,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหลังจากออกจาก รพ.
ต่อมา ได้มีนาย ท. หรือชื่อเล่นว่า ต.เต่า (คนขับรถของนักการเมืองดังรายหนึ่ง) ซึ่งเป็นคนรู้จักและได้มาขอบัตรประจำตัวประชาชนของ นาย อ.เพื่อถ่ายรูปด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมด้วยลายเซ็นต์ของตนเองไป และขอภาพสลิปการโอนเงินที่นางดรุณีฯ โอนมายังตนเอง จำนวน 3,000 บาทด้วย โดยนาย ท.หรือชื่อเล่น ต.เต่า บอกว่า จะนำไปทำเรื่องให้เป็นผู้ช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้ง ตนเชื่อดังนั้นจึงให้ข้อมูลไป ต่อมาเห็นว่า นายชูวิทย์ฯ ได้แถลงออกทางสื่อโดยนำข้อมูลดังกล่าวของตนเอง แสดงกับสื่อฯ จึงสันนิษฐานได้ว่า นาย ท.หรือชื่อเล่น ต.เต่า เป็นผู้นำข้อมูลของตนไปให้กับนายชูวิทย์ฯ ทำให้ตนได้รับความเสียหาย จึงแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน
ขณะเดียวกัน เบื้องต้นในส่วนของพรรคภูมิใจไทย โดยนายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า ในส่วนของ นางดรุณี พูนประสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 1 กรณีสลิปโอนเงิน เป็นบทสนทนาต่อเนื่อง เพราะเป็นทีมงานช่วยหาเสียง มีอาการป่วยหนัก ส่งภาพนอนป่วยมา และขอยืมเงินจากผู้สมัคร จึงให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ไม่ใช่จ่ายเพื่อซื้อเสียง ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ฯ ไปร้องเรียน กกต. จึงถือว่ากระทำผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 143 ยื่นเรื่องร้องเรียนเป็นเท็จกับนางดรุณี และกระทำผิดตาม พ.ร.ป.คณะกรรมการเลือกตั้ง มาตรา 101 ซึ่งมีโทษทางอาญา ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการกับนายชูวิทย์ต่อไป
—————————-
