ปราจีนบุรี – ไฟไหม้บ้านพนักงานขับรถขยะ ขณะกลับเข้าบ้าน ถึงกับเข่าอ่อน ไฟลุกไหม้บ้านทั้งหลัง พื้นที่ ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.สุวิทย์ ซุยจูญ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้บ้านพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หลังได้รับแจ้ง จึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านไม้ ปลูกแบบยกสูง ไฟไหม้ บ้านหมดทั้งหลัง รถดับเพลิง อบต.ท่าตูม หนองโพรง และเทศบาลศรีมหาโพธิ จำนวน 10 คัน ระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงจนสงบ แต่เพลิงได้เผาผลาญบ้านหมดไปทั้งหลังแล้ว ไม่เหลืออะไรเลยเหลือเพียงโครงสร้าง พอได้มองเห็นเป็นรูปร่างบ้าน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านและนอกบ้าน ถูกเพลิงไหม้จนหมด และเป็นที่น่าสงสาร ได้มีสุนัข ตัวหนึ่งที่เจ้าของได้ล่ามโซ่ไว้ติดกับเสาบริเวณใต้ถุนบ้าน พยายามที่จะตะเกียกตะกายเพื่อหนีเปลวเพลิง โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ ฉีดน้ำเพื่อช่วยบรรเทาความร้อน และหาอุปกรณ์มาตัดโซ่ ออกมาได้ และทราบว่า มีสุนัขเพศผู้ อยู่บนบ้านอีก 1 ตัว ชื่อเจ้าเฉาก๊วย ได้หนีรอดออกมาได้ ส่วนตัวที่อยู่ข้างล่างชื่อว่า เจ้าหมูหวาน
จากการสอบถาม นายประโยชน์ เอี่ยมโอด อายุ 48 ปี ถึงเป็นเจ้าของบ้านเลขที่ 85/1 หมู่ 4 ตำบลหนองโพรง บ้านที่เกิดเหตุ ได้บอกว่า ตนเอง ได้ทำงานอยู่ที่ อบต.หนองโพรง มีหน้าที่ขับรถเก็บขยะ บอกว่า เมื่อคืนได้ไปทำงานตั้งแต่ 02.00 น มีเพียงภรรยาและลูกสาว อยู่บ้านและในตอนเช้าภรรยาได้ทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่ง ใกล้กลับบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนลูกสาวได้ ไปเรียนที่วิทยาลัยเทคนิคบูรพา
กระทั่ง ช่วงเวลา 08.00 น.เลิกงาน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้าน 5 กม.เมื่อขับรถถึงบ้าน พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านตนเองหมดไปประมาณเกือบครึ่งหลังแล้ว ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก มือไม้อ่อน เข่าอ่อนไปหมด จึงได้รีบแจ้งขอรถดับเพลิงของ อบต.ที่ตนเองทำงานอยู่ ให้มาช่วยดับไฟที่ลุกไหม้บ้าน แต่ไม่สามารถที่ดับเพลิงได้ ไฟไหม้บ้านหมดทั้งหลัง ส่วนทรัพย์สินที่อยู่ภายในบ้าน ได้สอบถามภรรยาตนเองว่า มีเงินอยู่ประมาณ 2-3 หมื่นบาท และสร้อยทองอีก 50 สตางค์ ส่วนเงินจะเอาไว้เป็นค่าเทอมลูก ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเหมือนกับสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดเหตุ นายรัชกิต พยัคฆ์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ และทางนายก อบต.หนองโพรง และ นายกเทศบาลตำบลศรีมหาโพธิ์ ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ จะได้หาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
——————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
