สระแก้ว – ระดมชุดสืบสวนคลีคลายคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชายแดน จ.สระแก้ว จับเพิ่มอีก 5 ราย รวมจับแล้ว 6 ราย บิ๊กโจ๊กเตรียมบินด่วนลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้นตอเหตุฆ่ายกครัว 3 ศพ ที่ จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 30 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีฆ่ายกครัว 3 ศพ ที่ จ.สมุทรปราการ โดยนายสาณิช ดอกไม้ อายุ 41 ปี ก่อเหตุฆ่ายกครัว ภรรยาและลูก 3 ศพ ก่อนจะพยายามฆ่าตัวตาย แต่บาดเจ็บสาหัส สาเหตุมาจากหนี้สินบ้านจะถูกยึด เนื่องจากไปค้ำประกันนายจ้าง และภรรยาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงิน จนเป็นหนี้มากถึง 1.7 ล้านบาท ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว สามารถจับกุม น.ส.สุชาดา ชาบุตรศรี อายุ 19 ปี ที่อยู่ 9102 หมู่ 9 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ผู้ต้องหา 1 ใน 5 เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 620/2566 ลง 28 สิงหาคม 2566 ในข้อหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์” เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ก่อนด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จะปิดด่านในช่วงเวลา 22.00 น.
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจากส่วนกลาง ตำรวจภูธรภาค 1, ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และตำรวจท้องที่ ได้ระดมกำลังเข้าตรวจค้นบ้านและตรวจสอบพื้นที่หลายจุด เพื่อขยายผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลือ ภายหลังทำการสอบสวน น.ส.สุชาดาฯ ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีม้าแถวที่ 1 และเป็นผู้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใน จ.สระแก้ว รวม 17 ครั้ง กว่า 900,000 บาท ก่อนนำเงินสดจากฝั่งไทยข้ามกลับไปให้หัวหน้าแก๊งฯที่ฝั่งกัมพูชา ถูกนำตัวไปชี้จุดต่าง ๆ จากนั้น ได้ควบคุมตัวไปฝากคุมขังไว้ที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เพื่อรอส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ นำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีตามหมายจับ
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากหัวหน้าชุดสืบสวนคนหนึ่ง บอกว่า ผลการสอบสวนขยายผล ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของบัญชีมาแถวที่ 1 และแถวที่ 2 รวม น.ส.สุชาดาฯ ด้วย รวมเป็น 6 ราย ส่วนผู้ร่วมขบวนการและตัวผู้บงการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบว่า มีฐานที่ตั้งอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้างานกำกับดูแลด้านการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อติดตามคดีด้วยตนเองในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.) และแถลงความคืบหน้าคดี นอกจากนั้น ทางตำรวจยังได้มีการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 11 ราย มีทั้งคนจีน คนไทย และกัมพูชา
ข่าวน่าสนใจ:
ขณะเดียวกัน ช่วงเวลา 13.28 น. พ.ต.ต.สุวิทย์ พรมน้อย สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.1 ร่วมกับ ร.ต.อ.พชร บุญอินราทากูร รอง สว.สส. สภ.อรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้นำผู้ต้องหา 1 ใน 5 ที่จับกุมได้เพิ่มเติม ไปลงบันทึกจับกุมกับ ร.ต.อ.หญิง อภิญญา นามวงษา รอง สว.(สอบสวน) พนักงานสอบสวนเวร สภ.อรัญประเทศ ภายหลังร่วมกันจับกุมตัว นายวัชรพงษ์ ครูศรี อายุ 28 ปี ได้ที่ข้างบ้านเลขที่ 260 ม. 3 ต.เมืองไผ่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 621/2566 ลง 28 ส.ค. 2566 ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ฯ” พร้อมกับนำตัวนายวัชรพงษ์ฯ เจ้าของบัญชีม้าฯ ไปสอบสวนและควบคุมตัวไว้ เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นท้องที่ที่เกิดเหตุ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด เวลา 17.30 น. พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกับ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว, พ.ต.ท.จิรพัฒน์ เขียวศิริ สว.ส.ทท.สระแก้ว , เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1302 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13, ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ณัฐณิชา หรือบีม ดีโสภา อายุ 23 ปี ที่อยู่ 8 ม.9 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาเจ้าของบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อีก 1 ราย ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ จ.632/2566 ลงวันที่ 29 ส.ค.66 ในข้อหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลซึ่งใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ฯ” ได้ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว
สำหรับ น.ส.ณัฐณิชาฯ ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ล่าสุด ได้เดินทางข้ามมาจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อกลับเข้าประเทศไทย ซึ่ง เธอ ยอมรับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปลงบันทึกจับกุม พร้อมแจ้งการจับกุมไปยังพนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว มี น.ส.ศุภวา จมะวัตร ตำแหน่งอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และแจ้งฝ่ายปกครองอำเภออรัญประเทศ มี น.ส.บุษราภรณ์ หนูแก้ว ตำแหน่งปลัดอำเภอ เป็นผู้รับแจ้ง ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ก่อนจะควบคุมตัวไปสอบสวน และคุมขังไว้ที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้แล้วในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของบัญชีมาแถวที่ 1 และแถวที่ 2 รวมจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย น.ส.สุชาดา ชาบุตรศรี อายุ 19 ปี, นายวัชรพงษ์ ครูศรี อายุ 28 ปี ,น.ส.ณัฐณิชา หรือบีม ดีโสภา อายุ 23 ปี ส่วนอีก 3 ราย จับกุมได้ในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว 1 ราย และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นชาวกัมพูชา ซึ่งทำหน้าที่มากดเงินสดออกจากตู้ ATM มาทำการสอบสวนที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว อีก 2 ราย รวมทั้งได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นบ้านพัก พบทั้งเครื่องนับเงินและเงินสด รวมทั้งสมุดบัญชีอีกจำนวนหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.) มีรายงานแจ้งว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซึ่งมีกำหนดเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาที่ชายแดน จ.สระแก้ว โดยจะข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา ไปเจรจากับ นายตำรวจระดับสูงของกัมพูชา เพื่อขอความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ที่ใช้ประเทศกัมพูชา เป็นฐานหลอกลวงคนไทยด้วย
————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: