X

สุดทน!!ช้างป่าบุกหมู่บ้าน 3 เดือน เรียกร้องเร่งผลักดันหลังช้างเพิ่ม 8 ตัว เตรียมยื่นร้องผู้ว่าฯ แก้ทันที

สระแก้ว – ช้างป่าบุกหมู่บ้าน 3 เดือน ชาวบ้าน 3 ตำบลเดือดร้อนหนัก เรียกร้องหน่วยงานเร่งผลักดันหลังช้างป่าเพิ่มจำนวนจาก 3 ตัว เป็น 7-8 ตัว เตรียมยื่นร้องผู้ว่าฯสระแก้ว แก้ปัญหาทันที ปัจจุบันชาวบ้านต้องหวาดระแวงรายวัน หลังช้างป่ามีพฤติกรรมเกรี้ยวกราด ไม่กลัวคน จากเดิมเจอรถช้างจะหนี แต่ปัจจุบันเจอรถช้างวิ่งใส่รถแล้ว มีช้างออกมาเดินตามถนน และเข้าบ้านคนแล้ว ระบุ ที่ผ่านมาการผลักดันของเจ้าหน้าที่ล่าช้า วิ่งวอนให้ผลักดันออกจากพื้นที่ทันที

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว ที่ชาวบ้านในพื้นที่ ม.6 บ้านบ่อลูกรัง ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ต้องหวาดผวากับจำนวนช้างป่าที่เพิ่มจำนวนขึ้น จาก 3 ตัว เป็น 7-8 ตัว เข้าทำลายพืชผลการเกษตร ไร่นา สวนผลไม้ และอุปกรณ์ทำกินของชาวบ้านรายวัน ล่าสุด ช้างเข้ามาเดินหากินในหมู่บ้าน สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือน จนชาวบ้านไม่กล้าออกจากบ้านหรือเข้าไปทำสวน เก็บของป่าในพื้นที่ป่าชุมชนรอบหมู่บ้าน เกรงว่า จะถูกช้างป่าทำร้าย ขณะเดียวกัน ผลกระทบไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะบ้านบ่อลูกรัง เพราะพื้นที่รอบบริเวณแนวเทือกเขาภูหีบ เขตรอยต่อพื้นที่ 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.วังน้ำเย็น ต.ตาหลังใน และ ต.พระเพลิง อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน จากเดิมไม่เคยเกิดปัญหาลักษณะนี้มาก่อนในอดีต ทุกวันนี้ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องระดมจัดชุดปฏิบัติการป้องกันช้างป่า ประกอบด้วย ชรบ. ,สมาชิก อบต. และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ร่วมกันจัดชุดออกลาดตระเวนรอบพื้นที่ทุกคืน ตั้งแต่เวลา 16.00 น.ไปจนถึง 24.00 น.เพื่อป้องกัน ผลักดันและแจ้งเตือนภัยชาวบ้าน จึงต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาแก้ปัญหาด้วยการผลักดันช้างป่าจำนวนดังกล่าว กลับไปยังเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน ซึ่งอยู่ห่างออกไป ประมาณ 30 กม.ทันที


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเกือบ 40 ราย เดินทางมารวมตัวกัน เพื่อจัดทำประชาคมที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์ วัดบ่อลูกรัง ม.6 ต.คลองหินปูน โดยมี นายวันดี บุตรดี สารวัตรกำนัน ต.คลองหินปูน ,นางเดือนฉาย บัวสันเที๊ยะ ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านบ่อลูกรัง ,ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.คลองหินปูน และชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไนและกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช รับทราบปัญหาความเดือดร้อนและแก้ปัญหานี้ทันที ไม่ใช่แค่ส่งเจ้าหน้าที่มาดูช้าง แล้วปล่อยให้ช้างเข้าป่าไป แล้ว จนท.ก็กลับไป ตอนเย็นและกลางคืนช้างป่าก็ออกมาทำลายพืชผลการเกษตรของชาวบ้านอีกรายวัน สร้างความเดือดร้อน หวาดกลัวให้กับชาวบ้านอย่างมาก


น.ส.สุกัญญา คนคล่อง อายุ 26 ปี เจ้าของสวนกล้วย มะพร้าว และพืชสวนติดแนวเขาภูหีบ เล่าว่า เคยเจอช้างป่าจัง ๆ ขณะช้างขึ้นมาจากน้ำเมื่อช่วง 2 เดือนที่แล้ว ช้างยังตกใจเสียงรถ ช้างจะวิ่งหนี แต่ตอนนี้ช้างป่าเจอรถเรา ช้างจะวิ่งใส่รถเรา ตอนนี้ช้างมีความเกรียวกราดมากขึ้น เพราะการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ล่าช้า ช้างออกมาหากิน ไม่กลัวคน เดินตามทาง ขี้กลางถนน เดี๋ยวนี้ไม่เดินเลาะป่ามาแล้ว เดินมาตามทางเข้าบ้านคนด้วย พืชผลได้รับความเสียหาย เราโดนเหยียบท่อ พืชผลโดนทำลาย ทุกวันนี้ชาวบ้านไม่มีของไปขาย เป็นหนี้สินก็มี จึงอยากให้ จนท.เข้ามาช่วยเหลือจริง ๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่บอกว่า ทำไมไม่หันไปปลูกอย่างอื่น ยางนา หรือยูคาลิปตัส พ่อแม่พาทำมาแบบนี้ ทำไมเค้าไม่คิดจะช่วยเหลือหน่อยหรือ ถ้าไม่ช่วยเหลือก็ช่วยแสดงความเห็นใจหน่อย คุณคือข้าราชการ อยากให้ช่วยเหลือชาวบ้านจริง ๆ ชาวบ้านไม่ไหวแล้ว


นายบังเอิญ กันแพงศรี อายุ 76 ปี ที่อยู่ 103 ม.6 ต.คลองหินปูน เจ้าของสวนผลไม้และทำน้ำหมักชีวภาพ บอกว่า ถูกช้างเข้าไปทำลายสวนผลไม้และถังหมักชีวภาพ ลงทุนถังละ 2-3 หมื่นบาท ช้างเข้าไปเตะทำลายทีละ 5 ถัง ส่วนต้นไม้ไหนที่ราคาแพง ๆ ต้นนั้นเค้าจะกิน ต้นไม้ที่ราคาถูก ต่ำกว่า 5 พันบาท ช้างไม่กิน เดือดร้อนมาก กลางคืนถ้าได้ยินหมาเห่า และหมาวิ่งถอยหลัง แสดงว่า ช้างป่าเข้ามาที่สวนแล้ว เดือดร้อนจริง ๆ อยากให้มีการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังด้วย


“ช้างป่าเข้าไปตรงไหนก็แหลกตรงนั้น เพราะเค้าตัวใหญ่ อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้าน เพราะชาวบ้านก็ไม่มีปัญญาที่จะไปผลักดัน มีสวนมะละกอ ป่าอ้อย ไร่ข้าวโพด ตอนนี้ช้างป่าไปสำรวจทั่วหมดว่า มีอะไรกินได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยผลักดันจริง ๆ จัง ๆ ชาวบ้านเดือดร้อนทุกครัวเรือนในพื้นที่ ม.6 ถ้าไม่เดือดร้อนจริง ๆ คงไม่มาประชุมมาพูดคุยกันแบบนี้” ชาวบ้านที่เดือดร้อน กล่าว


นายธาดา เธียรบูรพา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ต.คลองหินปูน หนึ่งในชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังช้างป่า กล่าวว่า ทุกวันนี้ต้องรวมตัวกันโดยชุด ชรบ.จะมารวมตัวกันประมาณ 4-5 โมงเย็น เพราะช้างจะออกหากินช่วงเวลา 16.00 น.โดยจะออกลาดตระเวนตามแนวในโซน ต.คลองหินปูน 3 หมู่บ้าน ส่วนชุดของตำบลอื่น ๆ เช่น ต.ตาหลังใน ต.วังน้ำเย็น ก็จะเฝ้าระวังฝั่งตำบลของตัวเอง เมื่อเข้าไปในจุดที่พบว่า มีช้างป่าออกมา จะมีการจุดลูกบอลระเบิดปิงปองเพื่อไล่ให้ช้างไม่เข้าพื้นที่ชุมชน ตอนนี้ช้างเพิ่มขึ้นจาก 3 ตัวเมื่อ 3 เดือนก่อน เพิ่มเป็น 7-8 ตัว โดยพบว่า ช้างไปชวนกันมาจากพื้นที่ป่าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดนี้ประมาณ 30 กม. มาอยู่ในพื้นที่นี้ สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ทางชุด ชรบ.และฝ่ายปกครอง ต้องระดมกันออกมาเพื่อลาดตระเวนเฝ้าระวังให้ชาวบ้าน โดยทางผู้ใหญ่บ้านและกำนัน จะสนับสนุนลูกบอล ระเบิดปิงปอง เพื่อจุดให้มีเสียง เพื่อขับไล่ช้างป่าออกไปเบื้องต้นเท่านั้น


“วันนี้ยังไม่มีชาวบ้านหรือชุดเฝ้าระวัง ได้รับบาดเจ็บจากการถูกช้างทำร้าย แต่แปลงเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหายไปเยอะ ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง ไม้ยูคาฯ มะพร้าว มะม่วง เสียหาย ได้รับผลกระทบ ทุกวันนี้ชาวบ้านทำได้แค่ลาดตระเวนและเฝ้าระวังเท่านั้น และสนับสนุนหน่วยงานเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์อ่างฤาไนในการเข้ามาผลักดันช้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่มาแค่ลาดตระเวนร่วม พอช้างเข้าป่าก็หาช้างไม่เจอ แล้ววันต่อไปช้างก็ออกมาสร้างความเดือดร้อนอีก ก่อนหน้านี้ช้างมีแค่ 3 ตัว ตอนนี้เพิ่มเป็น 7-8 ตัว กลางวันก็จะหลบอยู่ในหุบเขา ตอนเย็นและกลางคืนก็จะออกมาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเป็นรอบ ๆ ช่วง 4 โมงเย็น 4 ทุ่ม ตี 1-2 และประมาณตี 4 ช้างก็จะกลับเข้าไปหลบในป่า ” นายธาดา กล่าว


นายวันดี บุตรดี สารวัตรกำนัน ต.คลองหินปูน กล่าวว่า ปัญหาช้างป่าที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านหลายตำบลขณะนี้ ตนเองเข้าประชุมหลายครั้ง ไม่มีวิธีการหรือการแก้ไขเลย คำว่า ชุดผลักดันช้าง ซึ่งเขาเราคือชุดปฏิบัติการที่เราขอความร่วมมือ ชรบ. ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครองมาช่วยกันป้องกัน ไม่ให้มันมาทำความเสียหายให้พี่น้องชาวบ้าน แต่หน่วยงานทุกหน่วยงานไม่มีการมาช่วยชาวบ้านเลย วันนี้เราเดือดร้อนมาก ๆ ไปประชุมร่วมกันหลายครั้งไปถกเถียงกันหลายรอบ ไม่มีการเยียวยาชาวบ้านที่เดือดร้อน ไม่ใช่ไม่มีงบ เยียวยาชาวบ้านแค่เอาถุงยังชีพมาแจก มันจะพอค่าเสียหายของเรามั้ย ตอนนี้อย่างเดียวที่ชาวบ้านต้องการคือ ให้เจ้าหน้าที่มาผลักดันช้างป่าออกไปจากพื้นที่นี้ ให้ช้างกลับคืนไปอยู่ที่ของเค้าในป่าอ่างฤาไน ซึ่งถ้าช้างออกไปจากพื้นที่นี้ไปแล้ว ชาวบ้านจะไม่ได้รับความเดือดร้อนเลย


ขณะที่ นางเดือนฉาย บัวสันเที๊ยะ ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านบ่อลูกรัง กล่าวว่า ตอนนี้ช้างป่ามาอยู่ในพื้นที่บ้านบ่อลูกรังประมาณ 3 เดือน สร้างความเดือดร้อนอย่างมากให้กับชาวบ้าน 20-30 ครัวเรือน โดยเข้ามาทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการเหยียบท่อ พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่จะกู้เงิน ธกส.บางคนแทบจะไม่เหลืออะไรเลย บางคนถูกช้างกินหมด 5 ไร่ 10 ไร่ ตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อน เดือดร้อนจริง ๆ วิงวอนหน่วยงานให้เข้ามาช่วยเหลือ หรือมาเยียวยากับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนพืชผลทางการเกษตรเสียหายจากช้างป่า อยากให้มีชุดผลักดันช้าง มาผลักดันจริง ๆ จัง ๆ


“ทุกวันนี้ชาวบ้านแก้ปัญหาด้วยการหลีกเลี่ยง ไม่มีใครกล้าสัญจรไปมา ชาวบ้านกลัวช้าง มีแค่ชุดปฏิบัติการผลักดันช้างของตำบลที่คอยไปตรวจสอบว่า ช้างอยู่จุดไหน เพื่อแจ้งผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านให้ระวัง ทำได้แค่จุดลูกบอลระเบิดปิงปองให้เกิดเสียงดัง เพื่อไล่ช้างออกไปจากจุดนั้น ให้เสียหายน้อยที่สุด ทำได้แค่เฝ้าระวัง และตอนนี้ช้างป่าเข้ามาถึงบ้านชาวบ้านและในหมู่บ้านแล้ว ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวหวาดระวังกันหมด กลัวช้างจะทำร้ายชาวบ้าน ไม่อยากให้มีเหตุลูกบ้านเสียชีวิตจากช้างป่าทำร้าย เพราะส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและเด็กที่อยู่บ้าน สิ่งที่ต้องการขณะนี้คือ อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง มาผลักดันช้างออกจากพื้นที่ทันที” ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านบ่อลูกรัง กล่าว


อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาช้างป่า ได้ร่วมกันทำประชาคมและยกมือลงมติ เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหานี้ โดยชาวบ้านจะมีการนำรายชื่อและข้อมูลปัญหาดังกล่าว ร้องเรียนส่งไปยัง นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ขอให้นำปัญหานี้เข้าสู่การแก้ไขอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ร่วมเดินทางออกลาดตระเวนร่วมกับชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังช้างป่าของชาวบ้านและชุด ชรบ. ต.คลองหินปูน ในพื้นที่ใกล้กับจุดที่ช้างป่าใช้เป็นแหล่งหลบซ่อนตัว และเส้นทางรอบเขาภูหีบ พบร่องรอยการออกมาหากินในพื้นที่การเกษตรและชุมชนของช้างป่า ซึ่งชุดปฏิบัติการของชาวบ้านฯต้องมีการจุดลูกบอลระเบิดปิงปอง เพื่อให้เกิดเสียง ขับไล่และผลักดันช้าง ตามจุดและเส้นทางที่พบร่องรอยช้าง ตลอดเส้นทางด้วย

—————————–

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"