สระแก้ว – พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แคนดิเดต ผบ.ตร.ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ระบุให้ความสำคัญเรื่องสวัสดิการของตำรวจผู้ปฏิบัติงาน เตรียมผลักดันแก้ พ.รบ.ตำรวจใหม่ ที่เป็นอุปสรรคกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีของตำรวจกับผู้มีอิทธิพล ขอให้หัวหน้าหน่วย ระมัดระวังการเข้าไปร่วมกิจกรรมหรือร่วมงาน เลี่ยงได้ก็เลี่ยง
เมื่อวันที่ 22 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.เดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจที่ สภ.ปางสีดา และ สภ.เขาสิงโต อ.เมืองสระแก้ว หลังเกิดวิกฤตศรัทธาจากกรณีปัญหาข้าราชการตำรวจเสียชีวิตและมีส่วนพัวพันกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.นครปฐม ภายหลังแล้วเสร็จจากการเดินทางไปตรวจเยี่ยมในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่สนาม ฮ. โรงเรียนบ้านหนองเตียน จ.สระแก้ว เมื่อช่วงเย็นวานนี้ โดยมี พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ,รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ,ผกก.สภ.ทุกแห่งในจังหวัด ข้าราชการตำรวจและกำลังพลของ สภ.ปางสีดาและ สภ.เขาสิงโต โดยมีคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.)ในพื้นที่เข้าร่วมต้อนรับ อาทิ นายไพโรจน์ เที่ยงธรรม นายก อบต.บ้านแก้ง ในฐานะประธาน กต.ตร สภ.เขาสิงโต และกรรมการ กต.ตร.เข้าร่วม โดยบรรยากาศการตรวจเยี่ยมเป็นไปด้วยความเป็นกันเอง ซึ่ง รอง ผบ.ตร.ได้มอบถุงสิ่งของบำรุงขวัญให้กับข้าราชการตำรวจ พร้อมทั้งพูดคุยแนวทางการผลักดันนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สอดรับกับการทำงานของตำรวจในพื้นที่ขณะปฏิบัติงานจริง รวมทั้งเป็นไปตามหลักกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจใหม่ ซึ่งหลายเรื่องเป็นอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะทำเป็นคู่มือพกติดตัวได้ รู้ว่าตำรวจทำอะไรได้บ้าง ทำอะไรไม่ได้บ้าง ต้องมีอุปกรณ์ มีกล้อง รวมทั้งการจัดหาเครื่องมือให้พร้อมปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย เช่น อาวุธยุทโธปกรณ์ ปืนไฟฟ้าซึ่งเป็นอาวุธทางเลือก เสื้อกันกระสุน เสื้อสะท้อนแสง เป็นต้น
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 สภ.ว่า การทำงานของตำรวจยุคนี้ค่อนข้างมีอุปสรรคหลายอย่าง ซึ่งได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีไปว่า พ.ร.บ.ตำรวจใหม่ที่เป็นอุปสรรคในการทำงานบางอย่าง ก็ต้องขอให้มีการแก้ไขข้อกฎหมาย เช่น การจัดเก็บข้อมูลวีดีโอ ซึ่งงบประมาณการจัดเก็บจะมหาศาลมาก กว่าคดีจะสิ้นสุด พร้อมทั้งสั่งการเสมอว่า เมื่อมีงบประมาณเพื่อดำเนินการอะไรไปยังโรงพัก ขอให้สั่งจ่ายไปยังผู้ปฏิบัติงานเต็มร้อย อย่าไปหักของเด็ก เพราะค่าเสี่ยงภัยตำรวจมีแค่ 3,000 บาท งานสอบสวนยังมี 12,000 บาท แต่งานปราบปราม งานสืบสวน มีแค่ 3,000 บาท เวลาโดนด่า มีเรื่อง ต้องติดคุก ค้านประกัน เมื่อองค์กรมีปัญหาในโรงพัก ขอให้ ผกก.เก็บกวาดใส่ไว้ในบ้านเรา อย่ากวาดออกมาข้างนอกจนเกิดปัญหาให้อาย หากเกิดการร้องเรียนไปที่พระจันทร์ลายกระต่าย ตนจะเรียก ผกก. ,รอง ผกก., สารวัตร และคู่กรณีไปหาที่ สตช.เพื่อพูดคุยและแก้ปัญหาไปพร้อม ๆ กัน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยด้วยว่า ผบ.ตร.สั่งการให้ลงมาดูปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจในระดับโรงพัก ซึ่งได้ไปตรวจเยี่ยม ตชด.ที่อยู่ตามแนวชายแดน มอบแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ว่า มีขอบเขตอำนาจหน้าที่อย่างไร ซึ่งนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญกับระดับโรงพักเป็นอันดับแรก เวลาพี่น้องประชาชนมาก็จะเจอที่โรงพักก่อน ถือเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อน บางพื้นที่มีตำรวจเพียง 1 ต่อ 500 ของประชาชน ถือว่าเราอยู่บนความขาดแคลน น้ำมันก็ขาดแคลน ถูกตัดตัวเงินค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นหน้าที่ของระดับสูงที่จะต้องไปแก้ปัญหาให้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่า ขอให้พยายามสร้างภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วงนี้ขาดแคลนอะไร ขอให้บอกไป ซึ่งก็จะได้นำเรียน ผบ.ตร.และนำเรียนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กต.ตร.ต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจต้องเตรียมการเพื่อตั้งรับการเปิดฟรีวีซ่า ให้กับนักท่องเที่ยวจีนและคาซักสถาน เพื่อไม่ให้องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหรือมิจฉาชีพจะเข้ามาในประเทศไทยด้วย
นอกจากนั้น รอง ผบ.ตร. ยังกล่าวถึงกรณีของตำรวจกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ว่า “กรณีเหล่านี้บางครั้งตำรวจเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องเข้าไปพบหรือพูดคุยกับผู้มีอิทธิพลหรือผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่ต่าง ๆ เพราะไม่ใช้ผู้มีอิทธิพลทั้งหมด บางครั้งผู้หลักผู้ใหญ่ที่คนให้ความเคารพนับถือเชิญไป สำหรับตำรวจถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง แต่สำหรับกรณีที่มีเหตุเกิดขึ้น การตัดสินใจที่จะเข้าไปแก้ปัญหา ลดปัญหา นี่คือสิ่งที่ต้องทำ เราไม่อยากให้เกิดเหตุ ตรงนั้นเป็นอารมณ์ชั่ววูบ อะไรที่เราไม่ได้อยู่หน้างานเราไม่รู้หรอก ซึ่งต้องไปนี้จะเป็นตัวอย่างให้กับหัวหน้าหน่วยราชการ ไม่เฉพาะตำรวจ ในการที่จะไปร่วมงานลักษณะแบบนี้ ต้องระวัง ต้องมีระยะห่าง เช็คระยะดูซักนิด ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการสั่งการเรื่องนี้ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว นายกรัฐมนตรีก็สั่งการมาเช่นกัน ซึ่งวัฒนธรรมองค์กรของแต่ละพื้นที่ แต่ละภาคไม่เหมือนกัน บางจังหวัดมี บางจังหวัดไม่มี โดยต้องรู้ว่าหน้าที่ของเราคืออะไร และทำได้แค่ไหน ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าว
—————————-
ข่าว-ภาพโดย/รักพงษ์ กิตติวรเมธี ,ธนภัท กิจจาโกศล ,เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์, สมศักดิ์ ปัญญาสัย ทีมข่าวสระแก้ว
