X

สั่งยุติฝังซากหมูเถื่อน ชาวบ้านโวยกลิ่นโคตรเหม็น สั่งทำประชาคมด่วน หลังชาวบ้านเตรียมรวมตัวประท้วง

สระแก้ว – ผู้ว่าฯ สระแก้ว มีคำสั่งให้ยุติการฝังซากหมูเถื่อน 4 พันตัน หลังชาวบ้านโวยกลิ่นโคตรเหม็น พร้อมสั่งให้ทำประชาคมด่วน เพื่อชี้ขาดว่า จะสามารถดำเนินการต่อได้หรือไม่ หลังชาวบ้านเตรียมรวมตัวประท้วง เนื่องจากได้รับผลกระทบรุนแรงกลิ่นเหม็นจนทนไม่ไหวแล้ว

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 3 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการฝังกลบซากหมูเถื่อน 4 พันตัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษตรวจยึดเป็นของกลาง จากขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนจากต่างประเทศ จำนวน 161 ตู้คอนเทรนเนอร์ บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งมีการเริ่มขนย้ายมาฝังกลบที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวานนี้จำนวน 20 ตู้ฯ ซึ่งซากหมูส่วนหนึ่งเริ่มเน่าเสียจนส่งผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นบริเวณกว้างตลอดคืนที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบไปที่ นายประสิทธิ์ ต้อยติ่ง ปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคำสั่งใหม่ล่าสุดให้ยุติการฝังกลบไปก่อนไม่มีกำหนด จนกว่าจะประชาคมเสร็จ โดยมีการนัดชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมทำประชาคม เวลา 15.00 น.วันนี้(3 ต.ค.) ที่ศาลาประชาคม ม.3 บ้านเขาตาง๊อก ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว


ทั้งนี้ ปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว เปิดเผยด้วยว่า สำหรับการขนย้ายซากหมูจากแหลมฉบังมาฝังกลบที่ จ.สระแก้ว จะเลื่อนไปก่อนไม่มีกำหนด ส่วนผลการประชาคม ชาวบ้านจะเอาหรือไม่เอา ก็จะตัดสินว่า จะสามารถนำหมูเถื่อนที่เหลือมาฝังกลบได้หรือไม่ โดยนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการเพิ่มเติมให้ปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เข้าดำเนินการประชาคมให้เรียบร้อยก่อน


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงคืนที่ผ่านมาภายหลังมีการนำซากหมูซึ่งกำลังเน่า จำนวน 20 ตู้คอนเทรนเนอร์มาฝังกลบ ปรากฏว่า ส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงตลอดทั้งคืน จนชาวบ้านเตรียมจะออกมาประท้วง เพราะทนไม่ไหวแล้ว เพราะแค่เพิ่งเริ่มฝังมันก็เหม็นเน่า มีชาวบ้านเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นเน่า จนกลางคืนนอนไม่ได้เลย


โดยเจ้าหน้าที่หน่วยฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนโครงการทับทิมสบาย02 ซึ่งมีพื้นที่ติดกับศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ ซึ่งใช้เป็นสถานที่ฝังกลบซากหมูเถื่อน เปิดเผยว่า ทางหน่วยฝึกเราอยู่ด้านขวาของศูนย์วิจัยฯ ซึ่งผลกระทบเรื่องน้ำที่จะไหลผ่านมายังศูนย์ฝึกฯ จะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะอยู่ต่ำกว่า ซึ่งทางศูนย์ฝึกกำลังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ปลูกพืช ไม้ดอกไม้ประดับ และมีเจ้าหน้าที่พักอาศัยอยู่ภายในศูนย์ซึ่งก็เริ่มได้กลิ่นเหม็น เวลาที่ขับผ่านบนถนนด้านหน้าก็จะได้กลิ่นเหม็นแล้วตอนนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่พักอยู่ส่วนหนึ่งบอกว่าคนใน หมู่บ้านศาลาเขียว ตอนนี้เขาเดือดร้อนกันมากเพราะได้กลิ่นเหม็น เต็ม ๆ มองว่า การใช้พลาสติกพีอีที่มีความหนาแค่ 3 มิลลิเมตร ปูก้นบ่อ น่าจะซึมผ่านได้อย่างแน่นอนและผลกระทบจะเกิดขึ้นกับทางศูนย์ฝึกฯ เพราะใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค หรือใช้ในการเกษตรจากน้ำใต้ดิน


ขณะเดียวกัน นายน้อย สุขทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านเขาตาง๊อก กล่าวว่า การฝังกลบซากหมูมีผลกระทบ 2 หมู่บ้าน ตอนที่ทางอำเภอมาประชุมในศูนย์วิจัยฯโดยไม่ประชุมชาวบ้าน บอกแค่ว่า มาฝังกลบตามระบบ มีการแช่แข็งมา แต่ตอนนี้บางตู้เน่าแล้ว แม้จะฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อก็ตาม โดยรถบรรทุกตู้ที่มาจอดรอที่ศูนย์วิจัยฯรอลงอีก 19 ตู้ ถูกสั่งระงับก่อน เพราะชาวบ้านจะอยู่ลำบาก เหม็นรถที่มาจอดรอด้วย เพราะเน่าหมดแล้ว และสิ่งชาวบ้านเป็นทุกข์คือ หมูไม่ใช่น้อย ๆ 4 พันตัน ปัญหาต่อไปน้ำก็จะไหลลงมาในหมู่บ้าน จะเป็นผลกระทบต่อน้ำบาดาลหรือเปล่า ตอนนี้ชาวบ้านเขาไม่ยอมแล้ว มีการร้องเรียนผ่านไปทาง ส.ส.ตรีนุช เทียนทอง จึงมีการประสานให้ระงับไปก่อน


“ตอนแรกบอกว่า จะมาแค่ 70 กว่าตู้ เวลาผ่านไปก็เพิ่มเป็น 161 ตู้ฯ โดยวันนี้ จะมีการทำประชาคมเพื่อตัดสินว่า จะให้ฝั่งกลบหรือไม่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วลงมาด้วย ตอนนี้ชาวบ้านไม่ยอม เพราะถ้ายังเหม็นขนาดนี้ชาวบ้านก็รับไม่ได้ จากกลิ่น ต่อไปจะมีแมลงวัน และปัญหาน้ำใต้ดินเน่าเสียด้วย ตอนคุยกันตอนแรกว่า จะเอามาเป็นแบบแช่แข็งมาฝังเลย ไม่มีกลิ่น แต่พอเอามาจริง ๆ กลิ่นเหม็นจนชาวบ้านไม่ยอมแล้วตอนนี้ ” ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านเขาตาง๊อก กล่าว

—————————

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"