สระแก้ว – “ไอ้หลง”ตั้งวงร่วมก๊วนดื่มสุรา ก่อนมีปากเสียงกันแล้วกลับไปคว้าปืนยาวมาซัลโวใส่เพื่อน 2 นัด บริเวณศีรษะอาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ซึ่งตำรวจออกไล่ล่าใช้เวลา 2 ชั่วโมง สามารถตามจับตัวได้พร้อมปืน 3 กระบอก เบื้องต้น แจ้งข้อหาพยายามฆ่าไว้ก่อน
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 9 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุรพร เทพเสน ผกก.สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลา 18.30 น.คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสูง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกัน จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วราวุฒิ นิตยวัน รอง ผกก.สส.สภ.โคกสูง ,พ.ต.ต.เดชน์ สงวนตระกูล สว.สส.สภ.โคกสูง ,พ.ต.ท.ชินวงศ์ แท่นดี สวป.สภ.โคกสูง และกำลังชุดสืบสวนฯ ชุดป้องกันปราบปราม สภ.โคกสูง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณกระท่อมท้ายหมู่บ้าน พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายณัฐวุฒิ เจียมจักร์ อายุ 31 ปี ที่อยู่ 96 ม.3 ต.หนองแวง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว มีอาการสาหัส หลังถูกยิงที่บริเวณศีรษะ ทะลุกะโหลก จึงเร่งนำตัวส่งรักษาที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพยานหลักฐาน พยานแวดล้อม ทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลในพื้นที่ จึงประสานสนธิกำลังร่วมกับตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมอาวุธครบมือ ออกติดตามไล่ล่าและต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนติดตัวมาด้วย โดยต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สามารถติดตามเข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายชนาธิป พันธุ์แดง อายุ 36 ปี ที่อยู่ 43 ม.10 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ได้ที่บริเวณกระท่อมสวนปาล์มท้ายหมู่บ้านผาสุก ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กม. ไม่มีเลขที่ ม.3 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พร้อมของกลางอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 3 กระบอก ซุกซ่อนไว้ในกองท่อพลาสติก
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายชนาธิป ฯ มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.โคกสูง โดยนายชนาธิปฯ ผู้ก่อเหตุ พยายามหัวหมอใส่ชุดจับกุมว่า ใครเป็นพยานว่าตนไปก่อเหตุและพยายามขัดขืน ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์ที่ห้องพักภายใน สภ.โคกสูง เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ,พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ,ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
————————–
ข่าวโดย/รักพงษ์ กิตติวรเมธี ทีมข่าวสระแก้ว
