สระแก้ว – เปิดเวทีประชาคมเพื่อรับฟังความคิดเห็นชาวบ้าน 7 หมู่บ้าน คัดค้านการสร้างฟาร์มหมูในพื้นที่ ต.หนองแวง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันยกมือ ไม่เอาฟาร์มหมู หวั่นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ของลูกหลานในอนาคต กระทั่ง มีการโหวตยกมือไม่เอาฟาร์มหมู 541 ต่อ 91 เสียง ให้ยกเลิกโครงการ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 10 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาการเปรียญวัดหนองหล่ม ม.4 บ้านหนองหล่ม ต.หนองแวง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง โดยนางวารุณี พงษ์ประเสริฐ นายก อบต.หนองแวง , ตัวแทนนายอำเภอวัฒนานคร ,ตัวแทนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,ตัวแทนปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเวทีประชาคมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน กรณีขอใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภท ฟาร์มสุกร ภายหลังมีการจัดประชาคมครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 ผลปรากฏว่า ไม่ผ่านประชาคม เนื่องจากมีการนำเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี และชาวกัมพูชามายกมือประชาคม ส่งผลให้ต้องมีการจัดทำประชาคมใหม่ โดยบรรยากาศการประชาคมครั้งที่ 2 ระหว่างมีการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมประชุม ปรากฏว่า ระหว่างการลงทะเบียนทำประชาคม มีเจ้าหน้าที่ อบต.หนองแวง พยายามการกีดกันไม่ให้ชาวบ้านในหมู่อื่น นอกเหนือจาก 3 หมู่บ้าน ม.4 ,ม.3 ,ม.1 และรัศมี 1 กม.จากจุดก่อสร้างฯ ทำให้เกิดปัญหาการถกเถียงกันขึ้น จนได้ข้อสรุป ให้ทุกคนใน ต.หนองแวง ซึ่งมีทั้งหมด 7 หมู่บ้าน สามารถเข้าร่วมประชาคมและร่วมโหวตได้ ตามประกาศขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง เรื่อง การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน กรณีขอใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภท ฟาร์มสุกร ลงวันที่ 27 ก.ย.66 บนพื้นที่เกือบ 100 ไร่ ของนายทุนจากพื้นที่ จ.นครราชสีมา ทางด้านทิศเหนือห่างจากหมู่บ้านหนองหล่ม ม.4 ต.หนองแวง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ประมาณ 1 กม.เศษ ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมเวทีประชาคม ประมาณ 632 คน
ทั้งนี้ ชาวบ้านในตำบลหนองแวง ได้ทำประกาศคัดค้านโครงการดังกล่าว และมีการติดป้ายคัดค้านทั่วหมู่บ้าน เนื่องด้วยทางบริษัท มั่นชื่อดี กรุ๊ป จำกัด จะมาเปิดโครงการฟาร์มเลี้ยงสุกรแม่พันธ์ขนาค 5,000 แม่ ของบริษัท เบทาโก ไม่รวมลูกสุกร และคาดว่า 1 แม่พันธ์ น่าจะมีลูกได้ 8 ตัว เมื่อรวมกันก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 ตัว จึงเกรงว่าผลกระทบที่คาคว่า ชาวบ้านจะได้รับในระยะยาว ประกอบด้วย ปัญหา 1.แมลงวัน เป็นพาหะนำโรค เช่น โรคบิด โรคอาหารเป็นพิษ อหิวาต์ตกโรค 2.กลิ่นไม่พึงประสงค์และก๊าซไข่เน่า 3. น้ำเน่าเสียในคลองสาธารณะ 4. หมูส่งเสียงร้องดัง 5.น้ำอุปโภคบริโภคมีสารปนเปื้อน ขณะเดียวกัน วัดในตำบลหนองแวงมีประมาณ 10 วัด โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน 8 โรงเรียน โรงพยาบาลจิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลจิตเวชของภาคตะวันออก (คนละตำบลแต่ไกล้กัน) โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ สำหรับเด็กผู้พิการและด้อยโอกาสใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก กำลังจะก่อสร้างคนละตำบลแต่ไกล้กัน วัดป่าหนองหล่มวนาราม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสวรรค์สำหรับนักบุญ มีผู้คนเข้าออกจำนวนมาก ตำแหน่งราชการ พวกท่านอยู่แค่ 4 ปี ท่านก็ย้ายกลับภูมิลำเนาท่าน ก็ไม่ต้องได้รับผลกระทบมากมายเหมือนชาวบ้านที่เขาเกิดอยู่ที่นี่ จึงขอให้พี่น้องชาวบ้านในพื้นที่ตำบลหนองแวง ร่วมมือกันพิจารณา ผลเสียที่เกิดขึ้นต่อถูกหลานในอนาคต จึงขอให้พี่น้องชาวบ้านในพื้นที่ตำบลหนองแวง ออกมาลงประชามติไม่เห็นด้วยในการสร้างฟาร์มเลี้ยงหมู ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิรุตติ์ อุดมศิลป์ ผู้ประกอบการโครงการดังกล่าว ได้นำรายละเอียดโครงการมาชี้แจงให้ชาวบ้าน อาทิ รูปแบบโครงสร้างอาคาร การ การดำเนินการบ่อบำบัดน้ำเสีย บ่อแก๊ส ระบบบำบัดน้ำเสีย รวมทั้งเปิดวีดีทัศน์รายละเอียดโครงการต่าง ๆ ให้ชาวบ้านได้รับทราบ ซึ่งเวทีดังกล่าวมีทั้งชาวบ้านที่สนับสนุนให้มีการก่อสร้าง และชาวบ้านที่คัดค้านการก่อสร้าง เนื่องจากเกรงว่า จะเกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคต ซึ่งขณะเปิดเวทีให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่เข้าร่วมเวทีประชาคมฯ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการ โดยระบุว่า บ้านไหนที่อยู่ต่ำกว่ารัศมีต่ำกว่า 1,500 เมตร จะไม่สามารถก่อสร้างได้เลย อีกทั้งที่บอกว่า มีกลิ่นเล็กน้อย ซึ่งรับไม่ได้เลย อีกทั้งจะมีปัญหาแมลงวัน จนชาวบ้านไม่สามารถกินข้าวได้เลย ซึ่งมีปัญหามาแล้วในพื้นที่ภาคใต้ และ จ.ชัยนาท จ.เพชรบูรณ์ โดยถามชาวบ้านในพื้นที่ว่า ถ้าเกิดปัญหาจะทำอย่างไร ปิดทันทีเลยหรือไม่
นายธีรพงษ์ ทองนันท์ ชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 บอกว่า กิจการที่มาทำประชาคมบอกชัดเจนว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ชาวบ้านยังจะเอาอีกหรือ ผู้ประกอบการทำเพื่อหวังผลกำไร แล้วเราได้อะไร เราได้ความทุกข์ร้อน ได้ความเดือดร้อน ข้อดีเท่าเส้นผม ข้อเสียเท่าภูเขา แล้วเราจะเอาอีกหรือ เช่นเดียวกับ พระอาจารย์วัดหนองหล่ม บอกว่า เท่าที่อาตมานั่งรถผ่านไปหลายจังหวัด และที่วิ่งผ่านฟาร์มหมู ที่เขาว่าจัดการดี มีบ่อบำบัดน้ำเสีย แต่ว่า ปัญหาก็เกิดขึ้น โดยเฉพาะถนนสาย 359 สระแก้ว-เขาหินซ้อน หลังตลาดท่าเกษม-หนองนกกระเรียน ญาติโยมกำลังบ่นว่า มีปัญหาแมลงวัน พี่น้องจะทนกลิ่นเหม็นขี้หมูตลอดคืนหรือไม่ ไม่เคยเห็นปัญหากลิ่นเหม็นและแมลงวันพื้นที่ไหน สามารถแก้ปัญหาได้ บางพื้นที่มีหมูแค่ 200 กว่าตัว ยังมีปัญหากลิ่นเหม็น แต่โครงการนี้มีมากถึง 5,000 ตัว ชาวบ้านจะทนได้หรือ..?
นายวีระ สว่างชื่น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.4 และชาวบ้านในพื้นที่ ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูจุดที่จะมีการก่อสร้างโครงการนี้ โดยบอกว่า หากมีการก่อสร้างโครงการฟาร์มหมูในพื้นที่นี้ น้ำเสียจากฟาร์มจะไหลออกจากพื้นที่ลงไปในคลองสาธารณะ ไปยังพื้นที่ หมู่ 4 ผ่านพื้นที่ ม.1 ม.2 และไป ม.7 และสู่เข้า ม.6 เข้าสู่ลำน้ำคลองใหญ่ไปยังพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หากเกิดปัญหาจะส่งผลเสียต่อลำน้ำทั้งพื้นที่ อีกทั้งแนวลมที่พัดจากจุดที่จะมีการก่อสร้าง จะพัดไปยังหมู่บ้านหนองหล่มเต็ม ๆ ห่างกันแค่ 1 กม.เศษ นอกจากนั้น จุดก่อสร้างก็อยู่ห่างจาก รพ.จิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ เพียงประมาณ 1 กม.เท่านั้น ต้องได้รับผลกระทบแน่นอน ตนเองคัดค้านโครงการนี้ตั้งแต่ต้นที่มีการประชาคมครั้งแรก เพราะคนที่ได้รับผลกระทบเป็นคนในพื้นที่ล้วน ๆ ตนจึงไม่ต้องการให้มีปัญหาเกิดขึ้น ต่อไปใครจะกล้ามาลงทุนในพื้นที่บ้านเรา
อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายทางผู้ประกอบการได้ชี้แจงเพิ่มเติม และขอไม่ให้มีการโหวตเพื่อให้สามารถอยู่ด้วยกันได้ต่อไป ทำให้ นางวารุณี พงษ์ประเสริฐ นายก อบต.หนองแวง ได้ออกมาชี้แจงว่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทาง อบต.ถูกกล่าวหาว่ามีนอกมีนัยภายหลังและเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย จึงให้มีการโหวตชาวบ้านที่เข้าร่วมเวที จำนวน 632 คน ผลปรากฎว่า ชาวบ้านยกมือโหวตไม่เอาฟาร์มหมู จำนวน 541 คน เอาฟาร์มหมู จำนวน 91 คน และที่ประชุมมีข้อสรุปในการเปิดเวทีประชุมประชาคมรับฟังความคิดเห็นฯ ไม่ต้องการให้มีการก่อสร้างฟาร์มหมู่ในโครงการดังกล่าวต่อไป โดยใช้เวลาเกือบ 2 ชม.
——————————-
ข่าว-ภาพโดย/ธนภัท กิจจาโกศล , เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์ ,สมศักดิ์ ปัญญาสัย ทีมข่าวสระแก้ว
