สระแก้ว – หญิงวัย 33 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการสุดทน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไปทำงานฝั่งกัมพูชาให้ไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มุดรั้วหนีข้ามแดนมาประเทศไทย จ.สระแก้ว
เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 13 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ ผบ.ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 และ ฉก.ร.12 กองกำลังบูรพา สั่งการให้ พ.ต.อัศวิน เสาทอง ผบ.ร้อย ทพ.1201 นำกำลังเจ้าหน้าที่่ทหารพราน กองร้อย ทพ.1201 ร่วมกับ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว, พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.ท.จิรพัฒน์ เขียวศิริ สว.ส.ทท.สระแก้ว เข้าตรวจสอบบริเวณชายแดนช่องทางธรรมชาติ ท้ายตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย เป็นหญิง จำนวน 1 คน (ขาเข้า) ขณะกำลังมุดรั้วสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก เข้ามายังตลาดโกลเด้นเกท ภายในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ พิกัด TA 347118 บ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ทหารพรานจึงได้ทำการเข้าตรวจสอบพบเป็นชาวไทย ไม่พบบัตรประจำตัวประชาชนไทย และไม่พบเอกสารหนังสือเดินทาง หรือ Passport ซึ่งชาวไทยดังกล่าวได้เดินทางกลับมาจากทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ พื้นที่ จ.พระสีหนุ ประเทศกัมพูชา และมีความต้องการจะเดินทางกลับภูมิลำเนา บ้านเลขที่ 210/30 หมู่บ้านเฟื่องฟ้า 15 ซอย 17 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากโดนหลอกให้ไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ โดยขณะจับกุมไม่พบผู้นำพาและไม่เสียเงินให้กับผู้ใด ทางเจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อย ทพ.1201 จึงได้นำมาซักถามเพิ่มเติมที่ทำการกองร้อย ทพ.1201
ทั้งนี้ จากการสอบสวนชาวไทยคนดังกล่าว ทราบว่า เดินทางมาจาก จ.พระสีหนุ ประเทศกัมพูชา เดินทางเข้าไทยเพื่อกลับภูมิลำเนา จ.สมุทรปราการ จำนวน 1 คน ทราบชื่อต่อมา น.ส.ธนัชพร ชินรัมย์ อายุ 33 ปี อุณหภูมิร่างกาย 36.6 องศา ที่อยู่บ้านเลขที่ 210/30 หมู่บ้านเฟื่องฟ้า 15 ซอย 17 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ไม่มีเอกสารแสดงตน ไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ โดย น.ส.ธนัชพรฯ ให้การว่า ได้โดนหลอกให้เข้าไปทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ใน จ.พระสีหนุ ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66 ถูกชักชวนจากคนจีนไม่ทราบชื่อ โดยมีเพื่อนแนะนำให้รู้จัก ว่าจะให้ไปทำงานเป็นแม่บ้านและจะได้เงินเดือนที่สูง เดินทางเข้าไปยังประเทศกัมพูชาผ่านช่องทางธรรมชาติไม่ทราบพื้นที่ที่แน่นอน หลังจากทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ได้จนถึงวันที่ 12 ต.ค.66 น.ส.ธนัชพร ฯ มีความรู้สึกอยากจะกลับภูมิลำเนาประเทศไทย เนื่องจากทนทำงานไหว
น.ส.ธนัชพรฯ เล่าด้วยว่า ได้แอบยืมใช้โทรศัพท์ของบุคคลอื่นติดต่อกลับไปหาบิดาชื่อ นายวันชนะ ชินรัมย์ ว่าอยากจะกลับประเทศไทย บิดาจึงได้ทำการติดต่อหาเพื่อนของบิดาซึ่งเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา ให้ติดต่อหาผู้นำพาให้เพื่อนพา น.ส.ธนัชพร ฯ เดินทางกลับประเทศไทย และได้ทำการเสียเงินค่านำพาจำนวน 9,000 บาท โดยการโอนเงิน ต่อมา เมื่อวันที่ 12 ต.ค.66 เวลาประมาณ 09.00 ได้มีผู้นำพาชาวกัมพูชาไม่ทราบชื่อ เพศชาย มารับ น.ส.ธนัชพรฯ จากที่ทำงานคอลเซ็นเตอร์ จ.พระสีหนุ ประเทศกัมพูชา ตามที่นัดแนะ โดยใช้รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อ เดินทางออกจาก จ.พระสีหนุ มาถึงบ้านพักอาศัยของผู้นำพาชาวกัมพูชา ไม่ทราบสถานที่ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และได้ทำการพักคอย ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 จากนั้นเวลาประมาณ 23.00 ผู้นำพาได้พาเดินเท้ามาตามเส้นทางธรรมชาติ มาถึงบริเวณ กรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย จากนั้น ผู้นำพาได้บอกเส้นทางให้ น.ส.ธนัชพรฯ เดินเท้ามาตามเส้นทางทางธรรมชาติ ข้ามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย มาบริเวณทางรถไฟ เพื่อเข้ามายังสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก โดยได้แจ้งว่า จะมีชายชาวกัมพูชามารอรับ จนกระทั่ง พบเจ้าหน้าที่ทหารพรานและถูกจับกุมดังกล่าว ซึ่งเธอเคยเข้า–ออกไทยเป็นครั้งที่ 2 ทางช่องทางธรรมชาติ ภายหลังสอบสวนและบันทึกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.ธนัชพรฯ ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
- สระแก้ว จัดพิธีรับพระราชทาน “พระพุทธสิรินธรเทพรัตน์มงคลภูวดลสันติ”
- ป.ป.ช.ลงพื้นที่การรุกล้ำทางเข้าและกีดขวางการจราจร หน้าด่านคลองลึก-ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว
- สภาพการจราจรสระแก้วมุ่งหน้าช่องเขาตะโก ไปบุรีรัมย์และอีสานใต้เคลื่อนตัวได้ คาดตั้งแต่ค่ำนี้เป็นต้นไปรถเริ่มหนาแน่น
- ทำลายท่อซิ่ง!! รถ จยย.เสียงดังผิดกฎหมาย หลังระดมกวาดล้างจับกุมใช้มาตรการเข้มจับ-ปรับ 2,000 บาท ยึดท่อ ทำเอ็มโอยูผู้ปกครอง
————————–
ภาพ/กกล.บูรพา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: