สระแก้ว – วัยรุ่นต่างโรงเรียน ก่อเหตุปาระเบิดปิงปองใส่โรงเรียนสระแก้ว หลังชิงกระเป๋าสัญลักษณ์โรงเรียนมาเหยียบ เผาเสื้อ และโพสต์ท้าท้ายกัน สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ปกครองเกรงจะเกิดเป็นเหตุการณ์สลดเหมือนสถานบันการศึกษาใน กทม. หวั่นบานปลายเรียกร้องให้หน่วยงานเข้าแก้ไข ล่าสุด ตำรวจได้เข้าตรวจสอบและเชิญตัวนักเรียนทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ย มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 24 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวว่ารายงานว่า ภายหลังมีการเผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอ ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นจำนวนหนึ่ง ขับขี่รถจักรยานยนต์ นำระเบิดปิงปอง จำนวนไม่น้อยกว่า 2 ลูก มาปาใส่บริเวณด้านหลังและด้านหน้า ร.ร.สระแก้ว ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด เกิดเสียงดังสนั่น สร้างความตกอกตกใจให้กับผู้พบเห็นและผู้ปกครองที่มารับบุตรหลานในช่วงก่อนเลิกเรียนเล็กน้อย เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (23 พ.ย.66) โดยผู้ปกครองนักเรียนได้ให้ข้อมูลผ่านทางเพจสระแก้วบ้านเรา ซึ่งนำคลิปดังกล่าวไปโพสต์เผยแพร่ ระบุว่า “ตอนนั้นเสียงระเบิดปิงปองดังมากค่ะ ตอนนั้นนั่งอยู่ศาลาหน้าห้องสมุด เรากับเพื่อนหันไปมองเลย ตกใจมาก ๆ ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นก็หันไปมองทางประตูโรงเรียนค่ะ ,มีเสียงระเบิดตอนหลังอีกอยู่หน้า ร.ร.ไม่รู้ใช่เสียงระเบิดไหม ทีแรกได้ยินสองครั้งอยู่ทางหลัง ร.ร.สักพักใหญ่ได้ยินอีกครั้งแถว ๆ หน้า ร.ร.” ซึ่งผู้ที่ได้ยินเสียงระบุว่า มีการโยนระเบิดปิงปองใส่โรงเรียน บริเวณข้างหลัง 2 ลูก ข้างหน้าอีก 3 ลูก ซึ่งโชคดีมากที่ไม่มีใครเป็นอะไร พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจารย์ ผู้ปกครอง นักเรียน และผู้ก่อเหตุ รับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมส่วนรวม รีบเข้าไปดำเนินการเกรงว่าจะเกิดเหตุบานปรายจนมีผู้เสียชีวิตเหมือนกับสถานบันการศึกษาในกรุงเทพ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นได้รับข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุมีการโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเย้ยหยันกันระหว่างสถาบันการศึกษา 2 แห่ง กระทั่งมีการก่อเหตุแย่งชิงกระเป๋านักเรียน หรือเสื้อนักเรียน ของโรงเรียนสระแก้วและโรงเรียนท่ามะกา ซึ่งมีสัญลักษณ์ของโรงเรียนติดอยู่ มาเหยียบและถ่ายภาพโพสต์เย้ยหยัน ท้าทายกัน โดยมีผู้ให้ข้อมูลว่า เป็นเด็กแถวท่ามะกา เอากระเป๋านักเรียนของ ร.ร.สระแก้ว ไปเหยียบเพื่อถ่ายภาพเย้ยหยัน กระทั่งเมื่อวานนี้ มีการบุกมาปาระเบิดปิงปองเข้าไปในโรงเรียน ช่วงก่อนโรงเรียนจะเลิกประมาณ 15.30 น.ดังกล่าว ซึ่งเด็กนักเรียน ร.ร.สระแก้ว ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุปาระเบิดปิงปองดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ผมกำลังเดินไปประตูหลังรอพี่ แล้วก็เห็นพวกที่ปาระเบิด ตอนแรกเขาจุดพลุก่อน อีกสักพักเขาปาระเบิดมา 2 ลูก แล้วก็ขี่รถหนีไป ,โชคดีมากครับ ที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ผมอยู่ใน ร.ร. ผมตกใจเลยวิ่งไปดู ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากเรื่อง เหยียบกระเป๋า ร.ร.เหยียบเสื้อกัน แล้วก็เลยมีปัญหากันระหว่างนักเรียนต่างโรงเรียนในช่วงที่ผ่านมา
ล่าสุด พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและปราบปราม เข้าไปตรวจสอบกรณีดังกล่าวและรายงานให้กับ พล.ต.ต.ออมสิณ บุญญานุสนธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว รับทราบ ระบุว่า กรณีสื่อโซเชียลเสนอข่าวเหตุปาระเบิดหน้าโรงเรียนมัธยมสระแก้วนั้น ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 พ.ย.66 เวลาประมาณ 15.30 น.บริเวณหน้าโรงเรียนมัธยมสระแก้ว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สระแก้ว โดยพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ ทราบว่า คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้ท้าทายทางเฟซบุ๊ก โดยฝ่ายนักเรียนมัธยมสระแก้ว ได้โพสต์ภาพเหยียบเสื้อของโรงเรียนบ้านเขามะกา จากนั้นฝ่ายนักเรียนบ้านเขามะกา ได้โพสต์เผาเสื้อของโรงเรียนมัธยมสระแก้ว แล้วมีการท้าทายเป็นข้อความ จนกระทั่ง ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ กลุ่มนักเรียนบ้านเขามะกา ได้ขับรถจักรยานยนต์ นำก้อนระเบิด ซึ่งทำมาจากดินเทามัดรวมกับก้อนหิน เรียกว่า ระเบิดกระแทก นำมาขว้างปาบริเวณด้านหลังโรงเรียน จำนวน 2 ลูก และด้านหน้าโรงเรียนจำนวน 1 ลูก จากน้ันได้หลบหนีไป โดยไม่ได้ผู้ใดได้รับอันตรายแต่อย่างใด
ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว เปิดเผยว่า ความคืบหน้าขณะนี้ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสระแก้วและชุดปราบปราม สภ.เมืองสระแก้ว ได้ติดตามตัวนักเรียน โรงเรียนบ้านเขามะกา ผู้ก่อเหตุ ได้แก่ นายกฤษาณภัค หรือ ซัน หาญชนะ อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 10 ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว กับพวกรวม 10 คน โดยนำตัวนักเรียนทั้งหมดมาที่ สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อสอบสวนและบันทึกปากคำกรณีดังกล่าว รวมทั้งได้ติดตามครู ร.ร.มัธยมสระแก้ว ให้เดินทางมาที่ สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อสอบปาคำและไกล่เกลี่ยกรณีดังกล่าว และจะได้เชิญผู้ปกครองเด็กทั้งหมดมาสอบสวนด้วย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเยาวชน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปรายจนมีผู้เสียชีวิตเหมือนกับสถานบันการศึกษาในกรุงเทพ มิฉะนั้น จะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดย พ.ต.อ.เอกอนันต์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกว่า เหตุการณ์นี้เราได้ผู้ที่ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว เป็นกรณีที่มีการท้าทายกันทางเฟซ โดยทั้งสองฝ่าย คือ ร.ร.มัธยมสระแก้ว กับ ร.ร.เขามะกา มีการนำเสื้อของโรงเรียนมาเผา มาใช้เท้าเหยียบ และท้าทายกัน หลังจากนั้น นักเรียน ร.ร.เขามะกาก็ได้นำดินเทาใส่ลงในหินเพื่อเกิดแรงกระแทก ซึ่งไม่เกิดอันตรายในระยะเกินเมตร เพื่อให้เกิดเสียงดังเท่านั้นเอง ตอนนี้ฝ่ายสืบสวนได้นำตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาแล้ว อยู่ระหว่างสอบสวนปากคำและพยายามเรียกผู้ปกครอง รวมทั้งอาจารย์ของ ร.ร.มัธยมสระแก้ว มาสอบสวนปากคำ ส่วนมาตรการของโรงพัก เราได้รวบรวมข้อมูลโรงเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงไว้แล้ว มีการประชุมคณะครูเพื่อสำรวจนักเรียนกลุ่มเสี่ยงและทำบัญชี หลังจากนี้จะให้โรงเรียนคู่กรณีมีการจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อลดความขัดแย้ง ส่วนของตำรวจได้เพิ่มเจ้าหน้าที่สายตรวจเพื่อตรวจค้นโรงเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงไว้แล้ว
สำหรับขั้นตอนการดำเนินการกับเด็กทั้งหมด พ.ต.อ.เอกอนันต์ กล่าวว่า ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบสวนปากคำ ในส่วนความผิด จะดูเฉพาะการทำระเบิดในส่วนคนทำระเบิด กับคนที่ปาระเบิด คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องก็จะเรียกมาอบรม ร่วมกับพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งจะพิจารณาอีกทีว่า พ่อแม่มีความผิดเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง ส่วนพฤติกรรมเลียนแบบกลุ่มช่างกลที่เป็นข่าวนั้น ต้องยอมรับว่า ในโลกโซเชียลก็เป็นส่วนหนึ่งที่เกิดจากการเลียนแบบ ทาง ผบ.สตช.ก็มีแนวและออกมาตรการการเผชิญเหตุประเภทนี้อยู่แล้ว
“เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ จะต้องมีการนำไปทำกิจกรรมร่วมกัน อย่างน้อยผู้ปกครองต้องรับรู้ว่า เด็กของเรามีความผิดอะไรบ้าง เหตุเกิดจากอะไรบ้าง ต้องดูที่ปัญหาก่อน จากนั้น เมื่อผู้ปกครองเข้าใจ เด็กเข้าใจแล้ว ส่วนของโรงเรียนมีความบาดหมางที่เกิดจากสถาบัน ก็จะนำทั้งสองโรงเรียนมาทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง เพิ่มความสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างโรงเรียน จากนั้นไป เมื่อครู ผู้ปกครองมีความสัมพันธ์อันดี อะไร ๆ ก็น่าจะดีขึ้น ” ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว กล่าว
นายสุจิน ซอด้น อายุ 63 ปี ผู้ปกครองนักเรียนอยู่บ้านเขามะกา ม.10 ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว กล่าวว่า นักเรียนที่ไปร่วมก่อเหตุเป็นหลาน ยังไม่ทราบสาเหตุเห็นเพียงตำรวจไปนำตัวเด็กมา แล้วให้ผู้ปกครองมาร่วมสอบสวนด้วย โดยเด็กที่ถูกนำตัวมาทั้ง 11 คน มาจากหลายหมู่บ้าน แม้ว่าครูและผู้ปกครองจะเข้มงวดขนาดนี้ เด็กยังมาก่อเหตุอีก อยากให้มีสายตรวจเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่หมู่บ้านด้วย
ทางด้าน นายมานัส กงไกลาส ครูโรงเรียนมัธยมสระแก้ว กล่าวว่า เรื่องนี้เด็กนักเรียนมีปัญหากันนิดหน่อย โดยเด็กทะเลาะกันมีการท้าทายกันพร้อมกับข่มขู่กันเท่านั้นเอง ซึ่งตนได้ออกไปดูเหตุการณ์ มีลักษณะเหมือนเอาชนวนดินระเบิดปิงปองมาพันใส่เทปดำแล้วมาขว้างใส่โรงเรียน แม้ไม่ค่อยอันตรายเท่าไหร่ แต่ถ้าโดนเต็ม ๆ อาจจะมีบาดเจ็บได้บ้าง เพราะเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่อื่น อาจจะเป็นการเลียนแบบจากสื่อโซเชียลที่มันแรงขึ้น หรือมีคนข้างนอกยั่วยุ ซึ่งการพูดคุยไกล่เกลี่ยกันในวันนี้ ทางตำรวจให้ผู้ปกครอง ครูและนักเรียน ได้มีการพูดคุยเพื่อไกล่เกลี่ยปรับความเข้าใจกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์อีกเพราะเป็นพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียงกันทั้งนั้น เด็กท่ามะกาก็มาเรียนที่ ร.ร.สระแก้ว จึงไม่อยากให้เกิดปัญหานี้ขึ้น
—————————–
ข่าว-ภาพโดย/รักพงษ์ กิตติวรเมธี, เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์ ,สมศักดิ์ ปัญญาสัย ทีมข่าวสระแก้ว
ขอบคุณคลิป/เพจสระแก้วบ้านเรา
