สระแก้ว – กองบิน 3 วัฒนานคร จัดพิธีรำลึกสุดดีและเชิดชูเกียรติเหล่าวีรชนผู้กล้ากองทัพอากาศ ที่อนุสาวรีย์วีรชนกองทัพอากาศ ตำบลวัฒนานคร อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อนุสาวรีย์วีรชนกองทัพอากาศ ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว กองบิน 3 กองทัพอากาศได้ทำพิธีวางพวงมาลาสดุดีวีรชน ที่อนุสาวรีย์วีรชนกองทัพอากาศและพิธีบำเพ็ญกุศล อุทิศแด่วีรชนผู้เสียชีวิต ที่โรงเก็บอากาศยาน ฝูงบิน 301 กองบิน 3 โดยมี พล.อ.อ.ธรรมนาย สุขแสง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางมาเป็นประธานในพิธี โดยมี น.อ.อำนาจ สิงหพันธ์ ผู้บังคับการกองบิน 3 พ.อ.กิตติ ประพิตรไพศาล รองผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ เทศบาล ญาติของวีรชนกองทัพอากาศและส่วนราชการในพื้นที่ จ.สระแก้ว เข้าร่วมพิธี เพื่อเป็นการสดุดีวีรกรรมของเหล่าวีรชนทหารอากาศ ที่ร่วมกันเสียสละชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย
ทั้งนี้ น.อ.อำนาจ สิงหพันธ์ ผบ.กองบิน 3 กล่าวว่า กรณีเหตุการณ์สงครามมหาเอเชียบูรพา ญี่ปุ่นรุกรานประเทศไทย กองทัพและประชาชนชาวไทยได้ ร่วมกันต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นอย่างสุดความสามารถ โดยเมื่อ 8 ธันวาคม พุทธศักราช 2484 ฝูงบินของญี่ปุ่นบินผ่านสนามบินวัฒนานคร ฝูงบินที่ 43 ได้ส่งเครื่องบินแบบ 17 จำนวน 3 เครื่อง บินขึ้นสกัดกั้น โดยมี เรืออากาศเอก ไชย สุนทรสิงห์, เรืออากาศเอก ชิน จิระมณีมัย และ เรืออากาศตรี สนิท โพธิเวชกุล ขณะที่ฝ่ายญี่ปุ่นซึ่งครองอากาศอยู่ก่อนแล้ว นำเครื่องบิน Ki-27 จำนวน 11 เครื่อง ลงโจมตีเครื่องบินไทย ที่เพิ่งวิ่งขึ้นจากสนามบินตกทั้งหมด นักบินทั้ง 3 นาย เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อปกป้องประเทศชาติ แม้ว่าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบต่อฝ่ายข้าศึก ที่มีกำลังเหนือกว่าเป็นอย่างมาก วีรกรรมอันหาญกล้าของเหล่าวีรชนทหารอากาศ แสดงให้ประจักษ์แล้วว่า แม้มีกำลังที่น้อยกว่า แต่ศักยภาพของทหารอากาศก็สามารถปกป้องเอกราชอธิปไตย รักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของคนในชาติ แม้ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อและลมหายใจ เพื่อรักษาผืนแผ่นดินไว้ให้ลูกหลานไทยดำรงอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้
ขณะที่ พล.อ.อ.ธรรมนาย สุขแสง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ กล่าวสดุดีวีรชนฯ ว่า วันที่ 8 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญยิ่งวันหนึ่งของกองทัพอากาศ เป็นวันที่พวกเราทุกคน จะได้รำลึกถึงเหตุการณ์ที่เหล่าวีรชน ได้แสดงออกถึงความกล้าหาญ ความร่วมมือร่วมใจ ความเสียสละ ความไม่ย่อท้อ ยอมเสียสละเลือดเนื้อและลมหายใจ เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยบนผืนแผ่นดินไทยอันเป็นที่รักยิ่ง วีรกรรมในครั้งนั้น แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์และยอมรับกันทั่วไปว่า เป็นวีรกรรมที่มีพระคุณต่อประเทศชาติ สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติ ชื่นชมและยกย่อง เพื่อถ่ายทอดไปสู่คนรุ่นหลัง และปลูกฝังให้เกิดความภาคภูมิใจ วีรกรรมของทหารหาญที่มีนามจารึกอยู่ ณ อนุสาวรีย์แห่งนี้ จะยังคงอยู่ในความทรงจำของคนไทยทั้งชาติตราบนานเท่านาน
ข่าวน่าสนใจ:
“ในวันนี้ เพื่อนร่วมชาติและทายาทของท่านผู้กล้าหาญ ได้มาร่วมใจกันจัดงานเชิดชูเกียรติและบำเพ็ญบุญ เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่วีรชนผู้ล่วงลับ โดยสมบูรณ์ทุกประการแล้ว ขอบุญกุศลส่วนนี้ ประกอบกับคุณงามความดีของท่านได้โปรดรวมกันเป็นปัจจัย ส่งเสริมให้ดวงวิญญาณของวีรชนที่สละชีพ เพื่อประเทศชาติ ได้ประสบสุขในทิพยสถานตลอดกาล เพื่อเป็นการรำลึกถึงเกียรติคุณ และไว้อาลัยแด่วีรชนทั้งหลาย กระผมขอเรียนเชิญผู้มีเกียรติทุกท่าน ได้กรุณาสำรวมจิต ยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที”
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีวางพวงมาลาสักการะวีรชนกองทัพอากาศ ที่อนุสาวรีย์วีรชนกองทัพอากาศ ภายหลังแสดงความเคารพอนุสาวรีย์วีรชนกองทัพอากาศ และเป่าแตรเดี่ยวเป่าเพลงเคารพ 1 จบ และผู้เข้าร่วมพิธีแสดงความเคารพ ได้มีเครื่องบินขับไล่แบบ 19/ก หรือเครื่อง F-16 จำนวน 2 ลำ บินผ่านพิธีฯ แตรเดี่ยวเป่าเพลง และเปิดเพลงพญาโศก ยิงสลุตจำนวน 3 ชุด ปิดเพลงพญาโศก จนเสร็จพิธีวางพวงมาลา และประธานฯ ถ่ายรูปร่วมกับผู้แทนนายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ, ผู้บังคับการกองบิน และทายาทวีรชน ก่อนจะเดินทางไปยังพิธีบำเพ็ญกุศลฯ ณ อาคารโรงเก็บอากาศยานไร้คนขับ ฝูงบิน 301 กองบิน 3 มีพระสงฆ์ 10 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ ทอดผ้าบังสุกุล และถวายสังฆทานอุทิศแด่วีรชนผู้เสียชีวิต
——————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: