สระแก้ว – เครือข่ายภาคประชาชน จ.สระแก้ว นำเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 11 คน บุกร้องเรียนสถานกงสุลกัมพูชาประจำประเทศไทย หลังถูกหลอกไปทำงานจนต้องหนีตายข้ามแดน จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าสถานกงสุลกัมพูชา ประจำจังหวัดสระแก้ว เลขที่ 11/12 กม.5 ถ.สุวรรณศร ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เครือข่ายภาคข่ายประชาชนจังหวัดสระแก้ว นำชาวไทย ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเข้าไปทำงานในบ่อนคาสิโน ภูริคาสิโน กรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา จำนวน 11 คน เดินทางมาร้องเรียนถึงกรณีถูกหลอกไปทำงานยังบ่อนคาสิโนดังกล่าว จนเกิดเหตุการณ์เผาตึกและหนีตายข้ามแดนกลับมายังประเทศไทย เมื่อกลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้เดือดร้อนดังกล่าว ได้ยื่นหนังสือข้อร้องเรียนและแนบเอกสารรายละเอียดให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา เพื่อพิจารณาดำเนินการในกรณีที่เกิดขึ้น หลังกลุ่มคนดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.20 น. นายจักรพงษ์ พันธุ์โชติ นายอำเภออรัญประเทศ เดินทางมารับหนังสือ พร้อมกับกล่าวว่า จะนำหนังสือดังกล่าวไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ โดยนายอัมรินทร์ ยี่เฮง และกลุ่มผู้เรียกร้องได้เดินทางกลับภายหลังยื่นหนังสือเสร็จสิ้นโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ ซึ่งนายอัมรินทร์ ได้ให้ข้อมูลว่า กลุ่มคนไทยทั้งหมดไม่ใช่แก็งคอลเซ็นเตอร์ นี่คือการหลอกคนไทยไปกักขังบังคับและเรียกค่าไถ่ ทำการอนาจารข่มขืนกระทำชำเรา บังคับข่มเหงจิตใจ สิ่งที่คนพวกนี้โดนคือการจำยอม ไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่เป็นภัยรูปแบบใหม่ ซึ่งหลังจากที่เราได้ ติดตามข้อมูล 9 คนไทย ที่วางแผนหลบหนี ด้วยการวางเพลิง ตนเองก็ติดตามข้อมูลมาโดยตลอดและมาตกผลึก หลังจากที่ได้คุยกับกลุ่มน้อง ๆ ที่ถูกคนจีน ที่อาศัยประเทศกัมพูชาเป็นจุดศูนย์กลาง ในการกระทำการหลอกลวงให้หลงเชื่อว่า เปิดบริษัททำการเทรดหุ้น ซึ่งเมื่อศึกษาจริง ๆ แล้ว คำพูดทุกคำที่คนพวกนี้ใช้ในการหลอกลวง ล้วนแต่เป็นค
นายอัมรินทร์ กล่าวว่า เมื่อคนไทยไปถึงแล้ว ก็จะเปรียบเสมือนดั่งนักโทษ ที่เข้าไปในเรือนจำที่ต้องตรวจค้น และถูกส่งไปยังห้องพักต่าง ๆ ซึ่งมีคนไทยที่ถูกหลอกมาแล้วอาศัยอยู่ในห้องนั้น ๆ ไม่ต่ำกว่าห้องละ 15 คน ชายแยกชาย แยกหญิง คนเหล่านี้ที่ถูกหลอกไปวันหนึ่ง ไม่ได้ทำอะไรหรอก อยู่แต่ในห้อง มีอาหารมาส่งเช้า กลางวัน เย็น และเมื่อถึงเวลาที่คนพวกนี้สามารถเอาบัญชี ที่มีการสั่งให้เปิดบัญชีมา 7-8 บัญชีนั้น หลอกคนได้เงินเข้ามาเมื่อไหร่ ก็จะเอาคนเหล่านี้ไปสแกนหน้า จนกว่าบัญชีจะถูกระงับหรือถูกอายัดหรือเรียกว่า บัญชีตาย หากคนใดเมื่อบัญชีถูกอายัดหรือถูกระงับเรียบร้อยแล้ว ก็จะถามว่า อยากจะกลับบ้านไหม ถ้าอยากจะกลับบ้าน เอาเงินมา 50,000 บาทหรือ 100,000 บาท แล้วแต่มันจะเรียก
“หากเป็นเด็กผู้หญิง อายุ 17 ,18, 19, 20 ปี มันก็จะถามว่าอยากจะกลับบ้านไหม ถ้าอยากจะกลับเอาเงินมา แล้วแต่ที่มันจะเรียกไม่ว่าจะเป็น 50,000 บาทหรือ 1 แสนบาท แต่ถ้าไม่มีเงิน มันก็จะถามว่า คิดมาว่าจะทำอย่างไรโดยที่มันเสนอว่า ไปนอนกับมันวันละครั้งหรือสองครั้ง หรือแล้วแต่มันจะกำหนด จนกว่ามันจะพอใจ แล้วมันก็ส่งกลับบ้าน ซึ่งการส่งกลับ ก็เหมือนการเดินทางเข้ามานั่นแหละ เข้าทางไหนออกทางนั้น เข้าทางป่าก็ออกทางป่า เข้าทางธรรมชาติก็เข้าออกทางธรรมชาติเหมือนเดิม เพียงแต่ บางคนอาจจะถูกยึดโทรศัพท์ โดยเฉพาะ iPhone มันยึดไว้แน่นอน ที่สำคัญบัตรประชาชนทุกอย่างที่ระบุเจาะจงเป็นตัวเรา มันยึดไว้หมด เมื่อกลับมาถึงฝั่งไทยแล้ว กลับมาถึงบ้าน คราวนี้ล่ะครับความเดือดร้อนความยุ่งเหยิง ที่มันให้เราไปสแกนหน้า เพื่อที่จะเอาเงินออกจากบัญชี ซึ่งเป็นบัญชีของเราเองนั่นแหละ ที่มันบังคับขู่เข็ญหากใครขัดขืน ก็ถูกมันทำร้ายร่างกาย ถูกไฟฟ้าช็อต ถูกซ้อมจนกว่ามันจะพอใจ” นายอัมรินทร์กล่าวและว่า
เราจะกลายเป็นคนที่มีคดีติดตัวทันที โดยเฉพาะกลุ่มคนพวกนี้ แต่ละคนมีไม่น้อยกว่า 3 คดีขึ้นไป ต่างกรรมต่างวาระโอนเงินเข้ากี่ครั้ง ยกตัวอย่างเช่น ครั้งละ 6 ปี 10 ครั้งก็ 60 ปี นี่ไงคือผลที่ตามมา เสียทั้งรู้ ถูกหลอก ได้ของแถมคือคดี บางที่ก็ไม่รู้ว่า จะติดคุกหรือไม่ และก็ไม่รู้อีกว่า หน่วยงานภาครัฐจะดำเนินการช่วยเหลือได้อย่างไร อ้างแต่ว่า ไปเปิดบัญชีม้า ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริง นี่มันคือการถูกหลอกลวงและล่อลวง เรียกค่าไถ่และข่มขืน ไม่โดนกับตนเองไม่รู้หรอกครับ หน่วยงานภาครัฐภาคราชการ ภาคฝ่ายปกครอง นี่คือภัยรูปแบบใหม่ที่คนไทยจะต้องถูกคนเหล่านี้หลอกลวงท่าน ควรจะทำอะไรสักอย่างกันนะครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องนี้ผมย้ำนะครับว่าไม่ใช่การเปิดบัญชีม้า แต่เป็นการหลอกลวงและล่อลวง เอาเรื่องความเป็นจริง มาหลอก เพื่อให้ ได้ในสิ่งที่กระบวนการพวกนี้ต้องการ นั่นก็คือ เงิน นี่คือการฟอกเงินในอีกระบบหนึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทยควรจะศึกษาเรื่องนี้ด้วย
ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า ผมยืนยันนะครับว่า หลังจากที่คุยกับน้อง ๆ ทั้งหมดนี้แล้ว นี่คือการหลอก ขบวนการพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งบริษัทปลอม หรือตั้งบริษัทหลอกลวงตามเทศกาลต่าง ๆ เช่น โรงแรมทิพย์ การท่องเที่ยวทิพย์ ขายทัวร์ แล้วเงินก็โอนเข้าสู่บัญชีของคนพวกนี้ นี่คือภัยรูปแบบใหม่ วันนี้ผมไม่รู้หรอกว่า ใครจะมองคนพวกนี้อย่างไร แต่นี่คือคนไทย ที่เราต้องช่วย เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว จะมีคนโดนหลอกไปมากกว่านี้ รวมถึงลูกหลานของท่านด้วย ท่านข้าราชการ ลูกของท่านอาจจะโดนคนพวกนี้ข่มเหงจิตใจ หรือร่างกายก็เป็นได้ ผมฝากเอาไว้ให้คิด นี่คือภัยรูปแบบใหม่ หากคนไทยไม่ช่วยคนไทยกันแล้ว จะไปช่วยหมาที่ไหน นี่ไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่มันคือ กระบวนการค้ามนุษย์และกระบวนการเรียกค่าไถ่ ฝากหน่วยงานด้วย โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปกครอง และสื่อมวลชน มาตีแผ่เรื่องราวเหล่านี้ให้สังคมรับทราบ จะได้ไม่ต้องถูกหลอก มันไม่มีจริงหรอก งานเงินเดือน 3-4 หมื่นบาท ค่าคอมมิชชั่นอีกหลายหมื่นบาทต่อเดือน มันไม่เป็นความจริง นี่คือการถูกบังคับขู่เข็ญรีดเอาทรัพย์ของผู้อื่น โดยเจตนาหลอกลวง จึงต้องการให้สถานกงสุลกัมพูชารับรู้ข้อมูลและไปดำเนินการกับคนกลุ่มนี้
—————————-
ข่าว-ภาพโดย/เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์, สมศักดิ์ ปัญญาสัย ทีมข่าวสระแก้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: